Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 8 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
หุ้น-กองทุนรวม
NYT ได้ฤกษ์ลงกระดานเทรดพร้อมส่ง 205.50 ล้านหุ้นเข้า SET
NYT ได้ฤกษ์ลงกระดานเทรดพร้อมส่ง 205.50 ล้านหุ้นเข้า SET
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Tweet
NYT ประกาศราคาขาย IPO ที่ 11.90 บ./หุ้น ระบุเป็นราคาเสนอสูงสุดจากการสำรวจความต้องการซื้อหุ้นจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ เตรียมตัวส่ง 205.50 ล้านหุ้นลงกระดาน SET วันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ชูจุดเด่นเป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์แบบครบวงจรรายใหญ่สุดในประเทศ ทั้งยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ เผยเล็งเข้าถือหุ้นใน LRT เพิ่ม เป็น 49% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ในสัดส่วน 20% โดยใช้เงินจาก IPO ประมาณ 700 ล้าน
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ หัวหน้าสายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นบริษัท นามยง เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT เปิดเผยว่า หลังจากทิสโก้ได้ทำการสำรวจความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของนักลงทุนสถาบันทั้งไทยและต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา โดยมีช่วงราคาเสนอขายที่ 11.50-11.90 บาทต่อหุ้น ปรากฏว่านักลงทุนสถาบันได้แสดงความต้องการซื้อหุ้นที่ราคาสูงสุดหุ้นละ 11.90 บาทอย่างล้นหลาม โดยมีความต้องการซื้อหุ้นรวมคิดเป็น 13 เท่าของจำนวนหุ้นที่จะจัดสรรให้กับนักลงทุนสถาบัน
ดังนั้น ทางทิสโก้และ NYT จึงได้กำหนดราคาหุ้นที่จะเสนอขายให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 11.90 บาท โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ เชื่อมั่นใจว่า หุ้น IPO ของ NYT จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์แบบครบวงจร ณ ท่าเทียบเรือ A5 ในท่าเรือแหลมฉบัง โดยเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 80% และยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก
นอกจากท่าเทียบเรือ A5 แล้ว NYT ยังร่วมกับกลุ่มบริษัท NYK ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่นและเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางทะเลชั้นนำของโลกเข้าลงทุนในบริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล โร-โร เทอร์มินัล จำกัด หรือ LRT ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์และสินค้าทั่วไป ณ ท่าเทียบเรือ C0 ท่าเรือแหลมฉบัง โดยบริษัทถือหุ้น LRT ในสัดส่วนร้อยละ 20 และมีสิทธิที่จะซื้อหุ้น LRT เพิ่มเติมจาก NYK ได้อีกไม่เกินร้อยละ 29 รวมเป็นสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุดร้อยละ 49
สำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ NYT จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งสิ้น จำนวน 205.50 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 33.15 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 620 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้ว 414.50 ล้านบาท
ด้านนายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงมาก เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของเอเชีย ประกอบกับไทยมีความพร้อมด้านแรงงานที่มีฝีมือในการประกอบรถยนต์ และมีอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เลือกไทยเป็นฐานการผลิตหลักเพื่อการส่งออก ดังนั้น การส่งออกรถยนต์ของไทยจึงยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้อีกมากในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมที่จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มใน LRT ซึ่งจะทำให้บริษัทถือหุ้น LRT สูงสุดในสัดส่วน 49% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ในสัดส่วน 20% โดยจะใช้เงินเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวประมาณ 700 ล้านบาท จากเงินที่ได้จากการขาย IPO โดยคาดว่าจะเข้าซื้อหุ้นได้ทั้งหมดภายในปีนี้
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีกำไรสุทธิราว 380 ล้านบาท จากรายได้ 1.1 พันล้านบาท ส่วนในปีหน้ากำไรสุทธิคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 480 ล้านบาท จากรายได้ที่ 1.3-1.4 พันล้านบาท โดยบริษัทยังมีการบริหารจัดการที่ดี ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 50% และอัตรากำไรสุทธิ 30% ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของกำไรและรายได้เป็นไปตามภาพรวมของการผลิตรถยนต์ในประเทศเพื่อการส่งออกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจากข้อมูลย้อนหลัง 10 ปีที่ผ่านมาปริมาณการส่งออกรถยนต์ของไทยเติบโต เฉลี่ย 17% ต่อปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ROCTEC รายงานผลประกอบการปี 2567/68 เติบโ...
...
"เจนเนอราลี่ กรุ๊ป" เผยรายได้ Q1 ปี 2025...
...
"พฤกษา” เปิดรายได้ Q1/ปี 68 แตะ 3,705 ล้...
...
"สกาย กรุ๊ป" โชว์ผลงานแรงไม่หยุด Q1/2568...
...
MPJ ติดสปีด Q1/68 กำไรสุทธิ พุ่ง 125.33%...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ