วันนี้ (3 พ.ค.) เวลา 15.00 น.ที่ สน.ดุสิต นายณรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.ดุสิต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสมชัย กตัญญุตานันท์ หรือ “ชัย ราชวัตร” เจ้าของคอลัมน์การ์ตูนล้อเลียนการเมือง คอลัมน์ “ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน” พร้อมพรรคพวกที่เกี่ยวข้องในข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยการโฆษณาและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

นายณรวิชญ์ กล่าวว่า จากกรณีที่ “ชัย ราชวัตร” ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างรุนแรงผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก (เฟซบุ๊ก) ของตนเอง โดยมีเนื้อหากล่าวพาดพิงเกี่ยวกับการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นการติชมโดยไม่สุจริต ไม่มีมูลความจริง และเป็นการใส่ร้ายทำให้นายกรัฐมนตรีเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งตนได้นำเอกสารและหลักฐาน อาทิ ภาพการโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กของ “ชัย ราชวัตร” และข่าวจากสื่อออนไลน์ มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ ก่อนดำเนินต่อไป--จบ--

ขณะเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย ส.ส.หญิง พรรคเพื่อไทย นำโดย น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมกันออกแถลงการณ์ประนามนายชัย ราชวัตร หรือนายสมชัย กตัญญุตานันท์ การ์ตูนนิสต์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งโพสต์ข้อความกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ผ่านทางสื่อออนไลน์ และทางเฟสบุ๊คส่วนตัว

น.ส.สุณีย์ กล่าวเสียงสั่นเครือ ว่า เราไม่ได้ตำหนิหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว แต่การโพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ค เรามองว่าแรงเกินไป โดยเฉพาะการนำภาพถ่ายของนายกรัฐมนตรี ที่ถ่ายคู่กับประธานาธิบดีมองโกเลีย มาโพสต์ประกอบกับข้อความด้วยนั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิของสตรี และดูถูกเหยียดหยามทำให้เสียชื่อเสียง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าขยะแขยง สุภาพบุรุษเขาไม่ทำกัน อีกทั้งผู้พูดเป็นถึงนักเขียน การพูดลักษณะนี้เป็นการบิดเบือน ไร้ซึ่งจรรยาบรรณของวิชาชีพ และขาดความรับผิดชอบอย่างร้ายแรง จึงขอเรียกร้องให้นายชัยออกมาขอโทษนายกรัฐมนตรี และขอให้สตรีทั้งหลายช่วยกันแสดงออกและประณามการกระทำเช่นนี้ ซึ่งกลุ่ม ส.ส.หญิง จะเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องต่อสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเพื่อให้ช่วยกันตรวจสอบต่อไป ส่วนจะดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ อยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายกฎหมาย ถ้าสามารถดำเนินการได้ก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

"การกล่าวหานายกรัฐมนตรีว่าเป็นหญิงชั่วเร่ขายชาตินั้น เป็นคำพูดที่บิดเบือนและสร้างความเสียหายกับนายกรัฐมนตรีในฐานะประมุขฝ่ายบริหารอย่างร้ายแรง เป็นการไม่ให้เกียรติกับผู้นำประเทศของตนเอง ทั้งที่การปาฐกถาของ นายกรัฐมนตรีเป็นการพูดเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในประเทศจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 และพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าปัจจุบันยังมีกลุ่มคนที่ต่อต้านประชาธิปไตย ก็ไม่ได้มีส่วนใดที่จะทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหาย แต่ตรงกันข้ามกลับเป็นการแสดงให้นานาชาติได้เห็นแนวทางของประเทศไทยและรัฐบาลว่าต้องการสร้างความเป็นประชาธิปไตยของชาติให้เจริญพัฒนาต่อไป การกล่าวบิดเบือนใส่ร้ายผู้นำประเทศ และนำไปเปรียบเทียบกับคำว่ากระหรี่ของนายสมชัย ถือว่าไม่เหมาะสม ยิ่งผู้พูดเป็นนักเขียน สมควรได้รับการประณามเพราะละเมิดต่อจรรยาบรรณอย่างร้างแรง และยังสะท้อนให้เห็นถึงความคิดว่าดูถูกผู้หญิง ที่เป็นเพศแม่ ถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ"น.ส.สุณีย์ กล่าว

ด้านนางฐิติมา ฉายแสง เลขานุการ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การกระทำของนายสมชัยแสดงให้เห็นว่าหมดหนทางทางสู้ และแพ้ผู้หญิงของพรรคเพื่อไทย ตนมองว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดเป็นเรื่องจริง และจะเป็นแรงผลักดันให้คนในประเทศป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือน 19 ก.ย. 49 จนทำให้ประเทศเสียหายอีก และหากนายสมชัยคิดว่าวิธีนี้จะชนะได้นั้นถือว่าคิดผิด เพราะในความเป็นจริงจะยิ่งทำให้นายกรัฐมนตรีแข็งแกร่งขึ้น และจากเหตุการณ์นี้ขอให้ผู้หญิงรวมพลังกันให้มากขึ้นละประณามพฤติกรรมดังกล่าว

ขณะที่ น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า ทางกลุ่ม ส.ส.หญิงจะแปลแถลงการณ์ประณามเป็นภาษาอังกฤษ เผยแพร่ไปยังองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์กรสิทธิมนุษยชนสากล และสื่อต่างประเทศ รวมทั้งชี้แจงไปยังประเทศมองโกเลีย เพื่อเข้าใจในเจตนาของนายกรัฐมนตรีใน เรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในวันนี้ อยากให้นายสมชัย คิดถึงความรู้สึกของน้องไปป์ หรือ ด.ช. ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชายนายกรัฐมนตรีด้วยว่าจะรู้สึกอย่างไร ที่แม่ถูกนำไปเปรียบทางเช่นนั้น ซึ่งในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่เห็นว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม.