เครือข่ายหยุดพนันบุกกฤษฎีกา ยื่น 4 ข้อหนุนแยกกาสิโนออกจากสถานบันเทิงครบวงจร

วันอาทิตย์ที่ 09 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

เครือข่ายหยุดพนันบุกกฤษฎีกา ยื่น 4 ข้อหนุนแยกกาสิโนออกจากสถานบันเทิงครบวงจร


เครือข่ายหยุดพนันบุกกฤษฎีกา  ยื่น 4 ข้อหนุนความเห็นกฤษฎีกาแยกกาสิโนออกจากสถานบันเทิงครบวงจร     ชงควรอยู่ภายใต้ พรบ.พนัน  พร้อมขอเวลาให้ภาคีรวบรวมรายชื่อประชาชนเสนอทำประชามติกาสิโนก่อน  ไม่ควรรีบทำตามใบสั่งการเมือง  ต้องรอบคอบเพราะผลกระทบกว้างขวาง

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาท 10.00 น. หน้าอาคารสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  ถนนพระอาทิตย์ นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน  พร้อมด้วยตัวแทนมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง  เครือข่ายนักศึกษานิติศาสตร์ และเครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยงกว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อแสดงจุดยืนให้ฟังเสียงประชาชน มากกว่ารับคำสั่งฝ่ายการเมือง  โดยเครือข่ายได้แสดงละครล้อเลียน คณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เปรียบเสมือนพ่อครัวอย่าแต่มุ่งทำอาหารประเคนฝ่ายการเมือง  โดยไม่ให้ความสำคัญกับเสียงสะท้อนความต้องการของประชาชน  พร้อมชูป้ายข้อความ อาทิ กฤษฎีกาต้องอิสระไม่ถูกควบคุมสั่งการจากการเมือง  รัฐบาลต้องเป็นผุ้ควบคุมไม่ใช่เปิดทางสร้างผีพนัน  กาสิโนต้องอยู่ภายใต้ พรบ.พนัน เป็นต้น

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับดำเนินการตรวจและปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อพร้อมนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในลำดับถัดไป โดยก่อนหน้านั้นเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีหนังสือแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันและภาคีเครือข่าย ใคร่ขอแสดงความเห็นและข้อเสนอแนะ ดังนี้  1. มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันและเครือข่ายฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า กิจการสถานบันเทิงครบวงจรกับกิจการสถานเล่นพนัน ควรแยกการพิจารณาออกจากกัน  เพราะกิจการหนึ่งมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่อีกกิจการหนึ่งมีวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาการพนัน  ด้วยแต่ละกิจการต่างมีกฎหมายเฉพาะที่ควบคุมอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีกฎหมายในเรื่องนั้น ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก เพราะจะเป็นความซ้ำซ้อน และควรใช้มาตรการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสำคัญ 

นายธนากรกล่าวอีกว่า  2. การออกกฎหมายใหม่นี้ ดูมีเจตนาอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้อำนาจออกใบอนุญาต และผู้ประกอบธุรกิจ ในลักษณะจอดจุดเดียวจบ หรือ one-stop service ซึ่งไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องอำนวยความสะดวกให้มากเช่นนี้  และอาจขัดกับกฎหมายเดิมเมื่อถึงคราวปฏิบัติจริง   การออกกฎหมายใหม่เพื่อการนี้จึงเปรียบเสมือนการพยายาม “สวมเสื้อตัวใหญ่” ที่จะก่อให้เกิดความรุ่มร่าม จนสุดท้ายเป็นอุปสรรคต่อผู้ใช้งานเอง 3. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 77 บัญญัติว่า “รัฐพึงมีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น”  และในเมื่อสถานกาสิโนคือแหล่งเล่นพนันขนาดใหญ่  กิจการนี้ก็พึงอยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่แล้ว คือ พระราชบัญญัติการพนัน  เป็นการเข้าตามตรอกออกตามประตูที่พึงกระทำ มิใช่การใช้วิธีสร้างทางลัดหรือทางลอดของตนเอง โดยใช้วิธีการออกกฎหมายพิเศษหรือกฎหมายเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทำในสิ่งที่ตนอยากทำได้  ที่สำคัญยิ่งคือ รัฐพึงเป็นผู้ควบคุมการพนัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อภาวะเศรษฐกิจ ความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพกายและจิต และความมั่นคงของมนุษย์ รัฐจึงไม่พึงอยู่ในฐานะผู้ส่งเสริมหรือสนับสนุนการเพิ่มแหล่งพนันด้วยนโยบายของรัฐบาลเอง เพราะรัฐเปรียบเสมือนอัศวินผู้ปราบยักษ์มาร  มิใช่ผู้เปิดประตูเมืองให้ยักษ์มารย่างกรายเข้ามาอย่างสง่างามโดยการออกกฎหมายใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบธุรกิจการพนัน   และหากเอกชนรายใดต้องการประกอบกิจการจำพวกนี้ ก็พึงเสนอขออนุญาตตามช่องทางของกฎหมายที่มีอยู่  

“3. มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และภาคีเครือข่ายขอเป็นกำลังใจให้คณะกรรมการกฤษฎีกายืนหยัดในความถูกต้อง โดยยึดมั่นว่า “ลูกค้าที่แท้จริงของท่านคือประชาชน” และดำรงความเป็นอิสระจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมือง เพื่อดำรงศรัทธาและความเชื่อถือของอนุชนคนรุ่นใหม่ และประชาชนต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมการกฤษฎีกาสืบไป  และ 4. ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาสนับสนุนการขอใช้สิทธิของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีจัดทำประชามติ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ  จึงขอให้รัฐบาลเคารพสิทธิของประชาชน และให้โอกาสเครือข่ายในการดำเนินการรวบรวมรายชื่ออย่างน้อย 60 วัน โดยไม่เร่งรัดจะให้ออกกฎหมายนี้โดยเร็วตามความต้องการของฝ่ายการเมือง” นายธนากร กล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ