กรมการขนส่งทางรางเผยวันที่สี่ (14 เม.ย 67) ของวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลสงกรานต์ 2567 มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมกว่า 1.07 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 32.56 และมากกว่าประมาณการร้อยละ 7.17 สะสม 4 วัน มีผู้ใช้บริการระบบรางสะสมรวมกว่า 4.72 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 21.37 เตรียมความพร้อมรองรับประชาชนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร 

ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นวันครอบครัวนับเป็นวันที่สี่ของวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2567 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,070,251 คน-เที่ยว ซึ่งสูงกว่าประมาณการ 71,582 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 7.17 (ประมาณการ 998,669 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 76,429 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 993,822 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 3 คน) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 209 ขบวน (รวมขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 1 ขบวน คือ ขบวน 5 กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ มีผู้ใช้บริการ 396 คน-เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 76,429 คน-เที่ยว  เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 12,827 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.17 (วันที่ 14 เมษายน 2566 ผู้ใช้บริการรถไฟจำนวน 63,602 คน-เที่ยว) แต่ยังน้อยกว่าประมาณการ 12,349 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 13.91 (ประมาณการ 88,778 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 32,581 คน-เที่ยว  และผู้โดยสารเชิงสังคม 43,848 คน-เที่ยว  โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 37,568 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 38,861 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 27,443 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 13,263 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 14,180 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 18,504 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 8,964 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 9,540 คน-เที่ยว) สายเหนือ 12,689 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 6,643 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 6,046 คน-เที่ยว) สายมหาชัยและแม่กลอง 9,648 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 4,695 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 4,953 คน-เที่ยว) และสายตะวันออก 8,145 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 4,003 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 4,142 คน-เที่ยว) 

2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,368 เที่ยว (รวมเสริม 24 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 993,822 คน-เที่ยว  เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 250,051 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.62 (วันที่ 14 เมษายน 2566 ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าจำนวน 743,771 คน-เที่ยว)  แต่ยังน้อยกว่าประมาณการ 12,349 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 13.91 (ประมาณการ 88,778 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย 

2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 173 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 54,632 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 14 เมษายน 2566 จำนวน 12,651 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.14)   

2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 18,965 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดง 3 คน-เที่ยว)  (เพิ่มขึ้นจาก 14 เมษายน 2566 จำนวน 6,973 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 58.15)   

2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ให้บริการ 220 เที่ยว (รวมเที่ยวเสริม 2 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 31,889 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 14 เมษายน 2566 จำนวน 15,892 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 99.34)   

2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ให้บริการ 272 เที่ยว (รวมรถเสริม 22 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 263,503 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 14 เมษายน 2566 จำนวน 87,048 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 49.33)   

2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 760 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 553,548 คน-เที่ยว  (เพิ่มขึ้นจาก 14 เมษายน 2566 จำนวน 67,568 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.90)   

2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 11,546 คน- เที่ยว   (เพิ่มขึ้นจาก 14 เมษายน 2566 จำนวน 180 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.58)   

2.7 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 26,206 คน-เที่ยว (เริ่มเปิดทดลองให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. 66)

2.8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 33,533 คน-เที่ยว (เริ่มเปิดทดลองให้บริการตั้งแต่ วันที่ 21 พ.ย.66)

ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สะสม 4 วันที่ผ่านมามีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 4,720,371 คน-เที่ยว เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงสี่วันเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 830,981 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.37 (11-14 เมษายน 2566 จำนวน 3,889,390 คน-เที่ยว)  และสูงกว่าประมาณการ 23,934 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 0.51 (ประมาณการ 4,696,437 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 324,424 คน-เที่ยว (สะสมสี่วันเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา 40,582 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.30)  และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 4,395,947 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 50 คน) (สะสมสี่วันเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา 790,399 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.92)

ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ในด้านความปลอดภัยในการให้บริการระบบขนส่งทางราง มีอุบัติเหตุทางรถไฟ 2 ครั้ง และเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้า 1 ครั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ เมื่อเวลา 11.42 น. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21 (กรุงเทพอภิวัฒน์ - อุบลราชธานี) ชนโค ระหว่างสถานีบุรีรัมย์ - สถานีห้วยราช ที่หลักกิโลเมตร 382/15 ไม่มีผู้โดยสารได้รับอันตราย ขบวนรถล่าช้า 5 นาที และเวลา 19.47 น. ขบวนรถชานเมืองที่ 4346 (มหาชัย - วงเวียนใหญ่) เกิดเหตุคนร้ายขว้างปาสิ่งของมาที่ขบวนรถ ระหว่างที่หยุดรถการเคหะและที่หยุดรถบางบอน ถูกผู้โดยสารหญิงได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก เจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยผู้โดยสารประสงค์จะเดินทางเข้ารับการรักษาพยาบาลเอง ส่วนด้านรถไฟฟ้า เมื่อเวลา 13.53 น. เกิดเหตุขบวนรถไฟฟ้า Airport Rail Link ขบวน City 05 ระบบตัวแปลงไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์เสริมขัดข้อง ส่งผลให้ต้องนำขบวนรถดังกล่าวออกจากการให้บริการ

สำหรับวันที่ 15 เมษายน 2567 และวันที่ 16 เมษายน 2567 ของวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์คาดการณ์ว่า เบื้องต้นอาจมีประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนาในภูมิภาคต่างๆ สู่กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางราง ได้ประสานไปยัง รฟท. ในการจัดขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 16 และ 17 เมษายน 2567 รวม 6 ขบวน รวมทั้งการเพิ่มตู้โดยสารเพื่อให้เพียงพอและรองรับต่อการเดินทางกลับของประชาชน รวมทั้งเน้นย้ำเรื่องขอความร่วมมือจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่านให้จัดอาสาสมัครประจำจุดตัดทางรถไฟหรือทางลักผ่านทางรถไฟเสมอระดับ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดดังกล่าว ส่วนทางด้านรถไฟฟ้า ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้เน้นย้ำให้ผู้ให้บริการตรวจสอบความสมบูรณ์พร้อมใช้งานต่อกล้อง CCTV ทั้งในพื้นที่สถานีและในขบวนรถไฟฟ้าและเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดต่างๆภายในสถานีและเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา นอกจากนี้ ยังประสานเพิ่มความถี่ในการให้บริการรถไฟฟ้า เพื่อรองรับช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางไปเล่นน้ำสงกรานต์ยังสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับความนิยม รวมทั้งกำชับเรื่องการควบคุมปริมาณผู้โดยสารในสถานีรถไฟฟ้าและในขบวนรถไฟฟ้าให้อยู่ในระดับปริมาณที่เหมาะสม (crowd control) อาทิเช่น สถานีสยาม สถานีชิดลม สถานีพระราม 9 สถานีมักกะสัน และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเพิ่มจุดจำหน่ายบัตร/เหรียญโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการระบบรางอีกด้วย