โทชิอากิ อาซากุระ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการขายและการตลาด ส่วนงานอีเล็คทริค เวิร์คส บริษัท พานาโซนิค โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลาดสวิตช์และเต้ารับในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยเชิงบวกจากอุตสาหกรรมก่อสร้าง ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และแนวโน้มการรีโนเวทที่อยู่อาศัย โดยในปี 2024 ตลาดมีมูลค่ารวมกว่า 3,900 ล้านบาท ซึ่งพานาโซนิคยังคงเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สวิตช์และเต้ารับเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 43% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.7 พันล้านบาท ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ว่าในปี 2025 นี้ ตลาดจะเติบโตขึ้นอีก 2% ซึ่งจะมีมูลค่าประมาณกว่า 4 พันล้านบาท สำหรับกลยุทธ์บริษัทจะดันเรือธงผลิตภัณฑ์ใหม่ "Partio Series" ก้าวใหม่ของการออกแบบสวิตช์และเต้ารับเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อรุกตลาดที่อยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่พานาโซนิคเป็นผู้นำในกลุ่ม non-residential มาตลอด โดย Patio Seriesให้ได้มากกว่าฟังก์ชัน คือสุนทรียภาพในการออกแบบ ถูกออกแบบมาไม่ใช่แค่เพียงอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่เป็นองค์ประกอบหนึ่งของการตกแต่งภายใน ที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศของพื้นที่อยู่อาศัยให้สมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วย ดีไซน์ไร้กรอบ ที่เรียบหรู ทันสมัย และผสานเข้ากับทุกสไตล์ของบ้านได้อย่างลงตัว
ด้าน นายณัฐพงษ์ ฤกษ์สุทธิวิเศษ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการขายและการตลาด ผลิตภัณฑ์เอเนอร์จี ซิสเต็มส์ บริษัท พานาโซนิค โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันแนวโน้มการออกแบบที่อยู่อาศัย ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว หรือคอนโดมิเนียม มีความหลากหลายมากขึ้นกว่าในอดีต ส่งผลให้ทั้งผู้พัฒนาโครงการ นักออกแบบภายใน สถาปนิกและผู้บริโภค ต่างมองหาตัวเลือกอุปกรณ์กลุ่มสวิตช์และเต้ารับที่ให้มูลค่าเพิ่ม ทั้งด้านดีไซน์ สีสัน และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น โดยปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสนใจคือ เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน และสามารถอำนวยความสะดวกให้กับการดำเนินชีวิตประจำวันได้มากขึ้น นอกจากนี้ การขยายตัวของโครงการอสังหาริมทรัพย์จากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปยังหัวเมืองหลักในต่างจังหวัด ทำให้ แนวโน้มการออกแบบที่อยู่อาศัยและความต้องการอุปกรณ์ไฟฟ้าเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ด้วยเทรนด์ที่เปลี่ยนไปนี้ ผู้บริโภคจึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านฟังก์ชันและความสวยงาม เพื่อเสริมคุณภาพชีวิตให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย”
สำหรับปีนี้บริษัทเตรียมแผนรุกตลาดผ่านผลิตภัณฑ์ "Partio Series" ด้วยกลยุทธ์ Multi-Channel Expansion Strategy โดยมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ นักพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย นักออกแบบภายใน สถาปนิก และเจ้าของบ้านยุคใหม่ และเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัทเตรียมจัดแสดง "Partio Series" ในงาน สถาปนิก’ 68 ที่กรุงเทพฯ ก่อนขยายต่อไปยังหัวเมืองหลัก อาทิ พัทยา, ภูเก็ต, เชียงใหม่, กระบี่, หาดใหญ่ และขอนแก่น นอกจากนี้ ยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยช่องทางจำหน่ายที่ดี มีการร่วมมือกับร้านค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า (Electronic Construction Material Shop (ECM) และ Modern Trade เพื่อเพิ่มการมองเห็นและกระตุ้นยอดขาย
นอกจากนี้ยังวางกลยุทธ์การตลาดครบวงจร ทั้งช่องทางออนไลน์ เพื่อกระตุ้นการเข้าถึงผ่าน Facebook, LINE Official Account และเว็บไซต์ Panasonic Solutions พร้อมเตรียมเปิดตัวบัญชี Pinterest เพื่อเจาะกลุ่มนักออกแบบและสถาปนิกโดยเฉพาะ ส่วนทางด้านช่องทางออฟไลน์ พร้อมเดินหน้าวางแผนจัดกิจกรรมพบปะ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นักออกแบบ และร้านตัวแทนจำหน่าย พร้อมจัดอบรมผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งและใช้งาน Partio Series ซึ่งเป็นสวิตช์และเต้ารับรูปแบบใหม่
“พานาโซนิคตั้งเป้าเสริมความแข็งแกร่งในตลาดสวิตช์และเต้ารับโดยคาดว่า "Partio Series" จะกลายเป็น ผลิตภัณฑ์เรือธง ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค โดยสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 43% ในปี 2024 เป็น 52% ภายในปี 2030 โดยนอกจากการขยายตลาดในประเทศไทยแล้ว พานาโซนิคยังมีการรุกตลาดต่างประเทศ โดยมีแผนขยายการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มประเทศ AEC มากขึ้น โดยประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตสำคัญ” นายณัฐพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย