เมษาฯเดือดปุด! "ศึกนอก-ใน" รอเขย่ารัฐบาล

วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556

เมษาฯเดือดปุด!


เขย่าแรงขึ้นไปทุกขณะ ในห้วง เมษาร้อนทางการเมือง ซึ่งไม่ผิดไปจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้

เพราะด้วยหลายเงื่อนไขที่ประเดประดังเข้ามาพร้อมกัน ก็ส่งผลต่อ "รัฐบาล" ให้ต้องเตรียมรับศึกรอบด้าน โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวง การคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ...หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน บาท ที่ผ่านการเคาะไปใน "วาระแรก" ซึ่งทางขั้วฝ่ายค้านได้เปิดหมาก "ซักฟอกเงินกู้" ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเข้มข้น ตลอดจนการรุกไล่ "นอกสภา" ที่มีการปลุกเร้ากระแสสังคมที่ว่า "...จะทำให้คนไทยเป็นหนี้ยาวไปอีก 50 ปี" รวมไปถึงกลุ่ม ส.ว.ลากตั้ง ที่ออกมาแทงประเด็น เข้าสู่กระบวนการเช็กบิลโดย "ศาลรัฐธรรมนูญ"

ยิ่งไปกว่านั้น ยังตามมาด้วยคิวแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา รวม 3 ฉบับ ที่เริ่มเดือดปุดจากการผนึกแนวต้านของทั้งฝ่ายค้าน และเครือข่าย "ส.ว. ลากตั้ง" ถัดไปในช่วงสงกรานต์ "ศาลโลก" ก็เตรียมนัด "ไทย-กัมพูชา" ไปให้ถ้อยคำเพื่อปิดคดีพิพาท "ปราสาทพระวิหาร" ซึ่งระหว่างนั้น ทางเครือข่ายธรรมยาตราและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ย่อมต้องออกมาขับเคลื่อนเกมการเมืองข้างถนน เพื่อหวังปลุกระดมให้เกิดกระแส "คลั่งชาติ" และอาจเป็นตัวแปรสำคัญในหมากกระดาน "โค่นล้มรัฐบาล"และนั่นคือการไล่เรียงถึงเหตุการณ์ "ความน่าจะเป็น" ที่อาจ "เขย่า" ให้บรรยากาศการเมืองไทยทะลุองศาเดือดในเวลาอันใกล้นี้

ขณะเดียวกัน ทางเหล่านักวิชาการ และ "กูรูการเมือง" ต่างให้ความเห็นถึงชนวนเหตุที่นำไปสู่ "การเมืองเมษาร้อน" นี้ไว้อย่างน่าสนใจ...

"พนัส ทัศนียานนท์" อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ย้ำความเชื่อมั่นว่า การเมืองจะต้องร้อนแรงมากยิ่งขึ้น และน่าเป็นห่วงว่าจะกลายเป็นสัญญาณอันตรายอะไรบางอย่าง...โดยเฉพาะการที่รัฐบาลเอากฎหมายกู้เงินเข้าสภา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์มันกำลังก่อหวอดที่จะนำไปสู่ความเลวร้าย สุดท้ายจะส่งผลกระทบ ไปสู่การเมืองอย่างรุนแรง โดยทางฝ่าย ที่เขาไม่พอใจในการที่จะผลักดันเรื่องนี้ออกมา เขาก็มีการเคลื่อนไหวกันอยู่ เรียกร้องว่าจะต้องให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา

ส่วนเรื่องแก้กฎหมายรัฐธรรม นูญนั้น คงจะถึงจุดที่เรียกว่า...ติดดาบปลายปืนแล้ว ฉะนั้นทุกจุดเป็นระเบิดทั้งนั้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ของรัฐบาลเลยก็ได้ ในเร็วๆ นี้อย่างที่เขาทำนายเอาไว้ไม่เกินเดือน เม.ย.นี้ แถมยังมีข่าวอีกว่านายกฯ อาจจะถูกสอยจึงมีการพยายามจะตั้งนายกฯ สำรอง ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ทำให้รู้สึก ไม่ดีต่อรัฐบาลเท่าไหร่...

"ผมคิดว่าไม่รู้รัฐบาลคิดยังไงที่มีแรงบีบคั้น อย่างเรื่องรัฐธรรมนูญที่จะมีความพยายามผลักดันต้องแก้กฎหมาย กันเพราะว่ารัฐบาลต้องการจะรักษาฐาน ของพวกเสื้อแดง ส่วน พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท ผมก็ไม่แน่ใจว่าช่วงนี้จำเป็นต้องเอาเข้าไปเพื่ออะไร เห็นบอกว่าเป็น การลงทุนสร้างโครงข่ายพื้นฐานทางคมนาคม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันเหมาะสมหรือเปล่าที่ควรจะทำ เพราะแน่นอนว่าจะเป็น ช่องทางที่ทำให้เขามองว่าจะเป็นช่องทางให้เกิดการคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬาร คำถามอยู่ตรงที่ว่าโครงการอันนี้ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้มีเหตุผลและความ ชอบธรรมยังไงที่จะสนับสนุนให้มีโครงการอย่างนี้มากน้อยแค่ไหน"

ทางด้าน "จาตุรนต์ ฉายแสง" คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้ระบุถึง "ปัจจัย" ที่อาจทำให้การเมืองเดือดปุดตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์เอาไว้...โดยที่ในประเด็นออก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทนั้น คงไม่ใช่ปัจจัยที่นำไปสู่การเมืองร้อนแรง หากรัฐบาลอธิบายถึงเนื้อหากฎหมายฉบับนี้ดีๆ ให้ประชาชนเข้าใจ ย่อมจะเป็นผลบวกแก่รัฐบาล ส่วนประเด็นการ แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ต้องคิดว่าจะแก้ไขในประเด็นอะไร เช่น เราอยากแก้ประเด็น องค์กรอิสระทั้งระบบ ก็ใช้เวลานานเป็น ปี เพราะเป็นเรื่องใหญ่ จึงเห็นตรงกันที่จะแก้ไขประเด็นที่เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ แก่รัฐบาลที่มักจะถูกกลไกตามรัฐ-ธรรมนูญเล่นงาน

"ประเด็นการออกกฎหมายนิรโทษกรรมจะทำให้คนรู้สึกว่าเป็นชนวนให้คนต่อต้านกันมาก ผมก็เข้าใจว่าเกิดในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกล่าวหาแบบจับแพะชนแกะ โยงประเด็นมั่วไปหมด จนสังคมไม่เข้าใจว่าจะนิรโทษกรรมให้ใคร และบังเอิญรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ชัดเจนที่จะผลักดันกฎหมายฉบับนี้เมื่อไหร่ เลยไม่ค่อยมีใครออกมาชี้แจง ถ้าทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน ชี้แจงอย่างจริง จังเป็นระบบ เชื่อว่าน่าจะผ่านไปได้ แน่ นอนไม่มีทางจะทำให้สังคมเห็นเป็นเอกฉันท์ ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ต้องคาดหวังที่จะมาเห็นดีเห็นงามด้วย ถึงอย่างไรก็ต้องคัดค้านจนนาทีสุดท้ายไม่ให้นิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ความจริง พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรมอยู่แล้ว"

ส่วนในวันที่ 15-19 เม.ย.นี้ คณะต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารของไทยจะไปชี้แจงด้วยวาจาครั้งสุดท้ายต่อศาล โลก จะเป็นประเด็นเพิ่มอุณหภูมิการ เมืองอย่างไรนั้น "จาตุรนต์" ชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นไปได้ เพราะมีความพยายาม นำมาเป็นประเด็นการเมืองให้ร้อนแรงยิ่ง ขึ้นตลอด มุ่งหวังโจมตีหรือล้มรัฐบาล โดยปลุกกระแสคลั่งชาติ บิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ใส่ร้ายแบบจับแพะชนแกะ ทางออกที่ดีผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคมไทย

เหนืออื่นใด ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเดินหน้ากฎ-หมายนิรโทษกรรม หรือการผ่าน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท และคดีพิพาท "ปราสาทพระวิหาร" หากฝ่าย ที่เกี่ยวข้องชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคมด้วยเหตุด้วยผล ก็เชื่อมั่นว่า สถานการณ์การเมืองคงจะไม่ร้อนแรงเกินไปนัก?!!!


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ