“สุริยะ” นำการท่าเรือฯ ลงนาม LOI กับเมืองโยโกฮามา ยกระดับไทยสู่ผู้นำท่าเรืออาเซียน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน

วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2568

“สุริยะ” นำการท่าเรือฯ ลงนาม LOI กับเมืองโยโกฮามา ยกระดับไทยสู่ผู้นำท่าเรืออาเซียน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน


เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำทีมการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent: LOI) กับเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ครบรอบ 10 ปี พร้อมร่วมมือพัฒนากิจการท่าเรือ โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี บุคลากร และชุมชน ตอกย้ำบทบาทไทยในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งภูมิภาคอาเซียน

การลงนามครั้งประวัติศาสตร์

นายสุริยะเปิดเผยว่า การลงนาม LOI ฉบับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือไทยให้ก้าวล้ำ พร้อมทั้งส่งเสริมการตลาดและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการปรับโฉมท่าเรือกรุงเทพให้เป็น “Smart & Green Port” ผ่านการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีจากผู้เชี่ยวชาญของโยโกฮามา

“เรามุ่งเป้าหมายท่าเรือไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากลในทุกมิติ ทั้งด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านโครงการ Decarbonization และการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในระบบท่าเรือ” นายสุริยะกล่าว

บทเรียนจาก “โยโกฮามา” ต้นแบบแห่งความยั่งยืน

โยโกฮามา หนึ่งในเมืองท่าเรือสำคัญของญี่ปุ่น ได้กลายเป็นแบบอย่างของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์ทั้งการขนส่งสินค้าและการเป็นศูนย์กลางชุมชน โดยเฉพาะโครงการ Minato Mirai 21 ที่เปลี่ยนพื้นที่หลังท่าให้กลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่สำคัญ

“โครงการพัฒนาพื้นที่หลังท่าของโยโกฮามา เป็นแนวทางที่ดีสำหรับท่าเรือกรุงเทพ โดยเฉพาะในโครงการเชื่อมต่อทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง” นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และประธานกรรมการการท่าเรือฯ กล่าว

เป้าหมาย ศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียน

แผนพัฒนาท่าเรือกรุงเทพของ กทท. ประกอบด้วย 3 โครงการหลัก ได้แก่

1.    Bangkok Logistics Park: ศูนย์กระจายสินค้าและพื้นที่สนับสนุน ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์กว่า 1.41 พันล้านบาท

2.    Truck Parking & Traffic Management: การพัฒนาจุดพักรถบรรทุกและระบบจัดการจราจรด้วยเทคโนโลยี

3.    Bangkok Port Passenger Cruise Terminal: ท่าเทียบเรือสำราญบนพื้นที่ 67 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

ฉลอง 10 ปีแห่งความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคมและประธานกรรมการการท่าเรือฯ กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 10 ปีระหว่างการท่าเรือฯ และเมืองโยโกฮามา ซึ่งนอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและความรู้ด้านการพัฒนาท่าเรือแล้ว ยังเป็นการร่วมมือในการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่น

“โยโกฮามาเป็นต้นแบบของการพัฒนาท่าเรือที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โครงการ Minato Mirai 21 ที่เปลี่ยนพื้นที่หลังท่าให้เป็นแหล่งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เป็นตัวอย่างที่เราสามารถนำมาปรับใช้กับท่าเรือกรุงเทพได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายชยธรรม์กล่าว

ภาพรวมความร่วมมือที่ยั่งยืน

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือฯ ระบุว่า การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ครั้งนี้จะช่วยยกระดับศักยภาพท่าเรือไทยให้ทัดเทียมระดับโลก พร้อมตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจและชุมชนอย่างสมดุล

ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย โดยท่าเรือโยโกฮามาถือเป็นท่าเรืออันดับ 2 ของญี่ปุ่น และอันดับ 68 ของโลก ด้วยปริมาณตู้สินค้า 3.02 ล้าน TEU ในปี 2566 ทั้งยังเป็นท่าเรือท่องเที่ยวอันดับ 1 ของญี่ปุ่น รองรับผู้โดยสารกว่า 467,000 คน

ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ ไทยและญี่ปุ่นกำลังสร้างอนาคตใหม่ของระบบโลจิสติกส์ที่ไม่เพียงเน้นประสิทธิภาพ แต่ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และความยั่งยืนในระยะยาว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ