ประชานิยมคลายพิษ หวั่นจำนำข้าว.. ลดความเชื่อมั่นนักลงทุน

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ประชานิยมคลายพิษ หวั่นจำนำข้าว.. ลดความเชื่อมั่นนักลงทุน


บทพิสูจน์ประชานิยมชั่วโมงนี้น่าจะถึงเวลาคลายพิษแล้ว โดยเฉพาะกรณีที่ "มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส" ออกมาแสดงความห่วงใย ต่อโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเนื่องจากโครงการดังกล่าวอาจนำไปสู่การปรับลดมุมมองอันดับเครดิตของไทย จากมีเสถียรภาพไปเป็น ลบ ก็อาจจะส่งผลให้ดอกเบี้ยในประเทศสูงขึ้น เอกชนและรัฐบาลก็ต้องกู้เงินด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น เกรงว่าการปรับลดมุมมองในอนาคตเป็นลบ จะประจวบเหมาะกับการที่สหรัฐฯถอนคิวอี ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น และดึงดอกเบี้ยในไทยขึ้นด้วย

"ดร.อัมมาร สยามวาลา" กล่าวไว้ในงานสัมมนาเกี่ยวกับประชานิยมว่า ส่วนตัวแล้วสิ่งที่ค้านประชานิยมมาตลอดคือ "รับผิดชอบเพียงครึ่งเดียว" เพราะว่านโยบายทุกอย่างที่รัฐบาลมีคนได้ เขาจะพูดแต่ว่าใครได้อะไร แต่ไม่มีการพูดถึงข้อเสีย และไม่แน่ใจว่าประชานิยมหมายถึงการต่อสู้เพื่อชน ชั้นล่างที่ส่วนใหญ่ฐานะยากจน แต่คิดว่า ต้องมีแนวนโยบายอะไรที่ชัดเจนกว่านั้น ซึ่งไม่ใช่ความผิดพรรคเพื่อไทยที่ทำให้มั่วไปหมดทุกอย่าง เพราะเขาต้องการได้คะแนนเสียงจากกลุ่มต่างๆ ที่เขาคิดว่าเขามีจุดอ่อน ผมไม่บอกว่าเขาทำสุ่มสี่สุ่มห้าเพราะเขาทำวิจัย แต่มันไม่ใช่แนวนโยบายที่ "coherent" (เชื่อมโยงกัน)

และที่ไม่ชอบประชานิยมอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยคือ ทำให้การเมือง "ถูก" ลง ในความรู้สึกว่า "cheap" เพราะนักการเมืองทุกคนพูดกับประชาชนว่า คุณจะได้อันนี้ คุณจะได้อย่างนั้น ทุกคนจึงคิด ว่า "ฉันจะได้อะไรจากรัฐบาล" ไม่ใช่ว่า "รัฐบาลจะทำอะไรเพื่อสังคมโดยรวม"

ปัญหาของประชานิยมคือ ความรับผิดชอบต่อต้นทุน ผลเสียต่างๆ ของนโยบายไม่อยู่ในสัญญา และไม่อยู่ในส่วนที่รัฐบาลรับผิดชอบ อันนี้ทำให้รัฐบาลถูกลง เพราะว่าการถกเถียงบทบาทรัฐบาล หรือรัฐในการทำนโยบายเพื่อประโยชน์สาธารณะไม่ไปไกลเท่าที่ควร และนโยบาย ประชานิยมมันกลบเกลื่อนเรื่องที่ควรจะไปถึง ทุกคนมองต่างมองว่าข้าจะได้อะไร มันทำให้สังคมไทยเปลี่ยนไปด้วย มองรัฐบาลอย่างหนึ่ง อันนี้เป็นประเด็นที่ไม่เห็นด้วย

ดร.อัมมาร ยกตัวอย่างประชานิยมกรณีนโยบายจำนำข้าวว่า จริงๆ แล้วชาว นาที่ฐานะดีเป็นส่วนน้อยของชาวนาทั้งหมด แต่ไปได้ส่วนแบ่งส่วนใหญ่ของรัฐบาลที่โปรยไปให้ เพราะชาวนารวยผลิตข้าวได้มากกว่า แล้วรัฐบาลรับจำนำตามจำนวนตัน ชาวนารวยก็ต้องได้มากกว่าชาวนาจน ดังนั้นโครงการจำนำข้าวชาวนารวยได้ประโยชน์ แต่ชาวนาจนได้รับอานิสงส์

แต่กระบวนการทั้งหมดสร้างอำนาจ ผูกขาดให้พ่อค้ากลุ่มเดียว หรืออาจรายเดียวด้วยซ้ำไป ทำให้กลไกขายข้าวเปลี่ยน ไป และตลาดส่งออกข้าวเริ่มแย่

"ประเทศไทยถ้าไม่ส่งออกข้าว ชาวนา อยู่ไม่ได้ เพราะตลาดข้าวครึ่งหนึ่งเป็นตลาดส่งออก ตอนนี้ข้าวผลิตขึ้นมาเพื่อให้เน่าในโกดัง รัฐบาลไม่คิดที่จะแก้ตั้งแต่ต้นและไม่เคยแก้ตลอดมา มันเป็นการล็อบบี้ทางการเมืองที่ทรงพลังมากอยู่ในใจกลางของรัฐบาล และจะอยู่ไปอีกนาน" ดร.อัมมารกล่าว

ดร.สมชัย จิตสุชน กล่าวถึง ประเทศ ที่เคยถูกปรับลดเครดิต เวลากู้เงินต่างๆ ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยแพงขึ้น สำหรับประเทศไทย หากถูกปรับลดเครดิตจริง ผลกระทบที่เห็นได้ชัด เช่น การลงทุนโครงการ 2 ล้านล้านบาท ที่มีการกู้เงินเป็นหลัก ดอกเบี้ยจะแพงมากขึ้น จากปัจจุบัน 5% เมื่อรวมเงินต้นและดอกเบี้ยแล้วก็ราว 5 ล้านล้านบาท แต่หากเครดิตเสียไป ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น รวมยอดอาจถึง 7 ล้านล้านบาท ที่เป็นภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น

การปรับลดเครดิต จะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติให้เครดิตเราน้อยลง ความน่าลงทุนในประเทศจะลดลงด้วย ซึ่งนี่เป็น ครั้งแรกที่นโยบายจำนำข้าว ที่เป็นนโยบาย สาธารณะหนึ่งเดียวที่กระทบต่อความน่าเชื่อถือ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ในอดีตการถูกปรับลดเครดิตของประเทศไทยเกิดจากวิกฤติต่างๆ ในประเทศ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะนโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายที่ใหญ่และขาด ทุนมาก และอาจทำให้โครงการอื่นๆ ขาดทุนเพิ่มขึ้นไปด้วย และรัฐบาลต้องรีบสร้างความโปร่งใส และมีนโยบายที่ชัดเจนขึ้นว่า จะจัดการนโยบายจำนำ ข้าวอย่างไรในระยะยาว หากมีคำตอบ ที่ชัดเจนขึ้นมูดีส์คงไม่ปรับลดเครดิต แต่หากเดินหน้านโยบายต่อ และต้องขาดทุนปีละ 2 แสนล้านบาทต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายมูดีส์ต้องปรับลดเครดิต แน่นอน ถึงวันนั้นต้นทุนทางเศรษฐกิจ และต้นทุนต่างๆ จะแพงไปหมด

ประเทศเราอาจไม่ให้น้ำหนักกับ มูดีส์ แต่หากนักลงทุนหรือประเทศอื่นๆ ให้น้ำหนัก เราก็โดนผลกระทบ เช่นกัน เพราะมูดีส์เป็น "บิ๊กเนม" ใน การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีบริษัทประมาณ 2-3 แห่ง ที่ทั่วโลกให้ความเชื่อถือ ได้แก่ มูดีส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส และฟิทช์ เรตติ้งส์ ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหนึ่งลดเครดิตประเทศใดลง อีกเจ้าก็จะลดตาม แต่ ประเทศอื่นๆ จะถูกจัดอันดับในลักษณะ ที่ดีเกินไป แต่สำหรับเรามองตรงกันข้าม


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ