"อยุติธรรม" ต้องรีบสาง

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556



การพบปะพูดคุยระหว่างหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับกลุ่มขบวน การ BRN ที่มี มาเลเซีย เป็นเจ้าภาพประสานงานให้อย่างเป็นทางการได้ผ่านการทดสอบมา 2 ครั้งอย่างราบรื่น ด้วยบรรยากาศที่เป็นไมตรีต่อกันดีขึ้นเป็นลำดับแล้ว

การ "ปรับทุกข์ ผูกมิตร" ก็เริ่มระบายออกมาให้รู้สึกถึงอารมณ์ที่อัดอั้นมานานของฝ่ายขบวนการ

เมื่อได้รับข้อมูลแล้ว ทั้ง สมช.และ ศอ.บต.ก็ไม่รอช้า นอกจากรายงานให้หน่วยเหนือทั้งรัฐบาลและกองทัพทราบแล้ว จึงมุ่งลงไปพบปะกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ 3 จังหวัดภาคใต้ทันที เพื่อแสดงให้เห็นความจริงใจให้ทุกฝ่ายรู้ว่า ฝ่ายการเมืองและหน่วยราชการที่รับผิดชอบครั้งนี้ "เอาจริง"

ไม่เหลาะแหละเหลวไหลเหมือนอดีตที่ผ่านมาอีกแล้ว

แน่นอนเครือข่ายภาคประชาชนที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นกรรมการอิสลาม 3 จังหวัด ฝ่ายพระสงฆ์แต่ละจังหวัด สมาคมโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม สมาคมสถาบันปอเนาะ มูลนิธิตาดีกา 3 จังหวัด รวมถึงผู้นำศาสนาอิสลามก็พร้อมใจพากันไปพบปะกับ สมช.และ ศอ.บต.อย่างพร้อมเพรียง

เป็นการทราบข้อมูล และมีส่วนร่วมรับรู้กรณีการพบปะพูดคุยของหน่วยงาน ไทยกับตัวแทนกลุ่ม BRN เพื่อให้เกิดความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน

เพราะความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันนี่แหละ คือ หัวใจนำไปสู่การแสวงหา ความสงบและสันติที่รวดเร็วกว่าทุกทางแม้ว่าสถานการณ์จริง จะเกิดการปะทะทำลายล้างจนสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินยังดำรงอยู่ทุกวันก็ตาม เพราะฝ่ายก่อการร้าย และฝ่ายรักษากติกาของแผ่นดินก็ยังมี "อารมณ์แค้น" ค้างฝังจิตฝังใจอยู่อีกไม่น้อย

ขณะเดียวกัน "ช้างสารชนกัน" ย่อมทำให้ "หญ้าแพรก" คือประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็พลอยรับทุกข์ทรมานไปด้วย

ฝ่ายขบวนการได้ชี้ให้เห็นถึงความอยุติธรรมที่มีมาตั้งแต่อดีต ไม่ว่ายุคหะยี สุหรง ถูกตำรวจสันติบาลรับ "ใบสั่ง" ให้จับไปถ่วงน้ำ เพียงเพราะมีความคิดเห็นที่ แตกต่าง แต่ถูกสรุปรวบยอดว่าเป็นต้นตอแห่งการแบ่งแยกดินแดน, กรณีปราบในมัสยิดกรือเซะด้วย "กำปั้นเหล็ก" ไม่เหลือแม้แต่ชีวิตเดียว หรือกรณีการจับพวกประท้วงที่ตากใบขึ้นรถยีเอ็มซีแล้วใช้วิธีให้นอนคว่ำทับซ้อน พร้อมเหยียบด้วยเกือกบูตจนหายใจไม่ออกและตายบนรถทหารหลายสิบศพอย่างทรมาน ตลอดจน ถึงเจ้าหน้าที่ "จับมั่ว" แล้ว "ปั้นพยานเท็จปรักปรำ" ชาวบ้าน จนบางกรณีตำรวจจับคนไปซ้อมและทรมานอย่างเจ็บปวด ก็เคยเป็นประวัติและมีตัวตนรู้เห็น ตัวเป็นๆ ยังลอยนวลอยู่...ย่อมเป็นแผลลึกที่ตราตรึงในจิตใจของญาติพี่น้องผู้คนที่มีวัฒนธรรม และศาสนาเดียวกันอย่างยากที่จะลืมเลือนได้

ปฏิบัติการ "เอาคืน" แบบ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" จึงตามมาตลอดเวลา 9 ปี เต็มด้วยวิธีก่อการร้ายที่ไม่สนใจว่าจะไปกระทบคนดีที่ไม่เกี่ยวข้อง จึงเกิดขึ้นเป็นระลอกรายวันไม่ว่า กรณีสังหารพระอย่างโหดเหี้ยม การฆ่าตัดคอ การยิงและเผา ทั้งเป็น การฆ่าครูไม่เลือกว่าจะเป็นชายหรือหญิง แต่เป็นเป้าหมายที่อ่อนแอง่ายต่อการสร้างสถานการณ์ ไม่เว้นแม้แต่เด็ก จึงเป็นสงครามย่อยที่คนไทยซึ่งไม่เข้าใจ สถานการณ์ในพื้นที่อดรนทนไม่ได้ ถึงกับ "เลือดขึ้นหน้า" เชียร์เจ้าหน้าที่โต้ตอบแบบเด็ดขาดให้รู้แล้วรู้รอด

แน่นอน อดีตเหล่านั้นและปัจจุบันที่ยังไม่เบาบางจางลง จึงมีแต่เรื่องการสะสม ความคับแค้นทับทวีต่อไป อันเนื่องมาจากต่างฝ่ายต่างยืนยันว่า มันคือ ความอยุติธรรม

เมื่อเกิดการพูดคุยและยอมรับว่า อดีตเกิดจากความอยุติธรรม ก็จำเป็นที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เรื่องไหนหาความยุติธรรมได้ก่อนก็รีบสรุปยื่นให้ แล้วประกาศให้รับรู้โดย ทั่วกัน ส่วนเรื่องไหนซับซ้อน หรือต้องใช้เวลาพิจารณานานหน่อย ก็รีบหาหนทาง สะดวกและลดเงื่อนไขต่างๆ ให้น้อยลง

เมื่อความยุติธรรมปรากฏกระจายกว้างออกไปทั่ว 3 จังหวัดอย่างประจักษ์ชัด มากเข้า แน่นอนว่า "รอยยิ้ม" ย่อมตามมา และความมีส่วนร่วมให้อภัยเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ

ชั่วโมงนี้จึงไม่มีอะไรดี เท่ากับความอดทนอดกลั้น และตั้งสติให้นิ่งไม่วอกแวก ต่อความคิดที่จะหลอกล่อให้เกิดความหวาดระแวงเข้ามา "กวนน้ำให้ขุ่น"

ซึ่งยามนี้ไม่ต้องเปิดหน้ามาให้เห็น ใครๆ ก็พอ "อ่านเกมทะลุ" แล้วไม่ใช่ หรือว่า มีใครฝ่ายไหน หรือสื่อฝ่ายใดที่หวังผลให้กระบวนการเจรจาผิดลู่หลงทาง ไปสู่ความล้มเหลว...ถ้าฝ่ายตนเสียคะแนนนิยมไปอย่างช่วยไม่ได้!


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ