รถไฟฟ้าฟื้นเมืองหลวง

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

รถไฟฟ้าฟื้นเมืองหลวง


กรุงเทพฯ ในอดีต ศูนย์กลางความหนาแน่นของหน่วยงานราชการและย่านธุรกิจ จะอยู่แถวราชดำเนิน บางลำพู วังบูรพา และเยาวราช ข้ามไปถึงวงเวียนใหญ่ ยิ่งชั่วโมงนี้เมืองหลวงขยายกว้างออกไปหลายเท่า แต่ย่านธุรกิจดังๆ ในอดีตกลับอัดแน่นด้วยผู้คนและรถราที่ "ไม่จำเป็นจริงๆ" ก็ไม่อยากย่างกรายเข้าไปให้หงุดหงิด

รถติดหนึบใจกลางกรุงเทพฯ ชั้นใน หากเจอ "แจ็กพอต" รถยิ่งติดเป็นแพขยับเคลื่อนแม้แต่คืบศอกก็ไม่ได้ พาลทำให้อารมณ์และการงานเสียไปโดยลืมคิดถึงสาเหตุหลัก

กรุงเทพฯ เพิ่งใช้ระบบขนส่งมวลชนเมื่อปลายปี 2542 หรือพูดได้ว่า ชาวกรุงได้นั่งรถไฟลอยฟ้า BTS ด้วยระยะทาง 31 กิโลเมตรเต็มๆ เมื่อปี 2543 เมื่อ 12 ปีมานี้เอง...ถือว่าล่าช้ามาก

และแล้วรถไฟฟ้าใต้ดินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จึงสร้างเสร็จและบริการเพิ่มเติมอีก 20 กิโลเมตร ปี 2547 ในอีก 4 ปีต่อมา

ไม่ว่าเป็นรถไฟลอยฟ้า หรือรถไฟใต้ดิน มันก็คือระบบขนส่งมวลชนแบบเดียวกัน

แต่ด้วยความทุลักทุเลของงานขนส่งมวลชนที่ต่างรับผิดชอบกันหลายหน่วย งาน ก็เกิดระบบขนส่งมวลชนของ "แอร์พอร์ต ลิงค์" เชื่อมระหว่างมักกะสันกับสนามบินสุวรรณภูมิอีก 28.6 กิโลเมตร จากการกำกับของการรถไฟแห่งประเทศไทย

รวมแล้วกรุงเทพฯ มีระบบขนส่งมวลชนมากถึง 3 หน่วยงาน บริการได้ระยะทางหย่อนๆไม่เกิน 80 กิโลเมตรเท่านั้น...มองแค่นี้ ก็ไม่ต้องไปสงสัยอะไรให้เปลืองสมองว่าทำไมการจราจรในเมืองฟ้าอมรแห่งนี้จึงไม่รู้จักคลี่คลายให้โล่งอกเสียที (นอกจากยามวิกาล)

การขยายตัวอย่างไร้ขอบเขตของกรุงเทพฯ ที่หนาแน่นไปด้วยประชากรแฝงมากกว่า 10 ล้านคน ควรมีระบบขนส่งมวลชนวนเวียนไขว้ไปไขว้มา

ระยะทางไม่ควรต่ำกว่า 250-300 กิโลเมตรด้วยซ้ำ

จึงเป็นหน้าที่ของคุณยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม.คนปัจจุบันซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ต้องลงมือเร่งก่อสร้างเส้นทางทั้งรถลอยฟ้า และรถใต้ดินแบบแข่งกับเวลาอย่างเต็มกำลัง

ถ้าเราท่านผ่านไปบนเส้นทางบางซื่อ-บางใหญ่ ก็จะเห็นเสาและฐานรางรถไฟฟ้าลอยอยู่เหนือตึกอาคารบ้านช่องยาวสุดตา ซึ่งอีกไม่นานรถไฟฟ้าสายสีม่วง นี้คงจะได้เปิดบริการจากนอกเมือง ในเมือง ขนคนไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ-นนทบุรี เป็นระลอก ช่วยระบายการจราจรบนถนนย่านนี้อย่างเห็นได้ชัด

ฝั่งธนบุรีก็ไม่น้อยหน้า (ไม่มีใครค่อนแคะว่าเป็น "ลูกเมียน้อย" อีกแล้ว) เพราะเสาและฐานรถไฟฟ้าก็ผุดยาวกลางถนนจรัญสนิทวงศ์ ไปถึงท่าพระ ขณะเดียวกัน ที่หัวลำโพงกำลังเจาะอุโมงค์เชื่อมสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง ผ่านย่าน ธุรกิจเยาวราช วังบูรพาไปโผล่ที่ท่าพระเช่นกัน

อะไรไม่สำคัญเท่าที่ รัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย จะกลายเป็นสถาบันระดับชาติแห่งใหม่ ซึ่งต้องมีการคมนาคมสะดวกและเชิดหน้าชูตาแก่เมืองไทย หาก ไร้ระบบขนส่งมวลชนผ่านแล้ว ย่อมขาดความสมบูรณ์ต่อการเดินทางที่ทันสมัย ไม่อาจโชว์ศักยภาพการคมนาคมที่เป็นเลิศแก่อาคันตุกะจากทั่วโลกได้

คณะกรรมการ รฟม.จึงผลักดันเพื่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนต่อจากบางซื่อ-เตาปูน ไปยังราษฎร์บูรณะ โดยกำหนดเส้นทางรถลอยฟ้าและมุดดินผ่านหน้ารัฐสภาแห่งใหม่ ไปกรมชลประทาน โรงพยาบาลวชิระ หน้าหอสมุด แห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย เฉียดบางลำพูเลี้ยวไปผ่านฟ้า ย่านวังบูรพา (เป็นชุมทางรถใต้ดินที่ตัดไปท่าพระ) แล้วลอดใต้สะพานพุทธ มุดยาวไปใต้อนุสาวรีย์ พระเจ้าตากสินวงเวียนใหญ่ ถึงจอมทอง แล้วจึงโผล่เป็นรถไฟลอยฟ้าไปดาวคะนอง-ประชาอุทิศแล้วปิดปลายทางที่ราษฎร์บูรณะ

เส้นทางสายนี้อาจพูดได้ว่าเป็นการ "ฟื้นฟูเมืองและย่านธุรกิจเก่า" ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากถูกถนนสายเก่าแคบๆ ที่ไม่อาจขยายได้อีก คล้าย "ทางตัน" ให้เป็นเส้นทางใหม่คล่องตัวขึ้นมาทันที

แน่นอนธุรกิจย่านเหล่านี้ได้มี "เฮ" แน่

แต่สิ่งที่แน่นอนกว่า เนื่องจากภูมิประเทศชั้นในมีผังถนนขยายตัวไม่ได้ รถไฟฟ้าสายบางซื่อ-เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ จะกลายเป็น "สายแม่เหล็ก" ที่คึกคักขนส่งมวลชนให้ไปเยี่ยมเยือนและสัมผัสแหล่งท่องเที่ยว "เกาะรัตนโกสินทร์", งานเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาฯมหาราช, งานเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาฯ มหาราชินี, งานกาชาดประจำทุกปีและงานราษฎร์งานหลวงในโอกาสพิเศษบ่อยๆที่มีหลายสถานีจอดคู่ขนานใกล้ที่สุดอีกด้วย

ถ้าเปรียบถนนกรุงเทพฯ วงในเป็นโรค "เส้นเลือดอุดตัน" ถือว่ารถไฟใต้ดินสายนี้ได้ทำ "บายพาส" ให้การเดินทางที่เคยติดขัด ไหลคล่องเหมือนปลิดทิ้ง

หรือจะเรียกว่าเส้นทางรถไฟใต้ดินสายนี้ ได้ชุบชีวิตใหม่ให้ผู้คนที่พึ่งพาพักพิงอิงวังและภาพลักษณ์วัฒนธรรมเก่าๆ ในอดีตได้พลิกฟื้นขึ้นมาอีกคราหนึ่ง...เฮ้อ โล่งอกจริงๆ เมืองหลวงของเรา !


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ