“คปภ.” ชี้ ปีนี้เห็นสัญญาณธุรกิจประกันภัยฟื้น แต่ตลาดรถยนต์อีวี & สังคมสูงวัยพุ่ง คือความท้าทายหลัก ชูนโยบาย 5 มิติ ผลักดันอุตสาหกรรมประกันภัยไทยเบี้ยโตแตะ 1 ล้านล้านบาท ในปี 2569

วันจันทร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2567

“คปภ.” ชี้ ปีนี้เห็นสัญญาณธุรกิจประกันภัยฟื้น แต่ตลาดรถยนต์อีวี & สังคมสูงวัยพุ่ง คือความท้าทายหลัก ชูนโยบาย 5 มิติ ผลักดันอุตสาหกรรมประกันภัยไทยเบี้ยโตแตะ 1 ล้านล้านบาท ในปี 2569


นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยถึงแนวนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ประจำปี 2567 ว่า  จากข้อมูลการเติบโตของเบี้ยประกันภัยในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ได้ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนว่าหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจประกันภัยมีความเข้มแข็ง โดยเห็นได้จากการที่ธุรกิจมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน และมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยของธุรกิจประกันชีวิต 3.92% ส่วนธุรกิจประกันวินาศภัย มีอัตราการเติบโต 5.16% โดยคาดการณ์ว่า ณ สิ้นปี 2566 เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ (891,621 – 927,377 ล้านบาท) สำหรับแนวโน้มและความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อสำนักงาน คปภ. และธุรกิจประกันภัยไทยมี 7 ประเด็นหลัก คือ ประเด็นแรก ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐาน และสถานีหรือจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังถูกพัฒนาและเพิ่มจำนวนขึ้น

ประเด็นที่ 2 สังคมผู้สูงอายุและชีวิตหลังเกษียณ ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด ในปี 2575 ถือเป็นโอกาสของภาคธุรกิจประกันภัยที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์ประเภท ประกันภัยสุขภาพ ประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดผู้สูงอายุ

ประเด็นที่ 3 ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ นอกเหนือจากสังคมผู้สูงอายุที่เป็นปัจจัยเร่งแล้ว การแพร่ระบาดของโควิด-19 และ Medical inflation ส่งผลให้ผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยสุขภาพ และมีความต้องการประกันภัยสุขภาพที่เพิ่มขึ้น

ประเด็นที่ 4 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โจทย์คือทำอย่างไร ธุรกิจประกันภัยจะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในระดับที่สูงขึ้น ภายใต้การดูแลลูกค้าที่เหมาะสมและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้

ประเด็นที่ 5 การเข้าถึงลูกค้า โดยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เฉพาะบุคคลมากขึ้น ประเด็นที่ 6 การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) และประเด็นที่ 7 การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยการออกกฎเกณฑ์และมาตรฐานใหม่ ๆ เช่น PDPA TFRS17 ICPs และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

เลขาธิการ คปภ. กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ใน 5 มิติหลัก ๆ คือ มิติแรก การยกเครื่องการกำกับดูแลความเสี่ยงและการตรวจสอบบริษัทประกันภัย มุ่งสร้างความแข็งแกร่ง มั่นคง และความน่าเชื่อถือให้กับระบบประกันภัย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจและสร้างศรัทธาให้กับประชาชน โดยยกระดับมาตรฐานการกำกับความมั่นคงและการตรวจสอบบริษัทประกันภัย อาทิ มุ่งสู่การตรวจสอบเชิงรุก ยกระดับระบบตรวจสอบความเสี่ยงและสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า การเพิ่มศักยภาพในการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจประกันภัย ยกระดับการอนุมัติกรมธรรม์ และส่งเสริมบทบาทของนักคณิตศาสตร์ประกันภัย

มิติที่ 2 สร้างความแข็งแกร่ง มั่นคง และความน่าเชื่อถือให้กับระบบประกันภัย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจและสร้างศรัทธาให้กับประชาชน โดยกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อมุ่งสู่ Consolidation แก้ไขกฎหมายในกลุ่มที่ 2 และ 3 เพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจประกันภัย และขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยไปพร้อมกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน โดยการจัดทำ Service Level Agreement (SLA) ของธุรกิจประกันภัย

มิติที่ 3 ผลักดันให้การประกันภัยเป็นกลไกขับเคลื่อนชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมของคนในชาติ “ประชาชนทำประกันภัยด้วยความเชื่อมั่น บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง ประเทศมีความมั่งคั่ง” โดยส่งเสริมให้การประกันภัยเป็น Financial Well-being ของประชาชนทุกคน “ประกันภัยที่ประชาชนเข้าถึงได้ เข้าถึงง่าย และอยากเข้าถึง” ผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยเข้าไปรองรับทุกช่วงการใช้ชีวิตของคนตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ และตาย อย่างตรงจุด ยุติธรรม เต็มไปด้วยคุณค่า และเปิดให้มีการลงทุนประเภทใหม่ของบริษัทประกันภัย ภายใต้หลัก Risk Proportionality

มิติที่ 4 ยกระดับประกันภัยไทยให้ก้าวล้ำนำสมัยในระดับสากล โดยเตรียมความพร้อมเพื่อเข้ารับการประเมินโครงการ Financial Sector Assessment Program หรือ FSAP และผลักดันให้มี Insurance Community หรือ Insurance Institute ระดับนานาชาติ และ

มิติที่ 5 การสร้างคนให้มีความสามารถอย่างโดดเด่น มีคุณภาพสูง และมีเป้าหมายเดียวกันในการขับเคลื่อนให้สำนักงาน คปภ. เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย โดยการปรับโครงสร้างการทำงานของสำนักงาน คปภ. ให้เป็น Team-based Structure หรือ Matrix Structure เพื่อให้การกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในภาพรวมมีประสิทธิภาพ ผลักดันให้บุคลากรแสดงศักยภาพโดยมุ่งเน้นความสำเร็จของงานผ่านการวางเป้าหมายและวัดผลที่ชัดเจน

ทั้งนี้ ปัจจุบันธุรกิจประกันภัยมีความมั่นคงและแข็งแกร่ง รวมถึงสำนักงาน คปภ. ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยไทย และมุ่งหวังให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าจะขับเคลื่อนเบี้ยประกันภัยโต 1 ล้านล้านบาทในปี 2569 เนื่องจากตนเองเห็นว่าธุรกิจประกันภัยให้เป็นอีกหนึ่งเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการบริหารความเสี่ยงทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ