กฟผ.เตือนภาคกลางเสี่ยง "ไฟฟ้าดับ" สรุปเหตุการณ์ 14 จังหวัดภาคใต้สุดวิสัย

วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กฟผ.เตือนภาคกลางเสี่ยง


นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผย "สยามธุรกิจ" ถึงความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคกลางว่า ในพื้นที่ภาคกลางยังไม่เห็นประเด็นไฟฟ้าจะดับพร้อมกันทั่วพื้นที่ เพราะว่ามีสายส่งเชื่อมโยงกับภาคเหนือและภาค ตะวันออก จึงยืนยันได้ว่าระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคกลางจะไม่ประสบปัญหาไฟฟ้าดับพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคกลางยังมีปัญหาการรวมจำหน่าย ความหนาแน่น แม้ว่าจะไม่มี ปัญหาในภาพใหญ่ แต่บางพื้นที่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าดับได้เช่นกัน
"ภาคกลางก็มีความเสี่ยงไฟฟ้าดับเช่นกัน แต่จะเป็นโซน เป็นแอเรียไป ไม่เกิดปัญหาดับพร้อมกันเหมือนภาคใต้แน่นอน"
ขณะที่การประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง มีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน การไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อสรุปข้อเท็จจริงพร้อมเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาจากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ลงไปจนใต้สุดถึงจังหวัดสตูล นราธิวาส และยะลา เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 เวลา 18.20 น. นั้น
จากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาค ใต้ข้างต้น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้ตรวจสอบสาเหตุและสภาพปัญหารวมทั้งผลกระทบของการเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ 14 จังหวัด รวมทั้งนำเสนอมาตรการแก้ไข ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องจากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดมาชี้แจงให้ข้อมูล โดยมีการตั้งประเด็นในการสอบข้อเท็จจริงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุม หรือเป็นข้อบกพร่องอื่นๆ หรือไม่ รวมทั้งเมื่อเกิดเหตุวิกฤติขึ้นผู้ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามคู่มือปฏิบัติที่กำหนดไว้ในทุกขั้นตอนแล้วหรือไม่
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวได้ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยสรุปได้ 3 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นแรก สายส่ง 500 เควี จอมบึง-บางสะพาน 2 วงจร ที่ 2 ถูกปลดเพื่อบำรุงรักษาฉุกเฉิน (Unplanned) ประเด็นที่สอง เกิดฟ้าผ่าบนสายส่ง 500 เควี จอมบึง-บางสะพาน 2 วงจรที่ 1 และประเด็นที่สาม ระบบ HVDC ที่ กฟผ. รับไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียเกิดขัดข้องทำให้ระบบไฟฟ้าของ ภาคใต้ถูกแยกออกจากระบบไฟฟ้าหลักของประเทศ หลังกจากนั้นเกิดไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัดในภาคใต้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในระยะเวลาที่สั้นมากคือประมาณ 5.2 วินาที
หลังเกิดเหตุการณ์ กฟผ. เริ่มทยอย นำสายส่งเชื่อมโยงระหว่างภาคกลางกับภาคใต้ ทั้งระบบ 500 เควี และ 230 เควี เข้าใช้งานตามลำดับ เพื่อใช้ในการเริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้า สามารถเริ่มจ่ายไฟฟ้าให้กับสถานีไฟฟ้าแรงสูงหลังสวน จังหวัดชุมพรเป็นแห่งแรก ตั้งแต่เวลา 19.05 น. และสามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าครบทุกสถานีไฟฟ้าแรงสูงในภาคใต้ของ กฟผ. ในเวลา 20.12 น. จากข้อเท็จจริงดังกล่าว คณะกรรมการฯ จึงมีความเห็นว่า เหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งนี้เป็นเหตุ สุดวิสัย ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของ กฟผ. ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามคู่มือปฏิบัติที่กำหนดไว้ในทุกขั้นตอนแล้ว
"ที่ประชุมได้รับทราบมาตรการป้องกันปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงให้มีการทบทวนภาพรวมการวางแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าและระบบ ส่งไฟฟ้า โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของระบบไฟฟ้าทั้งประเทศ ซึ่งขณะนี้ กฟผ. ได้เริ่มดำเนินการมาตรการระยะสั้นอย่างเร่งด่วนแล้ว"
สำหรับมาตรการป้องกันไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ 14 จังหวัด แบ่งเป็นมาตรการ ป้องกันปัญหาในระยะสั้น ดังนี้ 1.ให้กฟผ. และกฟภ.ร่วมกันทบทวน ศึกษาการตั้งค่าและปรับปรุงการทำงานของอุปกรณ์ปลดโหลด เพื่อดับไฟฟ้าผู้ใช้ไฟฟ้าบางส่วน รวมทั้งหาวิธีการตรวจสอบอุปกรณ์ปลดโหลด เพื่อดับไฟผู้ใช้ไฟฟ้าบางส่วน ซึ่งติดตั้งตามสถานีไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. และกฟภ. อย่างสม่ำเสมอ แล้วนำเสนอแผนดังกล่าวต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อทราบ
2.ให้ กฟผ. ทบทวนและฝึกซ้อมแผนการปฏิบัติการควบคุมระบบไฟฟ้าในสภาวะวิกฤติรวมทั้งฝึกซ้อมร่วมกับ กฟภ. อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง 3.ให้ กฟผ. ทบทวนแผนการกู้ระบบไฟฟ้ากลับคืน หรือแผน Blackout Restoration รวมถึงการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดระยะเวลาการเกิดไฟฟ้าดับ
4.ให้ กฟผ.ทบทวนการทำงานบำรุง รักษาระบบส่งและโรงไฟฟ้าภาคใต้ให้มีความสอดคลัองกัน และไม่กระทบต่อกำลัง การผลิตไฟฟ้าสำรอง บนสมมติฐานที่ไม่พึ่งพาระบบ HVDC จากประเทศมาเลเซีย เป็นหลัก 5.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ การไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง และหน่วยงานกำกับดูแลกำหนดหลักปฏิบัติเพื่อรองรับสถานการณ์กรณีมีความจำเป็นที่จะต้องดับไฟบางส่วน เพื่อรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าและไม่ให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง
ส่วนมาตรการป้องกันปัญหาในระยะ ยาว ประกอบด้วย 1.วางแผนพัฒนากำลัง ผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ให้มีกำลังผลิตไฟฟ้าและกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองเพียงพอ เพื่อให้ระบบไฟฟ้าในภาคใต้สามารถพึ่งพาตนเองได้ 2.เนื่องจากภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทำให้มีอัตราความต้องการไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น จังหวัดภูเก็ต และสงขลา เป็นต้น ดังนั้น จึงควรพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าควบคู่ไปด้วย โดยให้ กฟผ. เร่งดำเนินการจัดทำโครงการพัฒนาระบบ ส่งไฟฟ้า 500 เควี หรือ 230 เควี เพื่อเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาคใต้ จากบริเวณภาคกลางไปยังจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดสงขลา เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความสามารถส่งกำลังไฟฟ้าจากภาคกลาง ไปยังภาคใต้ได้เพิ่มมากขึ้น


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ