บริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเคลื่อนคาร์บอนเครดิตอย่างยั่งยืน ได้นำเสนอนวัตกรรมเพื่อเสริมศักยภาพโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจของไทย (T-VER) ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวแบบครบวงจร หรือ “Smart Forest” และ โปรแกรมการประเมินคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ ภายในงาน "นวัตกรรมสำหรับโครงการ T-VER ภาคป่าไม้"
นอกจากการเปิดตัวโปรแกรมการประเมินคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ด้วยเทคโนโลยีการสำรวจข้อมูลระยะไกล (Remote Sensing) และ AI แล้ว ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “นวัตกรรมสำหรับโครงการ T-VER ภาคป่าไม้” ในช่วงเปิดตัวนวัตกรรม คุณมีนา ศุภวิวรรธน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติร่วมเปิดตัวโปรแกรมการประเมินคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ด้วย Remote Sensing และ AI และคุณพณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท วรุณา ได้ร่วม เสวนาเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ด้านนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการ T-VER ภาคป่าไม้
พณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท วรุณา กล่าวว่า เนื่องจากการกักเก็บคาร์บอนในต้นไม้มีบทบาทสำคัญในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม การประเมินค่าการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่าไม้ ต้องอาศัยการลงพื้นที่เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลทางชีวภาพ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ใช้เวลานาน มีต้นทุนสูง และอาจไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงอาจเกิดอันตรายจากสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
บริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จึงได้มีแนวคิดในการนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาความท้าทายในการพัฒนาโครงการคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกลร่วมกับเทคนิคปัญญาประดิษฐ์พัฒนาเป็นแบบจำลองที่สามารถประเมินการกักเก็บคาร์บอนของพื้นที่ป่าไม้ และแสดงผลผ่านแพลตฟอร์ม Smart Forest ซึ่งนอกจากช่วยลดต้นทุน เวลา และการเสี่ยงภัยในการลงพื้นที่สำรวจแล้ว ยังสามารถช่วยประเมินพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ส่งเสริมการสร้างความโปร่งใส สนับสนุนการพัฒนาโครงการด้านคาร์บอนเครดิต การอนุรักษ์ป่าไม้ และการติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียวในระยะยาวความสำเร็จในการดำเนินการนี้เป็นก้าวสำคัญที่เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดย ปตท. ได้ให้การสนับสนุนข้อมูลที่สำคัญและการลงพื้นที่ภาคสนาม เพื่อใช้ในการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของค่าที่ได้จากโมเดล ทำให้ผลลัพธ์มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น” คุณพณัญญา ให้ความเห็นเพิ่มเติม
จุดเด่นของ Smart Forest ไม่เพียงช่วยในด้านการประเมินคาร์บอนเครดิตเท่านั้น แต่ยังช่วยในการวางแผนการเลือกพื้นที่ การคัดเลือกแปลง การติดตามการดำเนินการทั้งในด้านการลดความเสี่ยงจากไฟป่า การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และการดูแลชุมชมเพื่อให้ทุกบริษัทบรรลุเป้าหมายของโครงการและได้คาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพ บรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ขององค์กร
“เราหวังว่า Smart Forest จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่กำลังมองหาเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการพื้นที่ป่า ได้มีทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันให้นวัตกรรมสำหรับพื้นที่สีเขียวของไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และสนับสนุนให้ตลาดคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจของไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” พณัญญา กล่าวทิ้งท้าย