“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” ชี้ ยุคผู้บริโภค “ประหยัดอย่างชาญฉลาด” ความท้าทายใหม่ธุรกิจอสังหาฯ ปี 2024

วันอังคารที่ 02 มกราคม พ.ศ. 2567

“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้”  ชี้ ยุคผู้บริโภค “ประหยัดอย่างชาญฉลาด” ความท้าทายใหม่ธุรกิจอสังหาฯ ปี 2024


นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้โลกจะก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่การสำรวจเทรนด์ผู้บริโภคในปี 2024 กลับพบว่า ท่ามกลางความรวดเร็วนั้น การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคกลับใช้เวลาเพิ่มขึ้นเพื่อวิเคราะห์ว่า “ตัวเลือกใดเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด” ซึ่งความคุ้มค่านั้นต้องสามารถตอบสนองได้ทั้งคุณภาพ ราคา และมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ สิ่งสำคัญต้องใช้ประโยชน์ได้ยาวนานกว่าเก่า ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การตลาดในปี 2024 ที่แบรนด์ระดับแถวหน้าต่างให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก คือ “ผู้บริโภค (Consumer)”, “ฐานข้อมูล (Data)” และ “กระแสความยั่งยืน (Sustainability)” เพราะเป็น 3 กุญแจสำคัญที่จะไขประตูสู่ความสำเร็จได้ด้วยการนำข้อมูลต่างๆ มาพัฒนากลยุทธ์ให้เข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคแต่ละกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น

เราพบว่าในปี 2024 เทรนด์ของผู้บริโภคจะเริ่มเปลี่ยนเข้าสู่ยุคประหยัดอย่างชาญฉลาดโดยเฉพาะกลุ่มตลาดบ้าน real demand”  ส่งผลให้ทาง “ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ค่อนข้างเน้นตลาดในกลุ่ม real demand มาโดยตลอด ดังนั้นการทำความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์ผู้บริโภค จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ ที่ผ่านมาเราเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสนิยมผู้บริโภคมาโดยตลอด ในปีหน้าก็เช่นกัน เราสรุปเทรนด์ของผู้บริโภคในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ 4 ประเด็นหลักๆ ได้แก่ 1.ให้ความสำคัญต่อประสบการณ์ใหม่ 2. ให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจเป็นหลัก 3. ให้ความสำคัญต่อการสร้างชีวิตที่สมดุลกว่าเดิม และ 4. ให้ความสำคัญต่อการแสวงหาและเพิ่มคุณค่าสูงสุดอย่างสมเหตุสมผล”

 สำหรับ เทรนด์แรก การส่งมอบประสบการณ์ใหม่สู่มือผู้บริโภค ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องใส่ใจ จะเห็นได้ทั้งกรณีที่แบรนด์เป็นผู้พัฒนาประสบการณ์นั้นขึ้นเอง หรือเป็นการจับมือร่วมกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์และสิทธิพิเศษใหม่ๆ ก็ยังเป็นแนวทางที่ผู้บริโภคตอบรับ นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือในการจับกระแสโซเชียลเพื่อคอยอัปเดตเทรนด์ที่กำลังมา และหยิบสิ่งเหล่านั้นมานำเสนอเป็นสินค้าและบริการที่อินเทรนด์ก็เป็นอีกโอกาสทางการตลาดที่ไม่ควรมองข้าม ต่อมา เทรนด์ที่ 2 การพัฒนาสุขภาพกายและใจไปพร้อมๆ กัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าการให้ความสำคัญต่อสุขภาพกายและใจเป็นอีกหนึ่งกระแสนิยมที่ชัดเจนขึ้นมากหลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นคำว่า บ้านสุขภาพ จึงต้องเกิดขึ้นได้จริงอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อดูดซับกำลังซื้อในกลุ่มนี้ที่มักคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดต่อทั้งใจและกาย แสวงหาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถสะท้อนการอยู่กับปัจจุบันได้อย่างดี ท่ามกลางธรรมชาติที่สัมผัสได้เต็มที่

ส่วน เทรนด์ที่ 3 การสร้างชีวิตที่สมดุลกว่าเดิม ปัจจุบันคนในสังคมส่วนใหญ่จะทุ่มเทเวลาไปกับงาน ทำให้เกิดการขาดสมดุลในการใช้ชีวิต และเมื่อถึงขีดสุดที่ชีวิตจะรับได้คนส่วนใหญ่จะหยุดนิ่งและหันกลับมามองและหาวิถีสร้างสมดุลชีวิตให้เกิดขึ้น ปฏิเสธไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและขับเคลื่อนด้วยเงินเพียงอย่างเดียว หลายคนเริ่มมองหาความสุขจากสิ่งพื้นฐานและการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นกับตัวเองได้มากขึ้น ดังนั้นการมองหาที่อยู่อาศัยก็ต้องยืดหยุ่นกับทุกโมเมนต์การใช้ชีวิตได้ด้วยเช่นกัน และ เทรนด์สุดท้าย การแสวงหาและเพิ่มคุณค่าสูงสุดอย่างสมเหตุสมผล เทรนด์นี้จะชัดเจนมากในกลุ่มผู้บริโภคเจนใหม่ๆ ที่การตัดสินใจแต่ละครั้งจะอยู่บนความรอบคอบและชาญฉลาดเสมอ สิ่งที่คนกลุ่มนี้มองหาคือ การเพิ่มคุณค่าสูงสุดอย่างสมเหตุสมผลระหว่างคุณภาพและราคา รวมไปถึงการออกแบบฟังก์ชันภายในบ้านที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายนับเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านในกลุ่มคนรุ่นใหม่

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ