นางเกศมณี เลิศกิจจา นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มสุขภาพและความงามเป็นธุรกิจที่สร้างเงินให้จำนวนมากเนื่องจากความงามที่แข็งแรงจะต้องมาจากภายในและภายนอก ส่งผลให้ในปี63 มูลค่าตลาดสุขภาพและความงามทั่วโลกอยู่ที่ 145 ล้านล้านบาท และคาดว่าในปี 68 จะเพิ่มเป็น 230 ล้านล้านบาท ขณะที่ในไทยมีมูลค่าที่ 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มเครื่องสำอาง 30% อาหารเสริม 25% ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 12% การออกกำลังกาย 10% ยาเสริมอาหาร 10% เป็นต้น
ขณะที่ปี 65 ที่ผ่านมา พบว่า ตลาดความงามทั่วโลกมีมูลค่าอยู่ที่ 648,000 ล้านบาท เติบโต 6% โดยประเทศไทยมีมูลค่า 246,000 ล้านบาท เติบโต 9.22% และคาดว่าในปี66 นี้จะเติบโต 9.46% แบ่งเป็นการผลิตขายในประเทศ 85% นำเข้ามาจำหน่าย 15% ส่วนมูลค่าตลาดที่ผลิตขายในประเทศมีสัดส่วนที่ 72% และส่งออก 28% โดยมีตลาดสกินแคร์ที่ใหญ่ที่สุดในสัดส่วน 44% เส้นผม 16.7% และเครื่องสำอาง 9.3%
อย่างไรก็ตามการเติบโตในตลาดความงามที่ผ่านมาส่วนหนึ่งมาจากการขายในช่องทางอีคอมเมิร์ซในสัดส่วนถึง 28% โดยปีนี้คาดว่ายอดขายจากช่องทางดังกล่าวยังเติบโตได้ถึง 13% ทั้งนี้สินค้าระดับเคาเตอร์แบรนด์ปี65 มีมูลค่า 44,500 ล้านบาท เติบโต 9% และปีนี้คาดว่าเติบโต 13% ที่มูลค่า 50,000 ล้านบาท ด้านราคาระดับกลางปี65 มีมูลค่า 30,000 ล้านบาท เติบโต 8.8% และราคาระดับล่างที่เข้าถึงง่ายปี65 มีมูลค่า 158,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าเติบโต 11.6% ที่มูลค่า 176,000 ล้านบาท ส่วนตลาดเวชสำอางมีมูลค่า 1,700 ล้านบาท คาดว่าเติบโต 13.3%
ด้าน นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า จากกระแสความนิยมทั่วทั้งอุตสาหกรรมความงามกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูได้จากความสำเร็จของการจัดงาน ‘Cosmoprof CBE ASEAN’ ครั้งแรกในปี 2565 ที่ได้ต้อนรับผู้เข้าร่วมงานกว่า 8,216 รายจากภูมิภาคต่าง ๆ รวม 46 ประเทศ พร้อมด้วยผู้ร่วมจัดแสดงสินค้ารวมกว่า 500 บริษัท ทำให้เรามั่นใจจัดงานดังกล่าวขึ้นในปีนี้อีกครั้ง โดยงานแสดงสินค้า ‘Cosmoprof CBE ASEAN’ ในรูปแบบ B2B ครั้งที่สองที่จะจัดขึ้นในปี 2566 นี้ ซึ่งจัดขึ้นโดย BolognaFiere, Informa Markets และ Shanghai Baiwen Exhibition Co Ltd., ในระหว่างวันที่ 14 ถึง 16 กันยายน 2566 พร้อมการออกแบบมาเพื่อรองรับกับความต้องการในตลาดความงาม ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่างานในครั้งนี้จะรวบรวมผู้จัดจำหน่ายและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำที่เป็นตัวแทนในอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนรวมไว้ที่งานเดียว เริ่มตั้งแต่ในกลุ่มสายการผลิตสินค้าความงาม ไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
สำหรับงานปีนี้จะยิ่งใหญ่และโดดเด่นกว่าเดิม บนทำเลแห่งใหม่ในกลางกรุงเทพฯ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ ที่เต็มไปด้วยความศักยภาพและสะดวกสบายในการเดินทางที่เข้าถึงง่าย และพื้นที่จัดแสดงสินค้าที่ขยายขึ้นเป็น 17,000 ตารางเมตร เพื่อตอบโจทย์กับทุกการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างยิ่งใหญ่ โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้จัดแสดงมากกว่า 1,000 แบรนด์ จาก 15 ประเทศรวมถึงกรุ๊ปพาวีเลี่ยนจาก 7 ประเทศที่ชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ความงาม อาทิ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อิตาลี และประเทศอื่น ๆ นับว่างานเติบโตขึ้นกว่าปีก่อนถึง 50% ซึ่งถึงตอนนี้ การตอบรับจากนานาชาติเป็นไปในทิศทางบวกอย่างมาก ดูได้จากพื้นที่จัดแสดงกว่า 42% ที่ถูกจับจองจากแบรนด์และผู้ผลิตต่างประเทศไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและสมาคมการค้า ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนและส่งเสริม รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำให้งานเป็นที่รู้จักมากขึ้นที่งาน ‘Cosmoprof CBE ASEAN 2023’ จะมีผู้ร่วมออกงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพ จากกลุ่มสายการผลิตในตลาดเครื่องสำอางเข้าร่วมมากถึง 60% ของผู้ร่วมออกงานทั้งหมดภายในงาน และอีกประมาณ 40% คือผู้ร่วมออกงานในกลุ่มของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามสำเร็จรูปชั้นนำจากทั่วโลก อาทิ Acr Intermation, Beijiing Nubway S&T, Beijiing Charming Cosmetics, Brother Global, Cosmax Thailand, Ilc International Laboratories, Karmarts Public Company, Kbf Interpack, Life Innova International, Milott Laboratories, Mmk Plus International, M.S. Union Interprice, Pathawin, P&M Promixer, Revomed, Shanghai May Skin Information Technology, Spc Cosmetic, Speciality Innovation, S&J International Enterprises Public, Thai Hoover Industrial เป็นต้น
จีอันปีร์โลร์ คาลโซลารี ประธานกลุ่ม BolognaFiere กล่าวว่า ภาพรวมของงานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลกของเรา ที่รวมอุตสาหกรรมความงามจากทั่วโลกไว้ภายในงาน เต็มไปด้วยความหลากหลายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม คาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้เยี่ยมชมงานได้มากกว่า 12,000 ราย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อคุณภาพจากในภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย อาทิ ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สิงคโปร์ รวมไปถึงอินเดีย ซึ่งนับเป็นอีกความสำเร็จของกิจกรรมส่งเสริมผู้ซื้อหรือ ‘Buyer Program’ อีกหนึ่งกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของงาน Cosmoprof ที่ช่วยยกระดับการเจรจาธุรกิจภายในงาน ให้เกิดการพบปะกันระหว่างผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าและกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพ ขณะเดียวกัน ยังมีแพลตฟอร์มอย่าง ‘Match&Meet’ ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มให้ทั้งสองฝ่ายสามารถนัดหมายเจรจาธุรกิจรวมถึงค้นหาคู่ค้าที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดาย
“Cosmoprof CBE ASEAN เกิดขึ้นจากความต้องการในการเข้าถึงตลาดความงามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา เป้าหมายของเราคือการมุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจที่จำเป็นสำหรับนักธุรกิจในเครือข่ายความงาม Cosmoprof จากทั่วโลก ที่จะเป็นอีกส่วนสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมความงามอาเซียน และการสร้างความร่วมมือผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ จากในอาเซียนอีกด้วย”
ซาง หยิง รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท Shanghai Baiwen กล่าวว่า Cosmoprof CBE ASEAN จะเป็นประตูเข้าสู่ตลาดความงามอาเซียนให้กับเหล่าผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าและผู้เข้าร่วมชมงาน ด้วยการเข้าถึงตลาดสากลอย่างครอบคลุมช่วยเปิดโอกาสสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ สู่ท้องตลาด รวมถึงยังช่วยเปิดมุมมองใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นช่วยให้เครือข่ายของผู้ซื้อและผู้ผลิตเติบโตขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พร้อมยังช่วยพัฒนาและเสริมความแข็งแกร่งโดยรวมกับชุมชนความงามในภูมิภาคอาเซียนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
“Cosmoprof CBE ASEAN ถือเป็นเวทีธุรกิจสำคัญสำหรับ ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมความงามของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการสร้างโอกาสครั้งสำคัญในการขยายธุรกิจของแบรนด์ผลิตภัณฑ์และผู้ผลิตที่มีศักยภาพของจีน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ทั้งนี้ สำหรับการจัดแสดงรูปแบบใหม่ในปี 2566 นี้ คือการเปิดตัวครั้งแรกของ WORLD MASSAGE MEETING โปรเจคความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นแนวหน้าอย่าง European Massage Association (EMA) อีกทั้งปัจจุบันนี้ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้ศาสตร์การนวดแผนไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ และยิ่งไปกว่านั้น กิจกรรมนี้ยังมีผู้ชำนาญการนวดแบบองค์รวม มาเปิดเผยถึงเคล็ดลับต่าง ๆ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือผ่านมุมมองวัฒนธรรมและอารมณ์ โดยแขกคนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น คุณสุเทพ บุญบำรุง สัญลักษณ์ด้านศาสตร์การนวดแผนไทยชื่อดัง, คุณประภากร ภัคทรกันสร ผู้ทำการนวดแผนไทยขั้นสูงด้วยเครื่องมือ (ตอกเส้น), คุณ กรู เคีย ผู้นำเสนอการสาธิตด้วยนวัตกรรมการนวดแผนไทย, คุณ อีวาน คอนเวอร์ซาโน ประธานของ EMA ซึ่งจะมาเผยเทคนิคการนวดศาสตร์ตะวันตกประยุกต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการนวดแผนไ
