“EVEANDBOY” เผย ภาวะ ศก. โดยรวมหยุดนิ่ง ไม่สะเทือนธุรกิจความงามมูลค่า 2.8 แสนล้าน คนยังรักสวยดูแลตัวเอง วางงบ 600 ลบ. อัด Exclusive Brand เสริมทัพ พร้อมผุดสาขาเพิ่ม 25 แห่ง มั่นใจยอดโตตามเป้าแตะ 30%

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

“EVEANDBOY”  เผย ภาวะ ศก. โดยรวมหยุดนิ่ง ไม่สะเทือนธุรกิจความงามมูลค่า 2.8 แสนล้าน คนยังรักสวยดูแลตัวเอง วางงบ 600 ลบ. อัด Exclusive Brand  เสริมทัพ พร้อมผุดสาขาเพิ่ม 25 แห่ง มั่นใจยอดโตตามเป้าแตะ 30%


นายหิรัญ ตันมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีฟแอนด์บอย จำกัด กล่าวว่า ตลาดความงามไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าระบุว่า ปี 2567 ตลาดความงามไทยมีมูลค่าสูงถึง 2.81 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าราว 10.4% ปัจจัยเกื้อหนุนที่ทำให้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องมาจากช่องทางการขายผ่านอีคอมเมิร์ซที่ยังโตแรง รวมถึงความนิยมของเครื่องสำอางแบรนด์ไทยโดยเฉพาะกลุ่มสินค้า SMEs ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับภาพรวมตลาดธุรกิจความงามปี 2568  นี้เราก็ยังมองว่าคงเติบโตต่อเนื่องแม้สภาพเศรษฐกิจโดยภาพรวมอาจจะไม่ค่อยดีนัก แค่พฤติกรรมของผู้บริโภคในเรื่องการรักสวยรักงามยังคงมีความจำเป็นอยู่สำหรับผู้หญิงและทุกเพศ ทุกวัยที่ดูแลตัวเอง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะมาท่องเที่ยวไทยลดน้อยลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน กรณีนี้อาจจะส่งผลบ้างสำหรับตลาดในภาพรวม แต่สำหรับอีฟแอนด์บอยนั้นไม่ได้มีผลกระทบเนื่องจากลูกค้าหลักของเราเป็นคนไทย 90 % 

สำหรับด้านภาพรวมธุรกิจ EVEANDBOY ในปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่า มีการเติบโตมากถึง 40% เป็นมูลค่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยกลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนเติบโตมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มเครื่องสำอาง (MAKEUP) โตมากถึง 45% ตามมาด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (SKINCARE) 40% กลุ่มน้ำหอม (FRAGRANCE) 35% และกลุ่มอื่น ๆ ก็ยังมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และไตรมาสแรกของปี 2568 บริษัทมีการเติบโตเป็นไปตามเป้าที่ 30% โดยมาจากการขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และยังมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดกับสาขาเดิมเพื่อรองรับการเติบโตในปีนี้เช่นเดียวกัน ในปี 2568 นี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตจากปีก่อนหน้า 30%

ผู้บริหารหนุ่มหล่อ กล่าวต่อว่า  ปีนี้ตลาดบิวตี้ในไทยมีความคึกคักมากกว่าปีก่อนมาก เนื่องจากมีสินค้าออกใหม่ค่อนข้างหลากหลายโดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอาง ทำให้ลูกค้าช็อปสนุกมากขึ้น มีตัวเลือกมากขึ้น รวมถึงการสื่อสารบนช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น โดยกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และพนักงานออฟฟิศ ถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเราที่มีอัตราการเติบโตสูง รวมถึงยังเป็นกลุ่มที่มีอัตราการซื้อซ้ำ และเป็นกลุ่มลูกค้า Loyalty ที่เหนียวแน่น เข้ามาช็อปปิ้งที่ร้านสม่ำเสมอ โดยปีนี้ทาง EVEANDBOY มีการวางกลยุทธ์ทางตลาดที่ทำให้ลูกค้านึกถึงเราเป็นที่แรกเมื่อมีสินค้าออกใหม่หรือต้องการอัปเดตเทรนด์สินค้าใหม่ ๆ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำการตลาดของ EVEANDBOY มาโดยตลอด ซึ่งในปี 2568 นี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตจากปีก่อนหน้า 30%และได้วางงบลงทุนไว้ที่ 600 ล้านบาท ในการทำตลาด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม Exclusive Brand เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุดผ่านการขยายสาขาหน้าร้านอย่างต่อเนื่องมากกว่า 25 สาขา คาดว่า สิ้นปี 2568 เราจะมีทั้งสิ้น 65 สาขา  และภายในปี 2571 จะมี EVEANDBOY ทั้งหมด 140 สาขา สำหรับโลเกชันที่เลือกเปิดต้องมีศักยภาพ เป็น Strategic Location รวมถึงยังเน้นเจาะกลุ่มไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ EmSphere, Platinum, Terminal 21 Asok, Siam Premium Outlet ทั้งยังมีการขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด โดยปัจจุบัน EVEANDBOY มีทั้งหมด 45 สาขา แบ่งสัดส่วนออกเป็นพื้นที่ในกรุงเทพฯ 26 สาขา และต่างจังหวัด 19 สาขา

ล่าสุด ปีนี้ทาง EVEANDBOY’ บิวตี้สโตร์เบอร์ 1 ของประเทศ ยังคงเดินหน้าจัดงาน ‘EVEANDBOY BEST SELLING AWARDS 2024’ งานประกาศรางวัลผลิตภัณฑ์ความงามทรงคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ปีนี้มาในคอนเซปต์ ‘THE TIMELESS ELEGRANCE’ ค่ำคืนที่เจิดจรัสด้วยความงามอันทรงคุณค่า กับผลิตภัณฑ์ความงามที่สร้างปรากฏการณ์ยอดขายสูงสุดแห่งปีของเมืองไทย ซึ่งปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว พร้อมกับจำนวนผู้ได้รับรางวัลมากถึง 145 รางวัล นับเป็นจำนวนที่มากที่สุดตั้งแต่มีการจัดงาน ‘EVEANDBOY BEST SELLING AWARDS 2024’ จะเป็นเครื่องหมายการันตีให้กับแบรนด์ที่ได้รับความนิยม มียอดขายสูงสุด โดยรางวัลในปีนี้แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่ น้ำหอม (FRAGRANCE), เครื่องสำอาง (MAKEUP), ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (SKINCARE), ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย (PERSONAL CARE & BODY), ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและอุปกรณ์ (HAIR & ACCESSORIES) และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม (SUPPLEMENT) โดยปีนี้ EVEANDBOY ยังเน้นย้ำเรื่องความหลากหลายของสินค้ามัลติแบรนด์ รวมถึงการนำเข้าผลิตภัณฑ์ ‘Exclusive Brand’ ที่กำลังเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดีย เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่นำสินค้าดังกล่าวเข้ามาวางจำหน่าย อาทิ International Brand อย่าง ‘Kylie Cosmetics’ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี กระทั่งได้ต่อสัญญาในฐานะ Exclusive Brand ต่อเนื่องเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังมี International Brand แบรนด์ อาทิ Lilybyred, Tirtir, Cancer Council และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อทำให้ EVEANDBOY เป็นจุดหมายปลายทางของลูกค้าเมื่อนึกถึงสินค้าในกระแส



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ