Toggle navigation
วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
เปิดคอโฆษก นปช.ชมหลวงพ่อแดง วัดแหลมสอ "หนึ่งเดียวที่แม่ให้"
เปิดคอโฆษก นปช.ชมหลวงพ่อแดง วัดแหลมสอ "หนึ่งเดียวที่แม่ให้"
วันศุกร์ที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ฉบับที่แล้วเรานำผู้อ่านไปทักทายทำความรู้จักกับ "วรวุฒิ วิชัยดิษฐ์" หรือ "ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ" โฆษกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักมักคุ้นหนุ่มหล่อจากแดนสะตอ เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ หรือที่รู้จักกันในนามจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้ที่มากด้วยความรู้ความสามารถ
โดยเฉพาะประสบการณ์บนเส้นทาง การเมือง กับบุคคลต้นแบบเยี่ยง "วีระ" หรือ "วีระกานต์ มุสิกพงศ์" อดีตประธานนปช.ที่เขาบอกกับเราด้วยความเชื่อมั่นและชื่นชม ขณะเดียวกันในอีกมิติหนึ่ง "วีระกานต์" ท่านนี้ คือผู้ที่มีส่วนสำคัญในการนำเขาก้าวเข้าสู่กระแสธรรม ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ที่มีพระเดชพระคุณ พระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือที่รู้จักกันดีในนามของ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส กระทั่ง ทำให้เขาได้ตัดสินใจขอบวชพราหมณ์ร่วม กับ "วีระกานต์" นานถึง 7 วันเต็มๆ
7 วันที่นุ่งขาวห่มขาว ถือศีล 8 "ธนาวุฒิ" บอกถึงความรู้สึกที่ได้รับในครั้งกระนั้น ถึงความสงบร่มเย็น แม้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ที่ได้ติดตาม "วีระกานต์" ไปปฏิบัติธรรมยังวัดอัมพวัน แต่เขากลับรู้สึกถึงความอิ่มเอิบด้วยปีติสุขอย่างบอกไม่ถูก จากคนที่ไม่สนใจในเรื่องของการสวดมนต์ เพราะรู้สึกว่าเป็นภาษาที่ยาก อ่านก็ไม่คล่อง ตะกุก ตะกัก ทุกครั้งที่ท่องบทสวดมนต์ในแต่ละบท แต่วันนี้ชีวิตของ "ธนาวุฒิ" เปลี่ยนไป...เขาสามารถสวดมนต์ได้ทุกบทอย่างคล่องแคล่ว ทะมัดทะแมง ไม่มีอาการขัดเขินให้เห็นเหมือนดังอดีตที่ผ่านมา ทั้งยังระลึกและจำคำสั่งสอนของ "หลวงพ่อจรัญ" เรื่อง "กฎแห่งกรรม" ได้เป็นอย่างดี
"วันแรกที่ปฏิบัติธรรม ก็เก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก สวดมนต์ก็ไม่ได้ พอวันที่ 2 วันที่ 3 ก็เริ่มดีขึ้น ไปปฏิบัติธรรมบ่อยขึ้นก็สามารถสวดมนต์ได้คล่องขึ้น สิ่งที่หลวงพ่อจรัญท่านได้สอนเรื่องกฎแห่งกรรม ทำให้ผมได้เห็นถึงความผิดชอบชั่วดี และเชื่อว่าผู้ใดทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วผลกรรมนั้นก็ต้องตอบสนอง คือกระทำกรรมใด ไม่ว่าจะชั่วหรือดี ผลกรรมนั้นก็สนองตอบอย่างนั้น ที่เราเห็นว่าคนนั้น คนนี้ทำชั่วแล้วได้ดีนั่นเป็นเพราะว่าบุญเก่า ที่เขาได้กระทำมายังไม่หมด แต่สุดท้าย เชื่อผมเถอะเขาต้องได้รับกรรมนั้นอย่างแน่นอน"
ขณะเดียวกัน "ธนาวุฒิ" ยังเชื่อว่า เพราะผลการสวดมนต์ที่ได้ปฏิบัติเป็นประจำ ส่งผลทำให้เขามี "ซิกซ์เซ้นส์" หรือ "สัมผัสที่ 6" เกิดขึ้น เพราะหลังจากได้เข้า ไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันไม่นาน เขาก็ได้ เข้าไปมีประสบการณ์ร่วมในเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" เมื่อปี พ.ศ.2535
"ธนาวุฒิ" ยังเล่าต่อว่า ทุกครั้งที่ "วีระกานต์" ขึ้นเวทีปราศรัยบนเวทีตัวเขาเองก็จะคอยดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ และ เหตุการณ์ระทึกก็เกิดขึ้นเมื่อ 18 พ.ค. 2535 ทหาร ตำรวจใช้กำลังอาวุธ เข้าสลายฝูงชนขณะเคลื่อนขบวนมาตามถนนราชดำเนิน เพื่อขับไล่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ให้ลา ออกจากนายกรัฐมนตรี ครั้งนั้นรัฐบาล ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่ามีความจำเป็น ต้องใช้กำลังทหาร ในการสลายการชุมนุม ทหารพร้อมอาวุธครบมือ เข้าทำการปราบ ปรามและจับผู้ชุมนุมหลายร้อยคน "ธนาวุฒิ" ก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย เสียงตุบๆๆ ทั้งไม้ ทั้งกระบอง กระหน่ำใส่ผู้ชุมนุม ต่างคนต่างวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น บางคนเลือดอาบไปทั้งตัว หัวร้างข้างแตกบาดเจ็บระนาว แต่สำหรับเขาแล้ว รอด...
เมื่อถามถึงพระเครื่องที่แขวนในขณะนั้น เขาบอกว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 องค์ ประกอบด้วย หลวงพ่อแดง วัดแหลมสอ อำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี บ้านเกิด "องค์นี้แม่ให้มาและก็คล้องคอติดตัวมานานตั้งแต่ปี 2528 ไปไหนมาไหนก็เอ่ยชื่อท่าน นึกถึงท่านทุกครั้งก็เหมือนกับนึกถึงแม่ พุทธคุณเด่น ด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุตม์ และเมตตามหานิยม เท่าที่ตรวจสอบน่าจะสร้างปี 2516 เป็นรูปเหมือนแบบหล่อ ห่มลดไหล่"
องค์ถัดมาคือ "หลวงปู่ทวด" วัดช้างให้ พิมพ์กรรมการ เนื้อว่าน สร้างเมื่อปี 2540 เขาเล่าว่าติดตัวมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยได้รับจากพี่ของภรรยามอบให้ไว้ติดตัว พร้อมสำทับว่าคนใต้ทุกคนต้องมีหลวงปู่ทวดติดตัวไว้เพื่อเป็นสิริมงคล แคล้วคลาด ปลอดภัย ขึ้นเวทีปราศรัยทุกครั้งก็ยกมือไหว้ขอให้ท่านคอยปกปักรักษา คอยคุ้มครองเรา "ขณะที่ปราศรัย ทำให้เราไม่ประมาท จะเดินทางก็บอกท่าน ขอให้เราเดินทางอย่างปลอดภัย อุ่นใจทุกครั้งที่มีท่านไปด้วย มีท่านก็เหมือนมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่เคยห่างกายเหมือนกัน พอ ใส่ไว้ก็ไม่อยากจะถอดเพราะกลัวหลวงพ่อ จะน้อยใจ...(หัวเราะ)"
องค์สุดท้าย พระสมเด็จวัดระฆัง ได้มาเมื่อ ปี 2539 นึกอยากจะได้พระมาห้อยคออีกสักองค์เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่นานก็ได้สมเด็จองค์นี้มาจากเพื่อนที่อยู่จังหวัดหาดใหญ่ เพื่อนบอกว่าเขามีพระสมเด็จแต่ใช้มานานแล้วสึกกร่อนบ้างตามกาลเวลา ถ้าอยากได้ก็จะให้เพราะความสนิทสนมรักใคร่เป็นเหมือนพี่น้องกันนะ เขาให้มา
"ผมเชื่อว่าพระทุกองค์ที่ผมห้อยคออยู่นี้คอยช่วยเหลือผมนะ ผมศรัทธาเลื่อมใสทุกองค์ วันไหนลืมหรือไม่ได้ใส่ติดตัว จะรู้สึกไม่สบายใจทุกที ต้องเลี้ยวรถกลับเพื่อนำมาใส่ทุกครั้งไป"
และเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง กลุ่ม คนเสื้อเหลือง กับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีความคิดขัดแย้งเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ ปี 50 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2551 ก็เป็นอีก เหตุการณ์หนึ่งที่ "ธนาวุฒิ" จดจำได้มิลืม... เพราะเขาหวิดสิ้นชื่อจากการปะทะที่รุนแรงในเหตุการณ์นี้... เรื่องราวยังไม่จบ....อดใจไว้รอตอนหน้า รับรองว่ายังสนุก และมีสาระกับเรื่องราวในตอนจบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ