10 กุมภาพันธ์ 2568 – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) แสดงศักยภาพด้านความปลอดภัยและมาตรฐานสากล หลังสายการบิน Aeroflot เที่ยวบิน SU277 ซึ่งเดินทางจาก ภูเก็ต – มอสโก ประสบปัญหาทางเทคนิคและต้อง Divert มาลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ
บินวน 5 ชั่วโมง ก่อนขอลงจอดฉุกเฉิน
เที่ยวบิน SU277 ออกจากท่าอากาศยานภูเก็ตเวลา 15:20 น. มุ่งหน้าสู่กรุงมอสโก แต่เกิดปัญหาทางเทคนิคระหว่างบิน ส่งผลให้ไม่สามารถเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้ หลังจากบินวนอยู่ประมาณ 5 ชั่วโมง เพื่อหาทางแก้ไข สายการบินจึงตัดสินใจขอ Divert และลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ดร.กีรติ สั่งการเข้ม ดูแลความปลอดภัยสูงสุด
ภายหลังได้รับรายงานเหตุการณ์ ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยดำเนินการตาม แผนเผชิญเหตุ อย่างเคร่งครัด พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมถึงหน่วยดับเพลิง กู้ภัย และฝ่ายการแพทย์ เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยาน
ลงจอดสำเร็จที่สุวรรณภูมิ เวลา 21:11 น.
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21:11 น. เที่ยวบิน SU277 สามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัยบน ทางวิ่ง 01 ก่อนเข้าจอดที่ หลุมจอด 115 โดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น
ระหว่างลำเลียงผู้โดยสารลงจากเครื่อง เจ้าหน้าที่สนามบินได้อำนวยความสะดวก และแจกจ่ายน้ำดื่มแก่ผู้โดยสารที่รอการเดินทางต่อ โดยสายการบิน Aeroflot ได้จัดสรรที่พักให้กับลูกเรือ 15 คน และผู้โดยสาร 331 คน ณ โรงแรมภายนอกสนามบิน พร้อมเร่งดำเนินการจัดเที่ยวบินทดแทน
สุวรรณภูมิ ตอกย้ำมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
แม้เหตุการณ์นี้ ไม่ได้มีการประกาศใช้แผนฉุกเฉินเต็มรูปแบบ แต่การเตรียมความพร้อมอย่างรัดกุมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิช่วยให้สามารถรับมือสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายกิตติพงศ์ ระบุว่า การที่ สายการบิน Aeroflot ตัดสินใจเลือกลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ แสดงถึง ความเชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ของสนามบินไทย
เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และย้ำให้เห็นถึงความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานด้านการบินระดับสากล