Toggle navigation
วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
รีบแก้ "แม่น้ำยม"
รีบแก้ "แม่น้ำยม"
วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556
Tweet
ใครที่ไม่ได้เดินทางไปเห็นด้วยสายตาตนเอง ย่อมไม่ประจักษ์ความจริง
ผมไปอีสานช่วงหน้าร้อนเห็น เขื่อนอุบลรัตน์ฯ ที่ขอนแก่น ชัดเจนว่า เขื่อนที่นั่นต้องปิดประตูเก็บน้ำ จึงไม่ต้องพูดถึงการผลิตไฟฟ้า เพราะมีน้ำไม่พอปั่นไฟ...ขณะที่ข่าว เขื่อนจุฬาภรณ์ฯ ก็ทำนองเดียวกัน กล่าวคือปีนี้น้ำแห้งมากจนไม่อาจช่วยเหลือการเกษตรและผลิตไฟฟ้าได้
สาเหตุใหญ่คือภาคอีสานไม่มีป่าไม้หลงเหลือให้ช่วยซับความชุ่มชื้นจากไอน้ำ ในอากาศอีกแล้ว บางพื้นที่ถึงกับยอมให้ขุดน้ำบาดาลมาทำนา ก็เท่ากับว่ายินยอม ให้น้ำที่อยู่ใต้ดินซึ่งควรจะกักตุนให้รากต้นไม้ไว้ดูดซับหน้าแล้งต้องขาดน้ำใต้ดินไว้หล่อเลี้ยงลำต้นในยามจำเป็น
แม้แต่ใต้ผืนดินก็ยังเหือดแห้งขาด "คลังน้ำ" เอาไว้ดูดกิน แล้วต้นไม้จะไปมีศักยภาพดูดซับความร่มเย็นแก่ผิวดินได้อย่างไร
ภาคอีสานต้องรีบคิดโครงการใหญ่เพื่อลำเลียงน้ำเอาไปเลี้ยงแผ่นดินอย่างเป็นระบบ ไม่งั้นแผ่นดินอีสานจะเป็นอัมพาตชั่วทันตาอีกไม่นาน
ขณะเดียวกันภาคเหนือมีแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่จากแม่น้ำ 3 สาย ทั้งปิง วัง และน่าน ช่วยให้เกษตรกรผลิตพืชผลส่งออกไปหล่อเลี้ยงประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งยังผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนเข้าสู่ระบบพลังงานของประเทศได้มหาศาลมานานนับสิบๆปี
ย่อมไม่มีเหตุผลอื่นใดมาลบล้างโครงการเหล่านี้ว่ามีข้อเสียมากกว่าข้อดี
ถ้าไม่มีเขื่อน จากแม่น้ำ 3 สายนี้มาแต่อดีตเสียอีก แผ่นดินภาคเหนืออาจแห้งแล้งไม่ต่างจากแผ่นดินอีสานก็ได้
หากจะมีองค์กรใด หรือคนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย และคัดค้านไม่ให้มีการสร้างเขื่อนที่แม่น้ำยม ด้วยเหตุผลพอฟังได้ ไม่ว่าจะทำให้ป่าผืนใหญ่ถูกทำลายลงอีก แปลงหนึ่ง หรือทำลายระบบนิเวศของธรรมชาติ รวมทั้งอ้างไกลไปถึงแม่น้ำยมอยู่ในเขตรอยแยกของเปลือกโลกอาจเกิดแผ่นดินไหวได้
แม้แต่อ้างว่าจะทำลายแปลงป่าสักทองผืนสุดท้ายไปด้วย จึงล้วนเป็นเหตุผลที่พยายามจะรวมข้อมูลความเลวร้ายของภัยพิบัติจากทั่วโลกมากองเป็น ภูเขาใหญ่ใกล้แม่น้ำยมทั้งสิ้น
สึนามิที่ญี่ปุ่นคร่าชีวิตมนุษย์ไปมากกว่า 2 หมื่นคน แต่บังเอิญทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์รุ่นเก่าพังไปด้วย นักต่อต้านนิวเคลียร์จึงฉวยโอกาสอ้างความตายจากสึนามิเหมาเอาไปปนกับโรงฟ้านิวเคลียร์อย่างไม่สมเหตุสมผล
พลังงานไฟฟ้าเมืองไทยที่ทำท่าจะวิกฤติอีกไม่นานในอนาคตจึงถูกกลุ่มคัดค้านการใช้วัตถุดิบทุกชนิดผลิตไฟฟ้า โดยไม่ยอมฟังเหตุผลด้านดีและข้อเสียมาเปรียบเทียบ...เป็นการมองโลกแบบปิดหูปิดตาโดยไม่รู้จักยืดหยุ่น และเปิดตากว้างด้วยสำนึกที่ฉลาดของการมองโลกในแง่ร้าย แต่ไม่คำนึงถึงความเป็นจริง (มาร์ติน ซีเลกแมน-1942)
ผู้อ้างว่าการพัฒนาลุ่มน้ำยมจะทำลายป่าสักทองผืนสุดท้ายของโลกที่แก่งเสือเต้น ไยไม่หยิบป่าสักทองที่ปลูกใหม่หลายจังหวัด หรือป่าสักทองผืนมหึมากว่าในพม่ามาบอกให้ประชาชนรู้ว่ายังมีป่าสักที่ใหญ่กว่าบ้านแม่เต้นอีกหลายแปลง
ก็แล้วกลุ่มคัดค้านไม่ให้พัฒนาแม่น้ำยม ได้แสดงจิตสำนึกจิตวิญญาณในการรักผืนป่าให้เห็นเป็นประจักษ์มากน้อยแค่ไหนนักหรือ
เพราะเห็นป่าเขาเถาเทือกรอบๆชุมชนเหี้ยนเตียนในรัศมี 4-5 กิโลเมตรเลี่ยนโล้นไปทุกดอย
แต่กลับเห็นบ้านหลังใหม่ ก่อด้วยเสาไม้สัก และไม้เนื้อแข็งขนาดโอบไม่รอบผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดภายในชุมชน จากสีหน้านักต้านแม่น้ำยมที่ไม่ค่อยยิ้มรับผู้คนแปลก หน้าให้เดินเล่นเหมือนกับมีเลศนัย
ผมไม่แน่ใจในท่าทีของกลุ่มคัดค้านอย่างเอาเป็นเอาตาย แถมเป็นเหตุผลที่มีเงื่อนงำจำเอาเหตุการณ์ที่อื่นมาเคล้าผสมให้เป็น "คนละเรื่องเดียวกัน" โดยไม่แยกแยะสภาพที่แท้จริงของพื้นที่
ถ้าจะค้านการสร้างเขื่อนว่ามีข้อเสียที่เลวร้ายมากกว่า ก็แล้วทำไมไม่ค้าน "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" ที่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างชะงัด ทำไมไม่ค้านเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ หรือเขื่อนศรีนครินทร์ที่สร้างคุณอนันต์ทางด้านเกษตรกรรมและผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยล่ะ
ทุกครั้งที่เกิดอุทกภัย น้ำไหลหลากจากแม่น้ำยมไปทำลายบ้านเรือนประชาชน หลายจังหวัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแทบทุกปีมีมูลค่าความเสียหายมหาศาล เทียบไม่ได้กับความคุ้มค่าของกลุ่มคนค้านการพัฒนาแม่น้ำยมที่ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเสียเอง มาสร้างบ้านหรูหราประกอบเสาบ้านขนาดเขื่องเรือนหนึ่งหลายสิบต้น
เรื่องไหนมันเป็นเหตุผลจริง หรือเหตุผลลวงกันแน่?
ฉะนั้นถ้าหากรัฐบาล หรือเครือข่ายประชาชนหลายจังหวัดได้เปรียบเทียบเห็นผลดีผลเสียที่ชั่งน้ำหนักในการพัฒนาแม่น้ำยม เพื่อให้ผู้คนทุกฝ่ายได้เข้าใจการมีเขื่อน มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และมากพอจะกักเก็บน้ำเอาไปใช้ยามหน้าแล้งได้ ก็รีบๆ แสดงพลังรวมตัวเพื่อพัฒนาแม่น้ำยมเร็วๆ เถอะ
ก่อนที่ประชาชนจะประสบภัยจากแม่น้ำยมซ้ำซากเป็นประจำทุกปีอย่างสมเพชเต็มทน!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ