นิโคลัส ฟาร์เกต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งรู้ใจกรุ๊ป กล่าวว่า รู้ใจเราได้เริ่มธุรกิจเมื่อปี 2016 ที่ดำเนินกิจการเป็นเพียงนายหน้าประกันภัยให้บริการด้านประกันภัยรถยนต์ออนไลน์รูปแบบใหม่โดยได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และ มีพาร์ตเนอร์เพียงรายเดียวคือ กรุงไทยพาณิชย์ประกันภัย เพื่อจำหน่ายประกันรถยนต์โดยรู้ใจประกันภัยได้พัฒนานวัตกรรมที่ล้ำสมัย โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ซึ่งตอบโจทย์กับยุคสมัยใหม่ที่คนเริ่มหันมาใช้สื่อออนไลน์ต่างๆเพิ่มมากขึ้น โดยรู้ใจประกันภัยมีแผนประกันภัยออนไลน์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ของแต่ละคนได้มากขึ้น โดยในเมื่อเดือน ก.ค. 2023 ที่ผ่านมา รู้ใจได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท เอฟดับบลิวดีประกันภัย จำกัด มหาชน (FWDGI) เสร็จสมบูรณ์ จนขณะนี้เราได้เป็นบริษัทประภัยเนื่องจากบริษัทได้รับใบอนุญาตจาก คปภ. เพื่อทำธุรกิจการรับประกันวินาศภัยทั่วไปเรียบร้อยแล้ว
"นับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2559 รู้ใจได้แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์การเติบโตมาโดยตลอด เป้าหมายของธุรกิจของเราคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างประสบการณ์มิติใหม่ให้กับลูกค้าในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย และรู้ใจยังได้ขยายขอบเขตธุรกิจไปยังอินโดนีเซีย โดยร่วมมือกับ ซมโปะ อินโดนีเซีย (Sompo Indonesia) บริษัทประกันภัยชั้นนำ ผู้ให้บริการประกันภัยทั้งรถยนต์, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และประกันภัยโรคร้ายแรง”
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า บริษัทเราเป็นผู้นำด้านอินชัวร์เทคธุรกิจ B2C ในประเทศไทย โดยเมื่อในปีงบประมาณ 2566 (เมษายน 2565 – มีนาคม 2566) ทำเบี้ยประกันรายปีได้กว่า 1,300 ล้านบาท พร้อมได้รับการสนับสนุนจากรอบลงทุน Series B มูลค่า 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณ 2566 เบี้ยประกันภัยของรู้ใจเพิ่มขึ้นถึง 20% และมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 15% แม้ว่าจะมีการเรียกร้องสินไหมเพิ่มขึ้น รู้ใจยังคงรักษาความพึงพอใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยการบริการที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก อีกทั้ง ในเดือนมีนาคม รู้ใจประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Series B ด้วยมูลค่า 42 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 1,509 ล้านบาท นำโดย เอชดีไอ อินเตอร์เนชั่นแนล (HDI International) บริษัทประกันภัยระหว่างประเทศในเครือ ทาแลงซ์ กรุ๊ป จากเยอรมนี (German Talanx Group) นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมจากผู้ลงทุนเดิมอย่าง บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (International Finance Corporation: IFC) ที่อยู่ภายใต้เครือธนาคารโลก
“การระดมทุนทำให้เราเติบโต และออกไปประเทศต่าง ๆ ในตลาดอาเซียน รวมถึงแผนการซื้อ หรือขยายกิจการในส่วนอื่น ซึ่งการซื้อกิจการ บมจ. เอฟดับบลิวดีประกันภัย นอกจากได้ใบอนุญาต ยังทำให้ รู้ใจ กลายเป็น Full Stack Insurtech ซึ่งทั้งหมดจะทำตลาดผ่านแบรนด์ รู้ใจ ตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันบริษัทมีแผน Exit ผ่านการ IPO อย่างเร็วในปี 2025 แต่เวลานั้นบริษัทต้องบริหารจัดการเบี้ยกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นอันดับแรก โดยการเข้าไป IPO อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย, สิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา แล้วแต่ความเหมาะสม”
อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการบริษัท เอฟดับบลิวดีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งทำให้รู้ใจก้าวขึ้นเป็นบริษัทประกันภัยดิจิทัลเต็มรูปแบบ พร้อมเป็นผู้ถือใบอนุญาตในการรับประกันวินาศภัยทั่วไป ดังนั้น บริษัทยังได้เตรียมงบประมาณการตลาดในปีนี้จนถึงปีหน้ามูลค่ากว่า 250 ล้านบาท เพื่อยิงโฆษณาทางสื่อต่าง ๆ ซึ่งในปี 2024 จะมีแคมเปญที่ช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์ รู้ใจ เช่นเดิม และมาพร้อมความแปลกใหม่ในอุตสาหกรรมประกันภัย และพร้อมจะขยายช่องทางการจัดจําหน่ายเพิ่มเติมทั่วประเทศ ในปีหน้า รู้ใจมุ่งมั่นขยายเครือข่ายเพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น โดยคาดว่า 40% ของโอกาสทางธุรกิจในอนาคตจะมาจากตัวแทนและนายหน้าประกันภัย และอีก 60% จะยังเป็นการดำเนินการขายโดยตรงให้กับลูกค้า พร้อมกันนี้ รู้ใจ จะวางตัวเป็นผู้ให้บริการประกันภัยในรูปแบบ Non-Life หรือไม่มีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต โดยบริษัทตั้งเป้าว่าภายในปีหน้าเราจะมีส่วนแบ่งในตลาดประกันยานพาหนะติด 1 ใน 10 และภายในอีก 5 ปีนับจากนี้ จะสามารถขึ้นไปติดเป็นอันดับ Top 3 ได้ และเตรียมยกเลิกบางผลิตภัณฑ์ของ บมจ. เอฟดับบลิวดีประกันภัย ที่บริษัทไม่เชี่ยวชาญ เช่น ประกันโทรศัพท์มือถือ
ทั้งนี้ ก้าวแรกในฐานะบริษัทประกันภัย รู้ใจเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เดิมอีกครั้งในชื่อ Roojai Insurance ก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์ของเอฟดับบลิวดีประกันภัยมาพัฒนาเป็นกรมธรรม์ดิจิทัล ด้วยความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เองในอนาคต รู้ใจตั้งเป้าขยายธุรกิจออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด และประกันอุบัติเหตุ - สุขภาพ ซึ่งจะรวมถึงผลิตภัณฑ์ เช่น ประกันภัยสำหรับ SME, ประกันภัยการเดินทาง, ประกันภัยยานพาหนะ และประกันสุขภาพส่วนบุคคล ในอีกสองปีข้างหน้า