ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อการพัฒนากรอบการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และเผยแพร่ความรู้ผ่านนิทรรศการ 20 ปี กับ กปถ. พร้อมรับเชิญเป็นวิทยากรผู้เชี่ยวชาญพิเศษบรรยายในหัวข้อ “ความปลอดภัยทางถนนตามภารกิจของกระทรวงคมนาคม”

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อการพัฒนากรอบการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และเผยแพร่ความรู้ผ่านนิทรรศการ 20 ปี กับกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) โดยมี นายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นางสาวรัชนีพร ธิติทรัพย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน ร่วมงาน ในโอกาสนี้ ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้รับเชิญเป็นวิทยากรผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านความปลอดภัยทางถนน บรรยายในหัวข้อความปลอดภัยทางถนนตามภารกิจของกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ณ ห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์

นายชยธรรม์ พรหมศร กล่าวว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานในครั้งนี้ ซึ่งจากสถิติอุบัติเหตุและอัตราการเสียชีวิตของประชาชนที่ยังคงอยู่ในลำดับต้น ๆ ของโลก ทั้งนี้ การป้องกันและลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน สร้างความปลอดภัยขั้นพื้นฐานในทุกมิติ ตลอดจนสร้างมาตรฐานในระบบการขนส่ง และการกำกับดูแลมาตรการความปลอดภัยทั้งสภาพรถ ผู้ขับขี่ สภาพการจราจร ที่ต้องดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้เป็นภารกิจหลักที่กระทรวงคมนาคมตั้งมั่นดำเนินการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนให้เกิดเป็นวิถีวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยที่คนไทยให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความสุขและความมั่นใจให้กับคนไทยผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งประเทศ สำหรับ กปถ. ได้ถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้กระทรวงคมนาคม โดยกรมขนส่งทางบก ตามพระราชบัญญัติรถยนต์เมื่อปี พ.ศ. 2546 ตลอดระยะเวลา 20 ปี ได้มีส่วนขับเคลื่อนภารกิจและสนับสนุนการดำเนินโครงการด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนเพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมทั้งให้การส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้พิการที่ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน โดยบริหารจัดการองค์กรตามนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ปรากฏผลงานที่สร้างคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง และขอให้การก้าวสู่ปีที่ 21 ของ กปถ. เป็นองค์กรสำคัญในการขับเคลื่อนด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศอย่างยั่งยืน       

รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายการดำเนินงานให้ข้าราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคมว่าต้องเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชน ซึ่งความปลอดภัยในการเดินทางเป็นหนึ่งในนั้น ข้าราชการฯ จึงมีหน้าที่นำนโยบายดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ กระทรวงคมนาคมได้รับนโยบายดังกล่าวมากำหนดเป็นเป้าหมายตามภารกิจโดยสนับสนุนการเดินทางของพี่น้องประชาชนในทุกมิติให้มีความสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา ราคาสมเหตุสมผล ทั้งนี้ จากสถิติขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดอันดับความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย จากปี 2561 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 9 และล่าสุดปี 2566 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 18 คิดเป็น 25 คนต่อประชากรแสนคน นอกจากนี้ TDRI ได้สำรวจความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนในปี 2566 มีผู้เสียชีวิตกว่า 18,000 คน คิดเป็นมูลค่ากว่า 5.3 แสนล้านบาท โดยกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดเป้าหมายลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือเท่ากับ 12 คนต่อประชากรแสนคน ในปี 2570 นั้น การจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน 

1) สำหรับพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินจากที่กฎหมายกำหนด การฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร และเมาแล้วขับ 

2) ประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และรถตู้/รถบรรทุก ตามลำดับ 

3) ปัญหาหลักที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุ ประกอบด้วย สภาพถนน ยานพาหนะ และสำคัญที่สุด คือ ปัญหาจากคน ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เกิดการสูญเสีย หากจะแก้ปัญหาดังกล่าวทุกคนต้องหยุดโทษคนอื่นแล้วหันกลับมา เริ่มต้นแก้ปัญหาที่ตนเองก่อน โดยสำรวจพฤติกรรมของตนเอง

ในวันนี้จึงอยากรณรงค์และขอความร่วมมือจากทุกท่านหากเราหยุดปัญหาจากคนได้ ปัญหาเรื่องถนน และยานพาหนะจะไม่ใช่ปัจจัยหลักอีกต่อไป โดย กปถ. ต้องเริ่มรณรงค์ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเริ่มต้นที่ตัวเอง และคนรอบข้าง ให้ตระหนักและมีสติในการใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง ซึ่งจะสร้างบรรยากาศของถนนที่ปลอดภัย เริ่มจากการสร้างจิตสำนึกว่าเมื่อไรก็ตามที่ต้องเข้าสู่ท้องถนนจะต้องระมัดระวังตลอดเวลา ต้องยึดหลัก 3 ข้อก่อนจะใช้รถใช้ถนน คือ “ใส่ใจ มีสติ รับผิดชอบต่อสังคม” ก่อนใช้รถต้องตรวจสอบความพร้อมของตนเอง คาดเข็มขัด สวมหมวกนิรภัย ขณะใช้รถต้องเคารพกฎจราจร เป็นสิ่งที่จะสะท้อนว่า กปถ. จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวด้วยการรณรงค์สร้างจิตสำนึกเหล่านี้ตั้งแต่เยาวชนขึ้นมาถึงคนผู้ที่เกี่ยวข้องปัจจุบันในทุกมิติ ต้องร่วมมือร่วมใจกันปลูกฝังจิตสำนึกรับรู้ในการใช้รถใช้ถนนด้วยความรับผิดชอบ มีสติ หยุดโทษคนอื่น กลับมาสำรวจตัวเองและคนรอบข้าง หากทุกคนทำได้ความสูญเสียจะไม่เกิดขึ้น และตัวเลขอุบัติเหตุบนท้องถนนจะลดลงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน