Toggle navigation
วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
สปีชฟ้องโลก! "ประชาธิปไตยไม่สมบูรณ์"
สปีชฟ้องโลก! "ประชาธิปไตยไม่สมบูรณ์"
วันพฤหัสบดีที่ 09 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
Tweet
เป็นไปตามสคริปต์ที่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ปล่อยมุกฟ้องโลก ชี้ให้เห็นถึงวิกฤติประชาธิปไตยในประเทศ ไทยที่เปรียบเสมือน "รถไฟตกราง" เพราะประชาชนยังถูกลิดรอน "สิทธิเสรีภาพ" ขณะที่บทบาทของ "องค์กรอิสระ" ก็ยังมุ่ง "โค่นล้มรัฐบาล" ที่มาจาก การเลือกตั้ง ท่ามกลางผู้นำหลายประเทศ ร่วมเป็น "ประจักษ์พยาน" บนเวทีประชาคมประชาธิปไตยที่เมืองอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย
"ประชาธิปไตยไม่ใช่แนวคิดอุดมการณ์ใหม่ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาประชาธิปไตย ได้นำมาซึ่งความก้าวหน้าและความหวังสำหรับผู้คนจำนวนมาก ขณะเดียวกันผู้คนจำนวนมากได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องรักษาและสร้างความเป็นประชาธิปไตย รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งถึง 2 ครั้ง 2 หน ด้วยเสียงส่วนใหญ่ถูกล้มล้าง"
"สปีชฟ้องโลก" ของ "ยิ่งลักษณ์" ถือเป็นจุดเริ่มต้นในจังหวะรุกคืบเชิงยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่มาได้ถูกที่ถูกเวลา และกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาโดยพลัน เพราะเป็นครั้งแรกที่ "ผู้นำหญิง" แสดงความเห็นถึง "วิกฤติการเมืองไทย" อย่างตรงไปตรงมา และแรงอย่าง ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เป็นการสลับโหมดจาก "รับ" เป็น "รุก" โดยมี "เป้าหมาย" คือพยายามบอกให้โลกรู้ว่า แม้ไทยจะอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยมา 80 กว่าปีแล้ว แต่ก็ยังเป็น แค่ "ประชาธิปไตยไม่สมบูรณ์" เพราะคงมีหมายเหตุ "ปฏิวัติ" และ "รัฐประหาร" ปรากฏอยู่บ่อยครั้งในประเทศไทย
ซึ่งในวิวาทะ "โชว์ก้ามปู" ยังเป็น การแฉ "ความจริงประเทศไทย" ได้อย่างแหลมคม และเสียดแทงเข้ากลางใจฝ่ายปรปักษ์รัฐบาล เพราะมีเจตนาที่จะย้ำหัวตะปูถึงรอยด่างดำบนวิถีประชาธิปไตย แบบไทยๆ ในห้วงความอึมครึมตลอด 4-5 ปีมานี้ ที่ทำลายทั้งหลักนิติธรรม ปล้นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ยิ่งกว่านั้นกลไกที่เรียกว่า "องค์กรอิสระ" ก็ใช้อำนาจเกินขอบเขตแทนประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริง
"ยิ่งลักษณ์" ได้ย้ำหัวตะปูในความคาดหวังเพื่อเป็นอุทาหรณ์ไม่ให้เกิดกับเมืองไทยอีกในอนาคต และยังเป็นความจงใจที่จะประกาศต่อประชาคมโลกว่า จุดยืนของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย คือการทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็งบนหลักนิติธรรมและกระบวนการทางกฎหมายที่เข้มแข็ง มีขั้นตอนที่ชัดเจนและโปร่งใส ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นภายใต้เผด็จการ ที่ใส่กลไกที่ตีกรอบ เพื่อจำกัดความเป็นประชาธิปไตย
เป็นการรุกอีกขั้น..ที่สัมพันธ์กับการ เมืองในประเทศ นั่นเพราะรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ สามารถดึงประชาคมโลกเข้ามาเป็นแนวร่วม และเป็นเกราะ ป้องกันภัยได้อีกชั้นหนึ่ง
เมื่อสิ้นสุดรายการ "แฉ..ความจริงวันนี้" พลันได้ส่งแรงกระเพื่อมจากนอกประเทศ มาโอบล้อมการเมืองไทยอย่างรุนแรง โดยฝ่ายต่อต้าน ต่างก็ออกมาตอบโต้วิวาทะ "ผู้นำหญิง" อย่างแข็งกร้าวว่า...เป็นการทำเพื่อตนเองและคนอีกเพียง 15 ล้านเสียง ไม่ได้เป็นการทำเพื่อประเทศชาติแต่อย่างไร และยังเป็นปาฐกถาที่ถูกวางแนวทางไว้โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วยยุทธศาสตร์ "โลกล้อมไทย" หวังปูทางให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม รวมถึงกฎหมายปรองดองเป็นไปอย่างราบรื่น
จึงไม่น่าแปลกที่จะมีปฏิกิริยากล่าวหา "ยิ่งลักษณ์" ว่าไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพราะเป็นการเอาความจริง ที่เป็นเรื่องภายในประเทศ ไปประจานให้ประชาคมโลกรับรู้ว่ายังมีคนกลุ่มใหญ่ที่ไม่ต้องการ ให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ในรหัสทางความคิดของ "วีรพัฒน์ ปริยวงศ์" นักกฎหมายอิสระมองว่า สุนทรพจน์ของ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" หากไม่บอกว่าพูดที่มองโกเลียก็คงนึกว่าพูดบนเวทีหาเสียง ถือเป็นกลเกมการเมืองที่ไม่ธรรมดาและอันตราย เพราะสอดรับกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แก้ไขรัฐธรรมนูญ การผลักดันนิรโทษกรรม และแถลงการณ์ไม่รับ อำนาจศาลรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย
"หากมีความกดดันจนรัฐบาลยุบสภา ก็สนุกแน่ เพราะพรรคเพื่อไทยมีโปรเด็ด! ถ้าประชาชนอยากได้รถไฟความเร็วสูง รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย และความปรองดอง ก็ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย แต่พรรคประชาธิปัตย์ได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้ปฏิรูป พรรคให้ทัน"
ส่วน "ศาลรัฐธรรมนูญ" ที่เหมือนจะไม่ทันเกมอะไรคงไม่มีทางเลือก เพราะทำตัวเองที่ลดตัวมาเล่นการเมือง การเมือง จึงเล่นงาน นอกจากจะยอมถอยเพื่อคลายสถานการณ์ หรือจะสร้างสถานการณ์ให้คนนำไปอ้างต่อเอง...
ทางด้าน "ผศ.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์" ประธานหลักสูตรรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุในบริบทที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปาฐกถาว่า "กระบวนการ ที่จะนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตยยังสัมพันธ์อยู่กับสิ่งที่เรียกว่า แรงเกื้อหนุนจาก ภายนอกประเทศด้วย เพราะประเทศทั่วโลก จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยได้ ไม่ใช่เพราะพลังจากกระบวนภายในประเทศ แต่ เกิดขึ้นจากพลังภายนอกของประเทศที่เป็น ประชาธิปไตยเกื้อหนุนด้วย ดังนั้น หาก รัฐบาลประเทศใดๆ ก็ตาม ที่ต้องการต่อสู้เพื่อนำประเทศไปสู่การเป็นประชาธิปไตย ถ้าไม่ได้บริบทภายนอกเข้าช่วยเหลือหรือช่วยกดดัน ประเทศนั้นก็จะยังถูกครอบงำจากกลุ่มระบอบอำนาจเดิมอยู่อย่างนั้นโดย ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเห็นได้จากการรัฐประหาร 2549 กลุ่มอำนาจทหารที่ทำการ ยึดอำนาจอยู่ในอำนาจได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นเอง แต่ได้พยายามสร้างอำนาจที่ซ่อนเร้นภายใต้กติกาไว้เพื่อรักษาอำนาจหรือ กำหนดทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจต่อไปได้"
เนื้อหาของคำกล่าวปาฐกถาทั้งหมดนั้น ประเด็นแรกคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจเริ่มมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นว่าผู้นำของประเทศนี้ ภายหลังจากขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปสักระยะหนึ่ง ประเด็นที่ 2 คำกล่าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจเป็นการส่ง สัญญาณกลับมาสู่การเมืองภายในประเทศหรือไม่ ซึ่งในสถานการณ์การเมืองภายในที่ ฝ่ายนิติบัญญัติกำลังเผชิญหน้าอยู่กับฝ่ายตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือการส่งสัญญาณว่าให้ทุกคนเห็นว่าฝ่าย นิติบัญญัติพร้อมเผชิญหน้ากับฝ่ายตุลาการ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ กำลังขยายขอบเขตอำนาจของตนเองเข้ามาแทรกแซงอำนาจนิติบัญญัตินั่นเอง
เช่นที่ว่านี้ การใช้เวทีระหว่างประเทศ ในการพูดถึงประชาธิปไตยภายในประเทศตัวเองให้กับประชาคมโลกได้รับรู้ ซึ่งคิดว่าเป็นการใช้เวทีที่ถูกต้องตามเนื้อหา หรือพูด ในประเด็นที่เหมาะสมตามกาลเทศะ เพราะ คงไม่มีผู้นำประเทศไหนนำเรื่องการเมืองไปพูดในการประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นคนละเรื่องกัน ส่วนการออกมา ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องการเมืองมาตลอดนั้น คิดว่าการออกมาพูดรายวันไม่ได้ช่วยเหลือให้เกิดพลังในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเลย ดังนั้น การพูดในบริบทระหว่างประเทศอาจเป็นการตัดสินใจทางนโยบายที่ชี้ให้เห็นว่าพร้อมจะสู้เพื่อเป้าหมาย บางประการก็ได้
"การส่งสัญญาณเชิงนโยบายในลักษณะนี้อาจมีนัยยะได้ว่า...รัฐบาลพร้อมที่จะยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อยืนยันอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติต่อฝ่ายตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ถ้าเรื่องดังกล่าวนำไป สู่ทางตัน การยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็น่าเป็นทางออกที่ดีที่จะผลักดันให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องเผชิญหน้ากับเสียงของประชาชนทั้งประเทศ หากรัฐบาลได้รับการ เลือกตั้งกลับมาอีกครั้ง จะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติในการยืนยันอำนาจของตนเองต่อศาลรัฐธรรมนูญที่ได้ขยายอำนาจของตัวเองเกินกว่าที่ตัวบทกฎหมายได้บัญญัติไว้" ...!!!
ในอีกด้านหนึ่ง แม้รัฐบาลกำลังถูกเขย่าแรงๆ จากฝ่ายต้าน แต่ยังคงได้ใจ "คนเสื้อแดง" ไปอย่างเปี่ยมล้น! หลังไขรหัสทางการต่อสู้กระดานใหม่ ด้วยการเดินหน้ายุทธศาสตร์ "การเมืองสามขา" ซึ่งเริ่มตั้งแต่ฉากฟ้องโลก รุกคืบทางการเมือง และผนึกแนวรบด้านมวลชน โดยย้ำจุดยืนไม่ยอมรับอำนาจองค์กรอิสระอย่าง "ศาลรัฐธรรมนูญ" ซึ่งพวกเขาถือว่าเป็นผลพวงมาจาก "ผลไม้พิษ" ที่มาจาก "รัฐธรรมนูญเผด็จการ"
เหนืออื่นใดก็ยังเป็นไปตาม "รหัส" ที่ว่าด้วยยุทธศาสตร์กระชับวงล้อม ตามที่คนเพื่อไทย เร่เดินสายตั้งเวที "เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย" ปูพรม 10 จุดกระจายในพื้นที่ยุทธศาสตร์สีแดงทั่วประเทศ โดยระดมแกนนำพรรคและแนวร่วมเสื้อแดงขึ้นปราศรัยชี้แจง 3 เรื่องสำคัญ ที่เป็นก้นหีบของรัฐบาล โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท...ร่างนิรโทษกรรม และการกดปุ่มเดินหน้าแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแบบม้วนเดียวจบ นั่นจึงเท่ากับ ช่วยขันน็อตผนึกแนวร่วมมวลชนให้ควบแน่น เพื่อรอเวลาสุกงอมพร้อมปะทะ "ฝ่ายโค่นล้ม" ในสงครามแดนอำนาจรอบใหม่ ที่มีแนวโน้มจะเคลื่อนไปสู่การเมืองบนท้องถนนอย่างเต็มรูปแบบ
ถ้าดูกันตามฟอร์มแล้ว รัฐบาลเพื่อไทยก็พร้อมตีโต้เอาคืน เกมล้มกระดานด้วยเงื่อนไขเดิมที่สุ่มเสี่ยง และอาจเชื่อมโยงไปถึงเหตุแห่งรัฐประหารของ "ฝ่ายโค่นล้ม"
ทั้งหมดทั้งปวง ล้วนเป็นไปตามบท ใน "สคริปต์" ที่ผู้นำหญิงปล่อยเบรกยาว บนเวทีโลก ยึดโยงเข้ากับบรรยากาศ "สงครามเย็น" อย่างพอเหมาะพอดี... โดยรัฐบาลเองก็ตีธง รับมือสถานการณ์ที่ ผ่าเข้าสู่ "จุดวิกฤติแห่งอำนาจอธิปไตย 3 ขา" ที่ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และตุลาการ กำลังวัดเหลี่ยมคูบนกระดานอำนาจ?!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ