จากสถิติที่กระทรวงสาธารณสุข ได้สะท้อนถึงปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในสังคม เท่าที่ผ่าน มาพบว่าสถิติของการเกิดความรุนแรงในขณะนี้มีค่าเฉลี่ยสูงมากนับเป็น 20 นาที/1 คน และแนวโน้มดังกล่าวยังคงมีทีท่าว่าจะสูงขึ้น

นั่นจึงเป็นที่มาของโครงการรณรงค์ สร้างจิตสำนึกเพื่อยุติความรุนแรงในครอบครัว หรือ "GENTLEMAN CLUB" ภายใต้การดำเนินการของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงมนุษย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึก ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมยุติความรุนแรงในครอบครัว รวมทั้งสร้างการ รับรู้ ช่องทางการติดต่อขอรับบริการเกี่ยวกับการยุติความรุนแรงในครอบครัว โดยมีการคิกออฟโครงการ ณ ลานหน้าศูนย์การค้า CENTRAL WORLD โดยมี "สันติ พร้อมพัฒน์" รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นประธานเปิดงาน เมื่อไม่นานมานี้

โดย "สันติ พร้อมพัฒน์" รมว. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่น คงของมนุษย์ ได้เปิดเผยถึงโครงการดังกล่าวผ่าน "หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ" ว่า จากสถิติข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีเด็กและสตรีถูกกระทำความรุนแรง และเข้ารับการศึกษาที่โรงพยาบาล เฉลี่ย 20 นาทีต่อ 1 ราย สอดคล้องกับจำนวนเด็กและสตรีที่ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวที่เข้ารับบริการในบ้านพักเด็กและครอบครัว กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในระหว่าง พ.ศ.2553- 2555 ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น นอกจากนี้

ผลสำรวจของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า ร้อย ละ 70.7 เข้าใจว่าความรุนแรงในครอบครัวเกิด ขึ้นได้กับทุกคน ร้อยละ 19 เห็น ว่าการทะเลาะทุบตีในครอบครัวเป็นเรื่อง ธรรมดา ร้อยละ 42.8 ไม่เคยเข้ามามีส่วนร่วม

จากผลการสำรวจถึงการกระทำความรุนแรงไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นทุกวัน ทางกระทรวงจึงได้มีความคิดที่จะให้ผู้ชายที่นิยมใช้ความรุน แรงเป็นส่วนใหญ่ ได้รู้สึกถึงการมีจิต สำนึกในเรื่องของการลดความรุนแรง และมีความเป็นสุภาพบุรุษ พร้อมทั้งให้ช่วยกันเฝ้าระวัง ไม่นิ่งเฉยต่อความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในสังคม และหากได้พบเห็นการ กระทำความรุนแรงต่อสตรีก็สามารถติด ต่อเข้าไปที่สายด่วน 1300 ซึ่งทางศูนย์ประชาบดีจะคอยรับเรื่องนี้โดยจะมีรถตู้ด่วนออกมาระงับเหตุ

นอกจากนี้ ยังมีทั้งนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่ที่มีความจำเป็นเกี่ยวข้องไว้รองรับทุกสถานการณ์ รวมถึงเราได้พยายามโดยดึงชาว บ้านเข้ามาเป็นเครือข่าย ในการสอดส่อง ดูแล สำหรับในกรณีที่ไม่หนักหนาเกินไปนัก คือในระดับที่ชุมชนดูแลกันเองได้

สำหรับแผนในการดำเนินการใน ขณะนี้ต้องยอมรับว่ายังอยู่ในช่วงของการประชาสัมพันธ์ ซึ่งในโครงการนี้ทาง กระทรวงจะทำแต่เพียงฝ่ายเดียวคงไม่ได้เพราะปัญหาการใช้ความรุนแรงต่อสตรีเป็นปัญหาที่ใหญ่ มีการกระจายตัวของปัญหามีอยู่ในวงกว้างแทบจะในทุกระดับของสังคม การทำงานของเราจึงจำเป็นต้องทำในลักษณะภาคี คือเราได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิต่างๆ อย่าง มูลนิธิเพื่อนหญิง มูลนิธิหญิงชายเท่าเทียม มูลนิธิปวีณา รวมถึงโรงพยาบาลต่างๆ ที่เรามีจุดประสงค์ร่วมกัน

โดยเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้คือ เรา จะทำให้สังคมปราศจากความรุนแรงโดยสิ้นเชิง ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้ชาย หรือสุภาพบุรุษซึ่งจากสถิติจะเป็นฝ่ายที่สร้างความ รุนแรงเป็นส่วนใหญ่ และในขณะเดียว กันเราก็จำเป็นต้องประชาสัมพันธ์กับสุภาพสตรีว่าให้ระมัดระวัง ไม่แสดงกิริยา อาการในเชิงยั่วยุให้อีกฝ่ายรู้สึกโมโหจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงขึ้นในที่สุด

ในส่วนการเข้าถึงสายด่วนประชาบดี เราได้เพิ่มคู่สายขึ้นอีกจำนวนมาก เป็นหลายร้อยเลขหมายแล้ว สำหรับผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ความรุนแรงกรุณาแจ้งไปที่หมายเลข 1300 ได้เลยเรารับ รองความรวดเร็ว รวมถึงเราได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการตลอด 24 ชั่วโมง นอก จากนี้หน่วยเคลื่อนที่เร็วของเรามีความพร้อมที่จะออกไประงับเหตุ หรือออกไปทำความเข้าใจ สร้างจิตสำนึกก่อนเกิดเหตุได้ตลอดเวลา

สุดท้ายอยากจะฝากไว้กับสุภาพบุรุษทั้งหลายคือ..ขอให้เรารู้จักที่จะเคารพ ต่อสิทธิของสุภาพสตรี สิทธิแห่งความเท่า เทียมกัน ไม่ใช้ความรุนแรงเพราะว่าคนที่ใช้ความรุนแรงนั้นจริงๆ แล้วคุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย ลูกผู้ชายนั้นจริงๆ แล้ว จะต้อง ไม่ใช้ความรุนแรง

นี่คืออีกหนึ่งโครงการที่เสริมสร้างลูกผู้ชายตัวจริงคืนสู่สังคม..