“สหกรณ์” รับลูกมติ ครม. ไฟเขียวสินเชื่อช่วยชาวนา

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

“สหกรณ์” รับลูกมติ ครม. ไฟเขียวสินเชื่อช่วยชาวนา


นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังรับทราบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งมีมติเห็นชอบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/2567 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำหรับช่วยเหลือชาวนาที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ว่า การช่วยเหลือดังกล่าวผ่านโครงการสำคัญ 2 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และ 2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม

โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เป็นโครงการที่ต้องการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผลผลิตข้าวเปลือกออกสู่ตลาดพร้อมกันในฤดูเก็บเกี่ยว จนเป็นต้นเหตุของปัญหาราคาข้าวถูกกดต่ำลงอย่างไม่เป็นธรรม จึงต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางของตนเองไว้รอราคาที่หมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้ราคาในตลาดมีเสถียรภาพ โดยระหว่างการรอขายผลผลิตข้าวเปลือก เกษตรกรสามารถขอรับสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และเมื่อข้าวเปลือกที่เก็บรักษาไว้ในยุ้งฉางมีราคาสูงขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ ก็สามารถไถ่ถอนข้าวเปลือกหลักประกันออกมาจำหน่าย ซึ่งจะได้รับส่วนต่างของราคาข้าวเปลือกในราคาที่สูงขึ้น โดยรัฐบาลจะช่วยค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวในอัตรา 1,500 บาทต่อตัน

 ทั้งนี้ เกษตรกรที่เก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉางของตนเองจะได้รับเต็มจำนวน สถาบันเกษตรกรที่รับซื้อข้าวเข้าโครงการได้รับในอัตรา 1,000 บาท/ตัน และเกษตรกรผู้ขายข้าวได้รับในอัตรา 500 บาท/ตัน โดยมีเป้าหมายจัดเก็บที่ 3,000,000 ตัน เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยกำหนดราคาข้าวหอมมะลิตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,500 บาทข้าวหอมมะลิปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท ข้าวเจ้า ตันละ 9,000 บาท และข้าวเหนียว ตันละ 10,000 บาท

ขณะที่ โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม จะเป็นสินเชื่อเพื่อช่วยให้สถาบันเกษตรกรมีศักยภาพในการรวบรวมข้าวเปลือกจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปแข่งกับราคาตลาดได้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะสนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อรวบรวมข้าวเปลือกสำหรับจำหน่ายหรือแปรรูป โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,000,000 ตัน โดยสหกรณ์จ่ายดอกเบี้ย 1% และรัฐช่วยดอกเบี้ย 3.85% ระยะเวลา 15 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2567 ทั้งนี้ ทั้งสองโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณ 10,600 ล้านบาท และเป็นสินเชื่ออีก 44,437 ล้านบาท

“กรมส่งเสริมสหกรณ์มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนงานในความรับผิดชอบ ดูแลสมาชิกสหกรณ์ให้ได้รับประโยชน์สูงสุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องชาวนา โดยได้ขอความร่วมมือสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการทุกแห่งรับซื้อข้าวหอมมะลิสด (ความชื้นประมาณ 25%) ในราคาเริ่มต้นที่ 12,000 บาท/ตัน” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ