“ไมเนอร์ ฟู้ด” ชี้ ท่องเที่ยวฟื้นกระตุ้น 4 เดือนแรก รายได้พุ่งเกินต้านแตะ 7.7 พัน ลบ. เดินหน้าขยายพอร์ตอาหารส่ง 4 แบรนด์ใหม่ ลุยดันยอดรวมปีนี้โตตามเป้า 20%

วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2566

“ไมเนอร์ ฟู้ด” ชี้ ท่องเที่ยวฟื้นกระตุ้น 4 เดือนแรก รายได้พุ่งเกินต้านแตะ 7.7 พัน ลบ. เดินหน้าขยายพอร์ตอาหารส่ง 4 แบรนด์ใหม่ ลุยดันยอดรวมปีนี้โตตามเป้า 20%


นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจไมเนอร์ ฟู้ด ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 นั้นแม้จะเจอปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน อาทิ ดอกเบี้ยขาขึ้น ความชัดเจนทางการเมืองถึงการจัดตั้งรัฐบาล ฯ การชะลอตัวทางด้านเศรษฐกิจทั่วโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย เป็นต้น แต่ก็ยังปัจจัยบวกภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวในทุกภูมิภาคส่งผลให้ผลประกอบการของไมเนอร์ฟู้ดเป็นไปในทิศทางบวก โดยไตรมาสแรกมีรายได้ 7,700 ล้านบาท คาดว่าปลายปีจะมีรายได้ 31,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 17-20% จากปีที่แล้ว อีกทั้ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 6-17 เม.ย. 66 เรามียอดขายอาหารครบทุกแบรนด์มากกว่า 1,000 ล้านบาท นำโดย เดอะพิซซ่า คอมปะนี สเวนเซ่นส์ และบอนชอน ส่วนที่ขายดีมาแรง คือ เบอร์เกอร์คิง แดรี่ควีน ที่ทำยอดขายได้สูงสุดตลอดกาล

อย่างไรก็ตาม ตามแผนกลยุทธ์ 3 ปี เพื่อผลักดันธุรกิจกลับสู่การเติบโตแบบเต็มรูปแบบ หรือ Back to Growth อย่างแข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปีที่ผ่านมาผลการดำเนินในทุกประเทศเราเติบโตถึง 21% เรียกได้ว่าเติบโตกว่าก่อนการระบาดโควิดในปี 2019 ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแข่งขันที่ดุเดือด และตอกย้ำการเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ไมเนอร์ ฟู้ด พร้อมเดินเกมรุกด้วยกลยุทธ์การยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ในเครือที่มีอยู่ให้โดดเด่นต่อเนื่อง ดังนั้น ในปีนี้ไมเนอร์ยังคงมีการลงทุนขยายสาขาต่อเนื่องทุกแบรนด์ทั้งเก่าและใหม่ของบริษัท ทั้งในไทยและต่างประเทศรวมกันมากกว่า 200 สาขา ภายในงบที่วางไว้ราว 1.7-2 พันลบ. พร้อมรีโนเวทสาขาที่มีอายุ 5-6 ปี ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ภายใต้งบการลงทุนราว 150 ลบ.จำนวน 20-30 สาขา และจะทยอยเปิดแบรนด์ใหม่เข้าสู่ตลาดเมืองไทย จากปัจจุบันที่มีแบรนด์มากกว่า 30 แบรนด์ทั่วโลก ขณะที่ในไทยจะเน้นไปที่แบรนด์หลักประมาณ 8-9 แบรนด์ เช่น เดอะพิซซ่าคอมปะนี สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เลอร์ บอนชอน เบอร์เกอร์คิง แดรี่ควีน คอฟฟี่เจอร์นีย์ เดอะคอฟฟี่คลับ เป็นต้น และมีมากกว่า 2,540 สาขาทั่วโลก ซึ่งอยู่ในไทยประมาณ 75% หรือ มากกว่า 1,900 สาขา โดยในปี 66 บริษัทฯ เดินหน้านำเสนอ 4 แบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มใหม่ของเครือไมเนอร์ ฟู้ด ดังนี้

1. ร้านพูเลท์ (Poulet) ลุยขยาย 2 สาขา 2 ทำเล ได้แก่ สาขา 2 ที่ห้างสรรพสินค้า เมกา บางนา ในเดือน มิ.ย.และสาขา 3 ที่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ในเดือนต.ค.คาดใช้งบราว 10 ลบ.ต่อสาขา

2. ร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช (Riverside Grilled Fish) ลุยเปิดสาขาแรกที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6 ในเดือน ก.ค. คาดใช้งบราว 10 ลบ.ต่อสาขา

3. ร้านกาก้า (GAGA) ตั้งเป้าสิ้นปีมี 40 สาขาในไทย จากปัจจุบัน 32 สาขา คาดใช้งบลงทุนราว 1.1-1.5 ลบ.ต่อสาขา รวมถึงมีแผนการขยายสาขาใหม่ในต่างประเทศในแถบเอเซียน 

4. ร้านฟรายส์ (FRY’s) แบรนด์น้องใหม่ในเครือ MINOR FOOD ซึ่งแตกไลน์มาจาก The Pizza Company คาดขยาย 2-3 สาขาในปีนี้ ในงบลงทุนราว 1.1-1.5 ลบ.

ผู้บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งปีหลังที่เหลือนั้น ยังมองว่าไปในทิศทางบวกเพราะภาคการท่องเที่ยวในไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เราก็ยังต้องจับตามองในปัจจัยลบที่กระทบกับกำลังซื้อของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งออกที่ติดลบ การลงทุนในภาคเอกชน และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ส่วน ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ก็ยังเดินหน้าทำตามเป้าหมายของการดำเนินธุรกิจแผนกลยุทธ์ 3 ปี เพื่อผลักดันธุรกิจกลับสู่การเติบโตแบบเต็มรูปแบบ หรือ “Back to Growth” ผ่านการดำเนินธุรกิจของแต่ละแบรนด์ในเครือให้มีความแข็งแกร่งสำหรับก้าวสู่การแข่งขันในระดับโลกต่อไป

 

 

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ