“ลีกุมกี่ ซอส กรุ๊ป” กางแผนธุรกิจปี 66 ลุยปั้นผลิตภัณฑ์ซอสและเครื่องปรุงรสกลุ่มสุขภาพ ขยายเจาะช่องทางค้าปลีก

วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

“ลีกุมกี่ ซอส กรุ๊ป” กางแผนธุรกิจปี 66 ลุยปั้นผลิตภัณฑ์ซอสและเครื่องปรุงรสกลุ่มสุขภาพ ขยายเจาะช่องทางค้าปลีก


นางสาวเชอรอล ชาน ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาคเอเชียใต้ ของ ลีกุมกี่ ซอส กรุ๊ป (Lee Kum Kee Sauce Group) กล่าวว่า ลีกุมกี่ (Lee Kum Kee) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2431 โดยนาย Lee Kum Sheung ผู้ก่อตั้งได้คิดค้นซอสหอยนางรมใน Nanshui เมือง Zhuhai มณฑลกวางตุ้งของจีน ด้วยประวัติอันรุ่งโรจน์ยาวนานถึง 135 ปีและการจัดการคุณภาพที่เข้มงวดจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร ลีกุมกี่ได้กลายเป็นชื่อที่ใช้ในครัวเรือนระดับสากลรวมถึงสัญลักษณ์ของคุณภาพและความไว้วางใจ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่า "ที่ใดมีคน ที่นั่นมีลีกุมกี่" และพันธกิจของ "การส่งเสริมวัฒนธรรมการทำอาหารจีนทั่วโลก" ลีกุมกี่นำเสนอซอสและเครื่องปรุงกว่า 300 รายการในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก กุมกี่ได้ยืนหยัดในการทำธุรกิจมาถึงสามศตวรรษ สำนักงานใหญ่ของลีกุมกี่ตั้งอยู่ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน โดยมีฐานการผลิตอื่นๆ ใน Xinhui, Huangpu และ Jining ประเทศจีน; ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สำหรับ ประเทศไทยบริษัทได้เข้ามาดำเนินธุรกิจเป็นเวลา 20 ปี และมีสินค้าที่จำหน่ายประมาณ 40 รายการ ผ่านตัวแทนจำหน่าย 2 ราย ได้แก่ ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง และ บริษัท แพนฟู้ด จำกัด

ล่าสุด ลีกุมกี่ (LEE KUM KEE) แบรนด์ซอสและเครื่องปรุงรสต้นตํารับเอเชียที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้เข้าร่วมงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 ในปีนี้ ด้วยธีม “ จากเอเชียสู่ทุกครัว” (From Asia to Any Kitchen) LEE KUM KEE Flavour Express (ลีกุมกี่ เฟลเวอร์ เอ็กซ์เพรส)” ได้รับการออกแบบให้คล้ายกับการ นั่งรถไฟ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางของการนำรสชาติของเอเชียไปสู่ครัวทุกแห่งทั่วโลก และมี โซนที่โดดเด่นในตู้รถไฟจัดแสดงซอสและเครื่องปรุงรส Lee Kum Kee หลากหลายชนิด สีแดงที่โดดเด่นของรถไฟสะท้อนถึงเอกลักษณ์องค์กรที่แข็งแกร่งของบริษัทและ มรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ประกบอด้วยโซนทั้งสี่ของบูธลีกุมกี่ ซึ่งแต่ละโซนมีธีมที่แตกต่างกัน ได้แก่ “Timeless Classic” “Asian Culinary Essentials” “Asian Culinary Range” และ “New Culinary Trends” โดยโซนเหล่านี้จะจัด แสดงซอสคลาสสิกและยอดนิยมของลีกุมกี่ เช่น ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และนํ้ามันงา ตลอดจนตัวเลือกเพื่อ สุขภาพและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอื่นๆ เช่น ซีอิ๊วขาวปราศจากกลูเตน ซอสหอยนางรมเจ ซอสหอยนางรมลดเกลือ ซุปไก่โสมสําเร็จรูป และซุปเสฉวนเผ็ดร้อนสําเร็จรูป เป็นต้น

“ด้วยมรดกตกทอดมากว่า 135 ปี ที่หยั่งรากลึกในอาหารเอเชีย ลีกุมกี่มุ่งมั่นที่จะรักษาประเพณีและต้นตํารับของอาหารเอเชีย ในขณะเดียวกันก็สร้างแรงบันดาลใจให้เชฟและ พันธมิตรด้านบริการอาหารได้ค้นพบความเป็นไปได้ในการผสมผสานรสชาติของเอเชียเข้ากับอาหารโลก  ในการเข้าร่วมงาน THAIFEX เราตั้งตารอที่จะแบ่งปันวิสัยทัศน์ระดับโลกที่ก้าวหน้าในศิลปะการทําอาหารและเสริมความ แข็งแกร่งให้กับฐานของเราในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเดินทางสู่เป้าหมายของเราเริ่มต้นที่ งาน THAIFEX และเราจะไปไกลกว่านั้นเพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของเราที่จะมอบประสบการณ์การทําอาหารที่ เหนือกว่าให้กับโลกใบนี้”

ด้าน นางสาวปรมตา จันทกูล ผู้จัดการธุรกิจ ลีกุมกี่ ในประเทศไทย กล่าวต่อถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 นี้ของบริษัทว่า  เราจะเน้นเปิดตัวสินค้าใหม่ ที่ตอบโจทย์ในกลุ่มโฮเรก้า เนื่องจากเป็นกลุ่มที่กำลังกลับมาเติบโต หลังจากสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลาย จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตกันปกติเหมือนเดิม ธุรกิจร้านอาหารมีการเติบโต จากก่อนหน้าที่ยอดจำหน่ายในกลุ่มผู้บริโภคที่ทำอาหารรับประทานเองที่บ้านเติบโตสูงเป็นอย่างมาก แต่ในตอนนี้ยอดขายในกลุ่มดังกล่าวเริ่มปรับตัวลดลง ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่กลับมารับประทานอาหารที่สาขากันมากขึ้น

ขณะเดียวกันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้สินค้ากลุ่มสุขภาพได้รับความนิยมและเติบโตเป็นอย่างมาก โดยแบรนด์ลีกุมกี่ก็มีสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องดังกล่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งสินค้ากลุ่มสุขภาพทำตลาดในเอเชียมาเป็นระยะเวลา 5-6 ปีแล้ว ส่วนในไทยเริ่มทำตลาดมาได้ประมาณ 3 ปี โดยเป็นการจัดจำหน่ายในช่องทางฟู้ดเซอร์วิส และมีผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก จึงมีแผนจะขยายไปในช่องทางค้าปลีกให้มากขึ้น ซึ่งในไตรมาส 3 จะมีการเปิดตัวซอสหอยนางรม ไม่ใส่ผงชูรส จากในปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 ตัว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ