เปิดใจ "บิ๊กแขก" รับไม้ต่อแม่ทัพภาค 4

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

เปิดใจ


เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้ที่มารับไม้ผลัดในการสางปัญหาไฟใต้ต่อจาก "บิ๊กเมา" พล.ท. อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ในตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าไม่ใช่ใคร พล.ท.สกล ชื่นตระกูล หรือ "บิ๊กแขก" ซึ่งพล.ท.สกล ชื่นตระกูล สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 13 (ตท.13) รุ่นเดียวกับ พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ นั่นเอง นอกจากนี้ "บิ๊กแขก" ยังได้คร่ำหวอดอยู่ในพื้นที่ทำงานร่วมทุกข์ ร่วมสุขอยู่กับ พล.อ.อุดมชัย มาเป็นเวลานานในตำแหน่ง ผอ.สำนักอำนวยการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และรอง ผอ. รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จนกระทั่งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อต้นเดือนนี้เอง

พล.ท.สกล ชื่นตระกูล กล่าวในการรับมอบตำแหน่ง ณ ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี ว่า เป็นเกียรติอย่างสูงสุดที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ได้รับตำแหน่งนี้ และยืนยันว่าจะสานต่อนโยบายที่ทำมาของแม่ทัพเดิมและนำพาสันติสุขกลับคืนชายแดนใต้ให้ได้ พร้อมเปิดใจว่า

"ผมตั้งใจอุทิศตนในการทำงานด้วยการมุ่งขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ปัญหาในพื้นที่ซึ่งได้ขับเคลื่อนกันมาให้ก้าวหน้ามากขึ้น ส่วนความต่อเนื่องในการ ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารบกที่ท่านแม่ทัพอุดมชัยทำมาตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น ผมจะสานต่อแนวทางให้มีความต่อเนื่องไปอย่างน้อยอีก 1 ปี เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ที่เราได้เดินทางร่วมกันมา เราเดินทางมาไกลพอสมควรตามคำสั่งผู้บัญชาการทหาร บกที่ท่านได้ดูแลพวกเรามา และใกล้สู่จุดหมายที่ตั้งไว้แล้ว"

+ มองอนาคตสันติภาพ

ตอนนี้ในส่วนของพลังมวลชนได้ตอบสนองตามนโยบายของรัฐ และแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้วางไว้ คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เป็น การอยู่ร่วมกันและมีความสัมพันธ์ระหว่าง กัน ซึ่งแนวทางต่างๆ ที่ทางแม่ทัพอุดมชัยทำมาร่วมกับพี่น้องประชาชนชาว 3 จังหวัดนั้นเห็นผลอย่างชัดเจนว่า พวกเรา อยู่ร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งในส่วนของแม่ทัพอุดมชัย จริงๆ แล้วท่านก็ยังไม่ได้ไปไหนท่านจะเดินทางดำเนินประสานกับโครงการและพี่น้องในพื้นที่เหมือนเดิม และจะน้อมรับทุกอย่างมาทำอย่างเคร่ง-ครัด ให้มีความสำเร็จสูงสุด ภารกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติ เราเดินทางมาไกล ใกล้สู่จุดหมายที่ตั้งไว้แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนและขึ้นอยู่กับเจตจำนงของ "บีอาร์เอ็น" ที่แสดงตัวอยู่ในปัจจุบันนี้ เพราะถ้าเจตจำนงของบีอาร์ เอ็นที่จะยุติความรุนแรงทุกอย่างก็จะจบ และความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้น มีปัญหาอะไรที่เราต้องทำความเข้าใจกันเราก็ต้องมาพูดคุยกันเหมือนในปีที่ผ่านมา ซึ่งกระบวนการตรงนี้เป็นความต้องการของพี่น้องในพื้นที่ การพูดคุยเพื่อสันติภาพ

กระบวนการพูดคุยสันติภาพที่ "สมช." เป็นตัวแทนทำอยู่และมีตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมกระบวนการนี้เป็นเรื่องที่ทางกองทัพเห็นด้วย การพูดคุยระหว่าง "บีอาร์เอ็น" กับ "สมช." นั้น เป็นการพูดคุยในระดับรัฐบาล ซึ่งในระดับพื้นที่เราก็ให้ข้อมูลในระดับพื้นที่ และถ้าต้องการบุคคลใดที่จะเข้าร่วมก็ยินดีให้การสนับสนุน และในตอนนี้กระบวนการเพิ่งเริ่มไปเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งในอนาคตถ้าทางผู้แทนของ "สมช." มีความ ต้องการประการใดเราก็พร้อมที่จะสนับสนุนโดยที่ไม่ปฏิเสธ

+ ความสอดรับของโครงการที่ทำอยู่

จริงๆ แล้วการพูดคุยนั้นตั้งแต่ท่านแม่ทัพอุดมชัยเข้ามารับตำแหน่งโดยท่านผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการในเรื่องของให้หาหนทางที่จะให้ยุติความรุนแรงด้วยการพูดคุย ซึ่งเราก็ได้มีการพูดคุยในระดับบุคคล ระดับครอบครัวและพยายาม ที่พูดคุยมาโดยตลอด ก็จะเห็นผลของการพูดคุยว่ามีพี่น้องร่วมชาติของเราได้กลับเข้ามาเข้าร่วมสังคมกับเราอีกครั้งหนึ่งเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระบวนการตรงนี้ชัดว่าไม่ได้ต้องการความรุนแรง และมีคนในกระบวนการหลายคนก็ไม่ได้ต้องการความรุนแรง เราจะทำยังไงให้หาหนทางที่จะหาเจตนารมณ์ของทั้ง 2 ฝ่ายให้เข้ามาอยู่ร่วมกันให้ได้

+ นโยบายรัฐยังทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต

สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วไม่ได้เกิดจากนโยบายของรัฐแต่เกิดจากนโยบายของ "บีอาร์เอ็น" ที่จะก่อเหตุก่อความรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของรัฐ ซึ่งนโยบายของรัฐมีแต่มุ่งที่จะพัฒนา พบปะพูดคุยที่จะใช้สันติวิธี ซึ่งความรุนแรงไม่ได้เริ่มจากฝ่ายรัฐแต่เริ่มจากทาง "บีอาร์เอ็น" ซึ่งถ้าหาก "บีอาร์เอ็น" เขาจบ ยุติการใช้ความรุนแรงทุกอย่างก็คงจบ

+ แนวโน้มที่จะหยุดใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีเพราะมีเหตุฉุกเฉิน! ถ้าเหตุรุนแรงจบก็ไม่ฉุกเฉิน ยกเลิกได้โดยทันที ซึ่งปัญหาคือยังมีความรุนแรงอยู่เรื่อย มีขบวนการที่มีเจตจำนงที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นข้อต่อรองและจะใช้การก่อการร้ายในที่สาธารณะจึงเกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งถ้าหยุดก่อเหตุเมื่อไหร่เราก็ไม่ใช้

+ ฝากความเชื่อมั่นถึงพี่น้องในพื้นที่

นโยบายของรัฐบาลและผู้บัญชาการทหารบกที่สั่งการลงมายังกองบัญชา-การรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ผ่านยุทธศาสตร์ 9 ข้อของรัฐบาล ได้สั่งการและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างยุติโดยเร็วไม่ว่าจะด้วยประการใด สิ่งที่เราทำในขณะนี้คือสิ่งใดที่เราทำได้ เราจะทำไปก่อน ล่วงหน้าโดยที่ไม่ต้องรอพูดคุยหรือต่อรองไปก่อน ขอเป็นพี่น้องกันตลอดไป มีสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องขอให้บอกกล่าวกันและชี้แนะด้วยเพื่อภารกิจและการพัฒนาที่เป็นประโยชน์แก่พี่น้องทุกคนในพื้นที่


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ