ปรับรัฐมนตรีให้ถูกใจมหาชน

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

ปรับรัฐมนตรีให้ถูกใจมหาชน


ถึงยังไงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องปรับคณะรัฐมนตรีหลังการเลือก ตั้งผู้ว่าฯกทม.อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันเนื่องจากรัฐมนตรีบางกระทรวงว่างลง

แม้จะเป็นรัฐมนตรีที่เป็นโควตาของพรรคอื่นก็จริง แต่ก็เป็นโอกาสอันเหมาะสมและเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่ผู้นำรัฐบาลพึงปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีทุกกระทรวงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

โดยภาพรวมอาจยังไม่มีใครตำหนิว่ามี "รัฐมนตรีขี้เหร่" แต่ความรู้สึกของผู้คนที่ติดตามการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละท่าน ก็ยังรู้สึก "ไม่สะใจ" ถึงขั้น "ไม่ถูกใจ" เนื่องเพราะยังเห็นว่ารัฐมนตรีบางคน แทบจะบริหารงานไม่เข้าหูเข้าตาประชาชนปะปนอยู่

ถ้าไม่เชื่อ ลองตั้งคำถามลอยๆ ขึ้นมาก็ได้ว่า มีใครจำชื่อรัฐมนตรีทุกกระทรวงได้หรือไม่

กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงเกษตรฯมีรัฐมนตรีกี่คน ชื่ออะไรบ้าง... กระทรวงคมนาคมจำชื่อได้หมดมั้ย...รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีกี่คน ใครกำกับดูแลหน่วยงานไหน...และใครรู้บ้างไหมว่ากระทรวงอุตสาหกรรม มีรัฐมนตรีกี่คน

เคยได้ยินกระทรวงวิทยาศาสตร์แสดงบทบาทโดดเด่นบ้างไหม หรือใครเคยได้ยินผลงานที่ลือเลื่องของกระทรวงแรงงานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้บ้าง

นั่นย่อมหมายถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังมี "รัฐมนตรีที่โลกลืม" เป็นไม้ประดับอยู่

ประชาชนลืมเพราะไม่เคยได้ยินผลงานของหลายกระทรวง หรือว่ารัฐมนตรีบางกระทรวงที่คิดเอาเองว่า กระทรวงของตัวเองไม่อยู่ในสายตาชาวบ้าน ก็เลยเอาแต่สนใจงานส่วนตัวมากกว่างานที่ต้องสนองตอบประชาชน

ในบรรดากระทรวงที่เอ่ยมา มีกระทรวงหนึ่งที่น่าสนใจมากที่สุด ท่ามกลาง ความเหลวแหลกของปัญหาสังคม, นักเรียนตีกัน, เกิดแก๊งฟันน้ำนม, โจรรุ่นใหม่อายุน้อยลงๆ เหมือนกับเด็กนักเรียนในเครื่องแบบก็ไม่ปาน, หรือเห็นคลิปเด็กผู้หญิงจิกหัวทำร้ายกันระบาดไปทั่ว

ดูๆ แล้วเหมือนกระทรวงที่รับผิดชอบ ต้องไม่พ้นกระทรวงศึกษาธิการแน่นอน

ก็ลืมไปอีกแหละว่าประเทศไทยยังมีอีกกระทรวงหนึ่งที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไม่อาจละเลยได้...แต่ไหงกระทรวงนี้จึงไม่กระโดดออกมา "แอ็กชั่น" แม้แต่เรื่องเดียว ทั้งๆ ที่ได้ชื่อว่า "พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์" แท้ๆ

ความจริงทุกเรื่องที่เป็นปัญหาสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ ต้องมีวิสัยทัศน์ และจับประเด็นออกมาแสดงความเห็นก่อนกระทรวงอื่นๆ ด้วยซ้ำ อีกทั้งถ้าเป็นรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัตินักบริหารที่ดี จะต้องทำให้บุคลากรของกระทรวงนี้มีความพร้อมในการอบรม แก้ไข หาวิธีแก้ปัญหา ถ้าไม่ระยะยาว ก็ต้องมี "แผนนำร่อง" ให้เห็นเป็นรูปธรรม ไม่ใช่ "แผนรูทีน"

ไม่ใช่เห็นข่าวนักเรียนตีกัน ก็ปล่อยให้พฤติกรรมลามปามจนเด็กได้ใจ แล้ว ทำร้ายต่อเนื่องเข้าไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งคนสมัยปู่ ลุง น้า ไม่เคยมีจิตอำมหิตเช่นนั้นมาก่อน หรือเห็นหน้าตาโจรยุคนี้วัยละอ่อนมีอายุเยาว์เท่าลูกหลานในบ้านที่กำลังอยู่ในวัยเรียนแล้ว กระทรวงนี้จะแกล้งทำเป็น "ทองไม่รู้ร้อน" ไม่ได้

ยิ่งหันไปทาง 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเข้าขั้นวิกฤติทำลายล้าง กระทรวงนี้ก็ต้องมีกุศโลบายที่แนบเนียนยิ่งขึ้น เพื่อแทรกซึมเข้าไปหาช่องทางสร้างกลยุทธ์ผ่อนหนักให้เบาลงเท่าที่จะทำได้...ไม่ใช่ยอมจำนน แล้วกระโดดหนีหายเข้าไปหลบอยู่ในวงการประมูลอันโอชะ เท่าที่สายตาเสนาบดีจะฉกฉวยโอกาสได้ดีกว่าคนอื่น

เหล่านี้ต่างหาก คือโอกาสอันดีของรัฐบาลที่กำลังอยู่ในห้วงกำลังปรับกระบวนรัฐมนตรีที่ควรจะมีบุคลากรฝีมือขั้น "มืออาชีพ" มากกว่าคิดแต่เกรงใจ "นักวิ่ง" จนเคยตัว

อย่าลืมว่า รัฐมนตรีบางคนจากกระทรวงการคลัง หรือกระทรวงคมนาคมที่ไม่ได้มาจากนักการเมือง แต่มีฝีมือเหนือกว่านักการเมืองจนนายกฯเอาไปใช้บริการเป็นผลงานที่น่าติดตามและบริหารอย่างมีหลักการที่น่าเชื่อถือในสายตาประชาชน ท่านก็พิสูจน์ให้เห็นอยู่แล้ว

รัฐมนตรีซึ่งมีบทบาทเป็นที่ยอมรับจากประชาชนต่างหาก ที่จะทำให้รัฐบาลบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ...ไม่ใช่พวกประจบสอพลอที่ไร้ฝีมือ รังแต่จะทำให้รัฐบาลมีผลงานแย่ลงๆ!


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ