Toggle navigation
วันศุกร์ ที่ 20 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
6 ปัจจัย "รัฐบาลล้ม"
6 ปัจจัย "รัฐบาลล้ม"
วันพฤหัสบดีที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Tweet
ปฏิวัติรัฐประหาร ถือเป็นปัจจัยพิเศษ ถ้าทหารเพียงคิดอยากได้อำนาจทางลัดโดยไม่แยแสระบอบประชาธิปไตย หรือเห็นประชาธิปไตยเป็น "เครื่องมือสนองตัณหาอำนาจ" ย่อมเป็นเรื่องไม่ยากถ้าคิดจะทำ...แต่เมื่อยึดอำนาจแล้วจะอยู่ง่าย หรือเป็นตราบาปไปชั่วชีวิตอย่างที่ "บิ๊กบัง" เคยคิดว่าเป็นของสนุก แต่ทุกข์ถนัดมาจนบัดนี้ต่างหาก
ที่ชาติประชาธิปไตยทั่วโลกเขาก่นประณามทั้งต่อหน้าและลับหลัง
ยิ่งมหาชนภายในประเทศ "ไม่เอาด้วย" ก็ยิ่งแล้วใหญ่...ก็ดูคนปฏิวัติ กับคนที่ "ยืมมือทหาร" ยึดอำนาจแล้วตัวเองได้เกาะเกี่ยวอาศัยค่ายทหารเป็นแหล่งสุมหัวตั้งรัฐบาล จนนำมาซึ่งการลุแก่อำนาจทำให้คนไทยต้องตายร่วมร้อยศพ
ลองอ่านใจคนที่เดินเกมอำนาจผิดพลาดจน "ตายทั้งเป็น" เวลานี้เขามีความสุขดีอยู่หรือ?
หรือว่าวันๆ เหมือนตกนรกหมกไหม้อยู่ทุกขณะจิตกันแน่!
แต่วันนี้ผมกลับถูกใจความเห็น 6 ปัจจัยที่ทำให้ "รัฐบาลอยู่ยาก" ของคุณมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตั้งแต่เริ่มอยู่ในตำแหน่งนี้มาผมไม่เคยเห็นเธอโต้แย้งรัฐบาลอย่าง "เข้าตา" เลย หยิบแต่ประเด็นหยุมหยิมตอบโต้จนน่ารำคาญไม่สมแก่สถานภาพของพรรคการเมืองใหญ่
6 ปัจจัยที่ทำให้รัฐบาลอยู่ยากคือ 1.หนี้ครัวเรือนของประชาชนเพิ่มจาก 28% เป็น 39.8% มีหนี้เสียพุ่งมาก แต่รายได้ต่อครัวเรือนลดลง 2.รายได้เกษตรกรหายไป ราคาผลผลิตหน้าสวนตกต่ำ แต่พอไปถึงมือผู้บริโภคกลับราคาสูง 3.รัฐบาลบริหารงานขาดธรรมาภิบาล เพราะผู้ใกล้ชิดรัฐบาลฉวยโอกาส ไปซื้อที่ดินแต่ละที่ทำโครงการใหญ่ได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว 4.เกิดภาวะคนตกงาน มีอาชญากรรมเพิ่ม แต่ความปลอดภัยลดลง 5.ข้าวยากหมากแพง ไข่ไก่ฟองละ 5 บาท และ 6.การยัดเยียดวาระปรองดองแบบซ่อนเงื่อน จะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของรัฐบาล
ใน 6 ปัจจัย มี 2 เรื่องที่ไม่อยากแสดงความเห็น เนื่องจากข้ออ้างการบริหารงานขาดธรรมาภิบาล คนเป็นรัฐบาลสามารถถูกตำหนิได้พอๆ กัน เพราะ ยามประชาธิปัตย์เรืองอำนาจก็ถูกครหาน้อยเสียเมื่อไหร่...ส่วนวาระปรองดอง เป็นเรื่องของความตั้งใจ "ไม่อยากปรองดอง" กันมากกว่า
4 ปัจจัยที่เหลือถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชนล้วนๆ...ข้าวของขึ้นราคา จนสบโอกาสไข่ไก่แพงอีกครั้ง ฝ่ายค้านจะได้ฟาดฝีปาก "เอาคืน" ตอน "ไข่ชั่งกิโล" เสียที
ผู้มีรายได้น้อยวันนี้มีรายได้เพิ่ม 10% แต่กลับจ่ายฟุ่มเฟือยเพิ่มถึง 15% รวมทั้งสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าก็เพิ่มรายจ่ายที่เกินตัวทั้งสิ้น...เป็นข้อมูลที่น่าสนับสนุนและนำเสนอทางแก้อย่างเร่งด่วนกว่าเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น
ดีกว่าไปโจมตีเรื่องรถไฟความเร็วสูง 2.2 ล้านล้าน หรืองบแก้น้ำท่วม 3.5 แสนล้าน ที่ยังเป็นแค่ โครงการ "วุ้น" ซึ่งประมาณการไว้โดยยังไม่ได้ใช้เงิน ไม่ได้กู้เงินมาใช้ซักสลึงเดียว แต่ฝ่ายค้านก็พูด "ดักหน้าดักหลัง" เหมือน "ตีตนไปก่อนไข้" หรือสร้างจินตนาการแห่งความกลัวจนเกินเหตุ เพื่อจะกลบเกลื่อนวิสัยทัศน์ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนกว่าของฝ่ายรัฐบาล
นี่แหละคือ บทสรุปหนึ่งของคุณอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่มองว่า วิธีคิดของประชาธิปัตย์ยัง "ไล่ไม่ทัน" พรรคเพื่อไทยทั้งในเชิงนโยบายและเชิงบริหารจัดการ
แต่วิธีสะท้อนปัญหา 4 ปัจจัยของคุณมัลลิกา ซึ่งมองว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์อาจอยู่ในอำนาจยากยิ่งขึ้น เพราะปัญหาหนี้สินครัวเรือนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกทาง
ผมเคยแสดงความเห็นว่า นโยบาย "รถคันแรก" อาจดีในแง่ทำให้เงินสะพัดควักจ่ายกันว่อนตลอดปีที่แล้ว รถยนต์ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เหมือนสินค้า เลหลังในตลาดนัด แต่พอทุกอย่างสงบนิ่งมาถึงวันนี้ ถึงได้รู้ว่า เงินหายไปเข้ากระเป๋าต่างชาติที่เป็นผู้ผลิตรถ พร้อมๆ กับเงินในกระเป๋าผู้ซื้อซึ่ง "ชักหน้าไม่ถึงหลัง" อยู่แล้ว ก็ยิ่งฝืดเคืองถึงขั้นไม่มีใช้จ่าย เพราะเงินที่ตัดสินใจซื้อรถคันแรก กลับไปอยู่ในเกณฑ์ "ฟุ่มเฟือยเกินตัว"
แล้วประชาชนก็ไม่พ้นวังวนหมกวิถีชีวิตแบบ "ตายผ่อนส่ง" หรือ "ผ่อนส่งจนตายกันไปข้าง"
รัฐบาลอาจทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็ได้ เพราะมองเป็นปัญหาส่วนตัวของแต่ละครอบครัว แต่ถ้ามองเป็นภาพรวม เห็นหนี้ประชาชนเหมือนประเทศเป็นหนี้ทั้งแผ่นดินแล้ว มันอันตรายและท้อแท้เข้าขั้นวิกฤติ
ถามว่า แล้วมันเป็นปัจจัยกระทบให้รัฐบาลอยู่ยากตรงไหน
เมื่อประชาชนเห็นอนาคตตัวเองแล้วจึงตัดสินใจไม่ยากไงว่า ใครมาชวนให้ เห็นดีเห็นงามกับประชาธิปไตยก็เอา วันดีคืนดีเกิดเบื่อ ใครมาชวนให้ไปยุทหารปฏิวัติก็เอา
อยู่ในระบอบไหน มันก็มอมเมาผู้คนเป็นหนี้ชั่วชีวิตอยู่แล้วนี่ จะไปแคร์อะไรกับ 3 วันชื่นชมประชาธิปไตย จู่ๆ 7 วันไพล่ไปหนุนเผด็จการ..ก็เพราะ แผ่นดินทองผืนนี้มีเจ้าของเป็น "คนไทย" ไงครับ!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ