“วิริยะประกันภัย” ชี้ ตลาดประกันรถยนต์ครึ่งปีหลังฟื้นตัว ผุด “ประกันรถ 2+ Good Drive” หนุน “ขับรถดี ไม่มีเคลม การันตีคืนเงิน” 30 %

วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

“วิริยะประกันภัย” ชี้  ตลาดประกันรถยนต์ครึ่งปีหลังฟื้นตัว ผุด “ประกันรถ 2+ Good Drive” หนุน “ขับรถดี ไม่มีเคลม การันตีคืนเงิน” 30 %


นายสุรชัย ไตรวิทยางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับภาพรวมตลาดประกันรถยนต์ครึ่งหลังปีนี้คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นพอสมควร อันเนื่องมาจากยอดขายรถยนต์ มอเตอร์ไซต์จากเทรนด์รถไฟฟ้าที่มีกระแสแรงเข้ามาเป็นที่สนใจในประเทศไทยมากขึ้นส่วนในแง่ของวิริยะเองนั้นอัตราการเติบโตประภัยรถยนต์คาดเติบโตไม่น้อยกว่า  4 % ในปีนี้ แต่สำหรับสิ่งที่เราห่วงคือเรื่องของอัตราการเกิดเหตุทุกรูปแบบจะไม่มีการปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นจะมีอัตราทรงๆ ตัวอยู่ เพราะช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาคนไม่ค่อยได้ออกไปใหน ไม่ค่อยได้เดินทางอัตราการเกิดเหตุจึงไม่ค่อยเกิดขึ้น ดังนั้นมองว่าหลังจากสถานการณ์โควิดดีขึ้นแล้วผู้คนเริ่มใช่รถออกเดินทางไปทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น เลยต้องมาดูว่าจะมีอัตราการเกิดเหตุเป็นอย่างไรหลังจากนี้ ตลาดประกันรถยนต์จะดีขึ้นมากน้อยแค่ใหนเมื่อเทียบกับช่วงในอดีตก่อนเกิดเหตุการณ์โควิด

สำหรับวิริยะเองนั้นเรามีเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “ทุกความเสี่ยงภัย เราพร้อมเคียงข้างคุณ” โดยมุ่งเน้นการใช้ข้อมูล (Data Driven) จากฐานลูกค้าที่มีมากกว่า 8 ล้านกรมธรรม์ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของวิริยะประกันภัย นำมาวิเคราะห์ วิจัย เพื่อคิดค้น พัฒนา ปรับปรุง และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และความเสี่ยงภัย ทั้งในส่วนของความคุ้มครอง และอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในส่วนของการรับประกันภัยด้านรถยนต์ ซึ่งถือเป็นพอร์ตหลักของวิริยะประกันภัยนั้น บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของผู้ขับขี่รถยนต์ ซึ่งให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป

ล่าสุด บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ โดยมุ่งกลุ่มเป้าหมายไปที่ผู้เอาประกันภัยที่มีประวัติดี (Good Drive) นั้นคือ ขับรถดี ไม่เกิดอุบัติเหตุ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นการตอบแทนและสร้างแรงจูงใจให้ผู้ขับขี่รถยนต์ ขับรถดีมีวินัย เพื่อลดอุบัติเหตุ และความสูญเสียทางเศรฐกิจต่อสังคมโดยรวม โดยบริษัทฯ ใช้ฐานข้อมูลของลูกค้าที่มีอยู่มาวิเคราะห์วิจัย พบว่ากลุ่มผู้เอาประกันภัยที่เลือกใช้ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประเภท 5 (2+, 3+) ซึ่งแต่ละปีจะมีคนมาทำประกันกลุ่มดังกล่าวอยู่ที่ 3-4 แสนกรมธรรม์ และมีแชร์มากกว่า 30 % ในตลาดประกันรถยนต์ โดยจากการวิจัยข้อมูลพบว่า ผู้เอาประกันภัยในกลุ่มนี้ไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมฝ่ายประมาทหรือเรียกง่าย ๆ ว่าไม่มีเคลม หรือมีเคลมแต่เป็นฝ่ายถูกมีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า ถ้าใช้วิธีการกำหนดเบี้ยในรูปแบบเดิม คือ การกำหนดจากความเสี่ยงของรถแต่ละยี่ห้อแต่ละบริษัท จะไม่เป็นธรรมต่อผู้เอาประกันภัยกลุ่มนี้ เพราะต่อให้ขับรถดีมีวินัย ไม่เคยเคลมประกันเลยตลอดอายุกรมธรรม์ ต่อเมื่อถึงเวลาต่ออายุกรมธรรม์ใหม่ ผู้เอาประกันภัยในกลุ่มนี้ยังคงต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยในอัตราเดียวกับผู้เอาประกันภัยที่มีการเรียกร้องสินไหมฝ่ายประมาทหรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าฝ่ายผิด

“บริษัทฯ เล็งเห็นถึงภาระร่วมของผู้เอาประกันภัยที่มีประวัติไม่เคยเคลมประกันเลยตลอดอายุกรมธรรม์ผนวกกับความต้องการที่จะส่งเสริมให้คนขับรถดีมีวินัยดังที่กล่าวมาข้างต้น จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “2+ Good Drive” ขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระเบี้ยประกันภัย ซึ่งประเมินว่าน่าจะสามารถลดภาระของผู้เอาประกันภัยให้ต่ำกว่าเบี้ยประกันภัย 2+ ทั่วไปโดยเฉลี่ย 12% และรวมไปถึงการเพิ่มเติมความคุ้มครองให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้เอาประกันภัยมากยิ่งขึ้น”

สำหรับรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครองของผลิตภัณฑ์ “2+ Good Drive” นี้เบี้ยประกันเริ่มต้นอยู่ที่ 8, 600 บาท วงเงินประกัน 1-5 แสนบาท ให้ความคุ้มครองหลักเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ 2+ มาตรฐาน แต่จะมีความแตกต่างเป็นเงื่อนไขพิเศษอยู่ตรงที่ ถ้าผู้เอาประกันภัยไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมฝ่ายประมาทระหว่างปี บริษัทฯ จะคืนเงินให้ทันที 30% ของเบี้ยประกันภัยสุทธิที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไป และจะจ่ายคืนภายใน 15 วัน นับจากวันหมดอายุกรมธรรม์ นอกจากนี้กรมธรรม์ฉบับนี้ยังเพิ่มเติมความคุ้มครองภัยก่อการร้ายตามทุนประกันภัย และความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคลภายในรถยนต์จากการโจรกรรมในวงเงิน 10,000 บาทอีกด้วย 

“ผลิตภัณฑ์ประกันใหม่ที่บริษัทฯ ออกมาให้ความคุ้มครองนี้ บริษัทฯ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายในการขายไว้แต่อย่างใด โดยถ้าถามว่าที่จริงตั้งเป้าว่าเราจะไม่มีการเคลมเลย เพื่อเราจะได้จ่ายเงินคืน 30 % แต่เราก็มองว่ามันก็จะต้องมีเหตุให้เกิดขึ้นบ้างจากฝ่ายถูก หรือฝ่ายที่ประมาทน่าอยู่ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ 2+3+ ขี้นไป ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 50 % ไม่เกิน 60 % แต่อย่างไรก็ตาม เรายังคงยืนยั่นมุ่งหวังว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นการทำตลาดเพื่อสังคม (Social Marketing) มุ่งหวังที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เป็นแรงจูงใจให้ผู้คนในสังคมขับขี่รถอย่างมีวินัย แน่นอนเมื่อทุกคนขับรถดีมีวินัย อุบัติเหตุทางท้องถนนก็จะเกิดขึ้นน้อยลงตามไปด้วย และแน่นอนว่าความสูญเสียที่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณราว 5 แสนล้านบาทต่อปี ย่อมลดลงตามไปด้วย” นายสุรชัยกล่าวในที่สุด



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ