EV–AI–IoT คืออนาคต: ไทยจัด THECA 2025 รับมือโลกใหม่อิเล็กทรอนิกส์

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568

EV–AI–IoT คืออนาคต: ไทยจัด THECA 2025 รับมือโลกใหม่อิเล็กทรอนิกส์


เมื่อเทคโนโลยีอย่าง EV (รถยนต์ไฟฟ้า), AI (ปัญญาประดิษฐ์) และ IoT (อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง) กำลังเข้ามาพลิกโฉมโลกอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยจึงเปิดเกมรุกครั้งสำคัญเพื่อรับมือและคว้าโอกาสในยุคเปลี่ยนผ่าน ด้วยการจัดงาน Thailand Electronics Circuit Asia 2025 (THECA 2025) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ณ EH99–100 ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายใหญ่ในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตอิเล็กทรอนิกส์และแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) แห่งเอเชีย
 
การจัดงานในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ), สมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย (THPCA) และ สมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ฮ่องกง (HKPCA) โดยมี นายนฤชา ฤชุพันธุ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และเจ้าภาพการจัดงาน THECA 2025 ย้ำถึงนโยบายผลักดันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นหนึ่งใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้แผน “Thailand 4.0” และ “Industry 5.0” โดยเน้นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงพื้นที่จัดแสดง THECA 2025 ครั้งนี้ ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ตารางเมตร หรือมากกว่าปีก่อนถึงสองเท่า งานนี้ตั้งเป้าเพื่อต้อนรับ 500 บริษัทชั้นนำจากอุตสาหกรรม และคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมงานและนักลงทุนกว่า 7,000 รายจากทั่วโลก มาร่วมสำรวจนวัตกรรม เทคโนโลยี และโอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB)
 
นายนฤชา ฤชุพันธุ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และเจ้าภาพการจัดงาน THECA 2025 เปิดเผยว่า “ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทชั้นนำจากหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญของเศรษฐกิจในอนาคต สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ  ที่มุ่งสู่เศรษฐกิจใหม่ ทำให้มีโครงการลงทุนจำนวนมาก หากพิจารณาเฉพาะกลุ่ม PCB พบว่า มีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในปี 2567 ทั้งหมดจำนวน 81 โครงการ มูลค่าประมาณ 99,228 ล้านบาท  และคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรม PCB ไทยจะมีส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มขึ้นจาก 4% เป็น 10% ในอีก 3 - 5 ปีข้างหน้า ตอกย้ำศักยภาพของไทยในการก้าวสู่ศูนย์กลางการผลิตอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะแห่งใหม่ในภูมิภาคอาเซียน และเพิ่มโอกาสให้กับอุตสาหกรรมในประเทศที่ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ซึ่งงานแสดงสินค้า Thailand Electronics Circuit Asia เป็นมากกว่างานแสดงสินค้า แต่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระบบนิเวศของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่เปิดโอกาสให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีของโลก ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน” 
 
จากการย้ายฐานการผลิตของผู้ผลิต PCB มายังประเทศไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ PCB ชนิด High Density Interconnect และชนิด Multilayer ที่นำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีสูง ซึ่งช่วยสนับสนุนการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรม PCB ในประเทศ ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต PCB ที่ครบวงจร ปัจจุบัน 80% ของ PCB ที่ผลิตในไทยถูกส่งออกไปยังตลาดหลัก เช่น จีน, สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในระดับสากล นอกจากนั้น ประเทศไทยยังมี แผนพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ซึ่งช่วยให้บริษัทข้ามชาติที่ต้องการผลิต PCB ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเลือกใช้ไทยเป็นฐานการผลิต และการพัฒนาบุคลากร ยกระดับทักษะการปฏิบัติงานของบุคลากร  ในภาคอุตสาหกรรมผ่านการ Upskill และ Reskill เพื่อเตรียมความพร้อมของแรงงาน รองรับความต้องการแรงงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 80,000 คน ในช่วง 2 ปีข้างหน้า 
 
การจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ออโรเม็กซ์ จำกัด และบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด 
 
นายพิธาน องค์โฆษิต นายกสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย (THPCA) และประธานจัดงาน THECA 2025 เปิดเผยว่า ในปีนี้ การส่งออกแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ของประเทศไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10–15% ของตลาดโลก หรือประมาณ 6–8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการขยายตัวของเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ระบบ 5G และ IoT ตลอดจนการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมการผลิต 
 
ปัจจุบัน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) เป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 88% ของตลาดโลก โดย PCB, PCBA (การประกอบแผ่นวงจรพิมพ์) และ EMS (บริการรับจ้างผลิตอิเล็กทรอนิกส์) ถือเป็นรากฐานสำคัญของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่
 
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ ทั้งในด้านกฎระเบียบสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้น และความต้องการด้านประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของความทนทานต่ออุณหภูมิสูง การต้านทานแรงดันไฟฟ้า และการออกแบบให้มีขนาดเล็กลง  
 
ดังนั้น ในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก ผู้ผลิตจึงเร่งผลักดันนวัตกรรมผ่านเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ การพิมพ์ 3 มิติสำหรับต้นแบบอย่างรวดเร็ว ระบบอัตโนมัติสำหรับการประกอบวงจรที่แม่นยำและซับซ้อน และการใช้วัสดุที่มีความยั่งยืน ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เช่น แผ่นวงจรความหนาแน่นสูง (HDI), แผ่นวงจรแบบแข็และ-ยืดหยุ่น (Rigid-Flex), แผ่นวงจรสำหรับชิป (IC Substrates), ชุดอุปกรณ์ไฟฟ้า (power electronics modules), แผ่นวงจรคลื่นความถี่วิทยุ (RF/Microwave), และชุดควบคุมคุณภาพระดับยานยนต์  ชิ้นส่วนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาด เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS), การขับขี่อัตโนมัติ, ระบบอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ
 
การพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้มีระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง เป็นผู้นำในระดับภูมิภาคและแข่งขันได้ในระดับโลก สมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทยจึงได้ร่วมกับมือกับ บีโอไอ พัฒนางาน THECA 2025 ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด 'How to Build Effectively a Future Electronic Ecosystem' ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมให้พร้อมรับมือกับอนาคต โดยมุ่งพัฒนา 4 เสาหลักได้แก่ 
 
1. Connected Ecosystem – การเชื่อมโยงซัพพลายเชนในระดับภูมิภาคและระดับโลก สนับสนุนการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ผลิต PCB, PCBA และซัพพลายเชนอื่น ๆ เชื่อมโยงผู้ประกอบการ SME กับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรม 
 
2. Smart & Green Manufacturing – การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมแนวคิด Net Zero Manufacturing และ ESG Compliance ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางของ Smart Factory ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 
 
3. Talent & Innovation Hub – การพัฒนาทรัพยากรบุคคลและนวัตกรรม จัดหลักสูตรฝึกอบรมและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัย สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง 
 
4. New Business Opportunities – การสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการค้าและการลงทุน เปิดเวทีให้เกิดการจับคู่ธุรกิจและความร่วมมือทางการค้า ขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงตลาดต่างประเทศ
 
นายเสวก ประกิจฤทธานนท์ อุปนายกและเลขานุการสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย และประธานศูนย์แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไทย กล่าวเสริมว่า หนึ่งในความท้าทายสำคัญที่อุตสาหกรรม PCB ไทยกำลังเผชิญคือ “วิกฤตแรงงานเฉพาะทาง” ซึ่งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในอนาคต โดยภายในปี พ.ศ. 2570 อุตสาหกรรม PCB ของไทยคาดว่าจะสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดโลกเพิ่มขึ้นเป็น 20–25% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 18–25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดดังกล่าว คาดว่าประเทศไทยจะขาดแคลนแรงงานเฉพาะทางในอุตสาหกรรมนี้มากกว่า 80,000 คนภายใน 2 ปี โดยในจำนวนนี้ราว 40% หรือประมาณ 32,000 ราย จะเป็นแรงงานในระดับวิศวกร หากไม่มีการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของทรัพยากรบุคคลอย่างเร่งด่วน ประเทศไทยอาจสูญเสียรายได้รวมมากถึง 2-3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 74,000–111,000 ล้านบาท (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ)เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ศูนย์แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไทย (TECC) ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และดำเนินการร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันแนวทางแก้ไขวิกฤตแรงงานเฉพาะทางนี้อย่างเป็นระบบ  
 
ภายใต้ความร่วมมือนี้ งาน THECA 2025 จึงได้จัด "Job Fair PCB 2025" ขึ้น เพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างแรงงานกับอุตสาหกรรม และพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพให้สามารถขับเคลื่อนอุตสาหกรรม PCB ไทยสู่ระดับโลก ในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่
 
• การรับสมัครแรงงานใหม่และนักศึกษาจบใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรม PCB และอิเล็กทรอนิกส์ 
 
• จับคู่แรงงานกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมที่ต้องการพนักงานคุณภาพสูง 
 
• อบรมทักษะ Reskill และ Upskill ให้กับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพหรือพัฒนาตัวเองสู่อุตสาหกรรม PCB 
 
• เวทีสัมมนาและ Workshop จากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรม PCB ในอนาคต  
 
ศูนย์แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไทย (TECC) มุ่งมั่นพัฒนาและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ สถาบันการศึกษา และภาคอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและนวัตกรรม PCB แห่งภูมิภาคอย่างยั่งยืน
 
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและกลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก นายแคนิส ชุง ประธานสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ฮ่องกง (HKPCA) และผู้ร่วมจัดงาน THECA 2025 ได้กล่าวเสริมว่า ประเทศไทยมีบทบาทโดดเด่นมากขึ้นในเวทีอุตสาหกรรมแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) และซับสเตรต (Substrate) ระดับโลก เพราะลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง การผลิตที่ทันสมัย และการสนับสนุนจากภาครัฐที่เป็นรูปธรรม ทำให้ไทยกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในเอเชีย ขณะนี้อุตสาหกรรมกำลังก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนด้วยการเติบโตของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์ และระบบขนส่งอัจฉริยะ ซึ่งความสามารถในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในระดับภูมิภาคจะ เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นและนวัตกรรมอย่างยั่งยืน โดยงาน THECA 2025 จะเป็นเวทีเชิงกลยุทธ์ที่เปิดโอกาสให้ผู้นำในอุตสาหกรรมจากทั่วโลกได้ร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคตร่วมกัน และยกระดับบทบาทของเอเชียในระบบเศรษฐกิจอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก
 
ขณะเดียวกัน นายเดวิด เบิร์กแมน (Mr. David W. Bergman) รองประธานฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สถาบันอิเล็กทรอนิกส์สากล สหรัฐอเมริกา เน้นย้ำว่า ผู้ผลิตรายใหญ่ทั่วโลกต่างหันมาใช้กลยุทธ์ “China Plus One” เพื่อกระจายความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับการตั้งโรงงานผลิต PCB และศูนย์ EMS แบบครบวงจร ทั้งนี้ นายเบิร์กแมน ยังชี้ให้เห็นถึง 4 ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่กำหนดทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โลก ได้แก่ สถานโลกที่ไม่แน่นอนและปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น และการขาดแคลนแรงงานเฉพาะทาง ปัจจัยเหล่านี้กำลังผลักดันให้บริษัททั่วโลกลงทุนในกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน เทคโนโลยีอัตโนมัติขั้นสูง และพัฒนาทักษะแรงงาน  ซึ่งประเทศไทย มีความพร้อมในทุกด้านและสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของภูมิภาคนี้
 
สำหรับงาน THECA 2025 ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตอิเล็กทรอนิกส์แห่งใหม่ของเอเชีย ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่แข็งแกร่ง โดยเน้นการผลักดันเทคโนโลยี EV, AI และระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงเวทีแสดงสินค้า แต่เป็นแพลตฟอร์มเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งพัฒนาเครือข่ายห่วงโซ่อุปทาน เสริมสร้างทักษะแรงงาน และวางรากฐานระบบนิเวศเพื่ออนาคตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โลกอย่างยั่งยืน


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ