NEX โชว์ฟอร์มโค้งแรก รายได้โต 1,978% โกยกำไร 152 ล้าน

วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

NEX โชว์ฟอร์มโค้งแรก รายได้โต 1,978% โกยกำไร 152 ล้าน


นายคณิสสร์  ศรีวชิระประภา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ประจำไตรมาส 1/2566 บริษัทฯมีรายได้รวม 3,210.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,978% พลิกกำไร 152.09 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 62.75 ล้านบาท และมีรายได้รวม 154.51 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่คือ 3,017.38 ล้านบาทเป็นผลมาจากธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เนื่องจากในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ จำหน่ายรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ 563 คัน ดังนั้นจึงเป็นผลโดยตรงต่อรายได้ในการประกอบธุรกิจของกลุ่มกิจการ

รวมทั้งส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในบริษัทร่วม สำหรับไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2566 มีส่วนแบ่งกำไร จำนวน 139.23 ล้านบาท ขณะที่ปี 2565 มีส่วนแบ่งขาดทุน 22.38 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 161.61 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสที่ 1 ปี 2566 มีการขายสินค้าให้กับลูกค้า ส่งผลให้บริษัทฯรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น ขณะที่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ยังไม่มีการขาย เนื่องจากโรงงานเพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ และอยู่ในช่วงทดสอบไลน์การผลิต

สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ NEX ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนที่จะผลิตรถทั้งหมด 21 รุ่น ทั้งที่เป็นรถกระบะไฟฟ้า รถตู้ไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และอื่นๆ ในระยะยาว NEX ตั้งเป้ายอดขายรถบรรทุก 90% และขอส่วนแบ่งทางการตลาดรถกระบะปีละ 5 หมื่นคัน ขณะที่กลุ่มลูกค้ามีทั้งผู้ประกอบการ กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ และส่วนราชการต่างๆ ทั้งนี้เราได้เห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 4/65 ที่ผ่านมา และคาดว่าในปี 66 จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยภายในเดือน ก.ย.นี้ NEX กำหนดที่จะส่งมอบ EV bus ทั้งหมด 2,140 คัน และจะมีการขาย EV bus ให้กับกลุ่มลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มผู้ประกอบการรถทัวร์ ที่ผ่านมา NEX ได้เดินหน้าขยายช่องทางการจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ผ่านตัวแทนจำหน่าย พร้อมทั้งเตรียมก่อตั้งโรงงานผลิตมอเตอร์รถไฟฟ้าขึ้นในประเทศไทย เพื่อลดการนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศ ซึ่งสอดรับเงื่อนไขการจัดซื้อของภาครัฐ และรองรับนโยบายการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนรถ EV ของโลก

“NEX มองว่าปีนี้ภาพรวมของตลาดรถ EV จะเติบโตแบบก้าวกระโดด และการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านตัวแทนของ NEX  จะทำให้เพิ่มโอกาสในการขาย ทั้งยังทำให้เรามีความพร้อมในการเดินหน้าผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มกำลัง ซึ่งปัจจุบันโรงงานผลิตและประกอบรถไฟฟ้ามีกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 9,000 คันต่อปี ในปี 66 คาดว่าจะสามารถผลิตและส่งมอบรถไฟฟ้าได้ทุกประเภท ทั้งรถบัสไฟฟ้า รถโดยสารไฟฟ้า รถตู้ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รวมไปถึงรถหัวลากไฟฟ้า ดังนั้นเชื่อว่ารายได้ของ NEX ปีนี้จะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าเป้าอย่างแน่นอน” ซีอีโอ NEX กล่าว

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ