ผู้ชายหัวใจแกร่งในธรรม (2) "ดนัย จันทร์เจ้าฉาย"ประธานฯ บริษัทดีซี คอนซัลแทนส์ฯ

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ผู้ชายหัวใจแกร่งในธรรม (2)


ฉบับที่แล้ว "พระ ณ สยาม" ได้นำผู้อ่านไปทำความรู้จักกับผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่ชื่อ ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด ผู้ที่ได้ชื่อว่าเติบโตทั้งในทางโลกและทางธรรมชนิดหาตัวจับยาก โดยเฉพาะในสังคมปัจจุบันที่มักมีเสียงสะท้อนว่าหาคนดีๆ ทำยายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก
ส่วนเรื่องราวของเขาคนนี้จะดีจริงหรือไม่เราอยากให้คุณผู้อ่านทุกคนได้ลองติดตามสัมผัสเรื่องราว โดยเฉพาะเนื้อหาใน บางเสี้ยวบางเรื่องรับประกันได้ว่ามีแก่นสาระ และหากจะมีใครนำไปต่อยอดใช้ในชีวิตประจำวัน บอกได้เลยว่าชีวิตของคน คนนั้นจะพบแต่ความสุขความเจริญ ทั้งในหน้าที่และการงานอย่างแท้จริง
การสนทนาของเราในวันนั้นเริ่มต้นตรงจุดเปลี่ยนในชีวิตของคุณดนัยจากเดิม ที่เขาบอกกับเราว่าเคยขายสินค้าแบรนด์เนม กอบโกยเงินทองเป็นกอบเป็นกำแต่แล้วจู่ๆ วันหนึ่งชีวิตเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงด้วย การเดินหน้าเข้าหาธรรมะยึดมั่นในคำสอน ของพระพุทธองค์ "จู่ๆ มันเกิดจิตสำนึกขึ้น มาโดยที่ตอนนั้นถือว่าประสบความสำเร็จ สูงมากเพราะการขายสินค้าพวกแบรนด์ เนมนำเข้าไม่ต้องออกแรง เรียกว่ากิเลสกับกิเลสมาร์เก็ตติ้งมันไปได้เร็ว ฤทธิ์มันเยอะมาก โอ้โหรายได้มหาศาลไม่ต้องทำอะไร แม้กระทั่งเป็นตัวแทนขายสินค้าแบรนด์เนมในประเทศไทยคนก็อยากได้ กันหมด แต่มีความรู้สึกว่าจิตมันบอกตัวเราเองไม่มีใครมาว่าเลย มันบอกตัวเองว่าเรากำลังทำให้คนไทยฟุ่มเฟือย เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำแม้ว่าเราจะร่ำรวย มันก็หยุดเลยหยุดแบบกะทันหัน แล้วก็หันมาดูว่าเราจะทำอะไรดี มันก็กลับมาค้น พบว่าเราพิมพ์หนังสือธรรมะออกมามันเป็นประโยชน์ต่อคนรู้สึกว่ามันมีคุณค่ามาก ถึงแม้ว่ากว่าหนังสือจะออกมาได้แต่ละเล่ม ต้องอ่านแล้วอ่านอีกมันเสียเวลา เล่มหนึ่ง มันก็เล่มละร้อยสองร้อยบาท แต่มันมีความ รู้สึกว่าเราได้ความสุขมากกว่า"
แค่การเกริ่นนำเชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกไม่ต่างจากเราว่าแนวความคิดเช่นนี้จะมีใครสักกี่คนที่คิดได้เช่นเดียวกับเขา เพราะคนส่วนใหญ่มักจะยึดมั่นนับถือว่าเงินทองเป็นพระเจ้า ดังนั้นจึงคิดแต่จะกอบ โกยกันเยอะๆ โดยที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรม บางคนร่ำรวยมากมายแต่ ก็ไม่รู้จักพอจนทำให้ชีวิตของตนเองและครอบครัวพลอยต้องเดือดร้อน แต่สำหรับ คุณดนัยแล้วไม่ก็คือไม่ เขายังได้ย้อนอดีต ให้เราได้ฟังต่อว่าแนวคิดที่เกิดขึ้นน่าจะเป็น ผลพวงสมัยที่เรียนอยู่ปี 2 ที่เอแบค แล้วได้มีโอกาสไปกราบท่านพุทธทาสที่สวนโมกข์ ซึ่งถือเป็นครูบาอาจารย์องค์แรกของตน ผมได้กราบเรียนถามท่านว่าธรรมะคืออะไร ท่านก็บอกว่าธรรมะคือ การทำงาน ธรรมะคือการทำหน้าที่ ธรรมะ คือธรรมชาติ จงทำงานด้วยจิตว่าง ตอน นั้นไม่เข้าใจเลย จนกระทั่งเกือบ 20 ปีถึงจะเข้าใจ โดยสภาวะเข้าใจโดยการปฏิบัติและเข้าถึงสิ่งที่ท่านได้สอนว่าคือ อะไร ถือเป็นครั้งแรกที่ได้เริ่มฟังแล้วก็เริ่มปฏิบัติ แต่ไม่ได้เต็มที่เท่าไหร่ใน 10 ปีแรก แต่ 10 ปีหลังเริ่มจริงจังมากขึ้น ผมปฏิบัติธรรมทุกวัน ก่อนนอนจะต้องสวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ วันหนึ่ง ประมาณ 1-3 ชั่วโมงทุกวัน โดยเฉพาะ ตอนเช้าก่อนเริ่มทำงาน รวมถึงทุกคนใน องค์กรจะต้องสมาทานศีลห้า สวดมนต์ในตอนเย็นเป็นประจำ
ถึงบรรทัดนี้เชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามที่ตามมามากมายโดยเฉพาะตรงประเด็นเรื่องของการสมาทานศีล มีด้วยหรือที่จะมีบริษัททำกิจกรรมในลักษณะเช่นนี้ เรื่องนี้ "คุณดนัย" ได้กรุณาเล่าต่อ ให้เราฟังอย่างภาคภูมิใจว่า ที่บริษัทมีห้อง ประชุม ซึ่งจะใช้เป็นที่สำหรับการสมาทาน ศีลทุกวัน ตอนเย็นยังมีการสวดมนต์ทำวัตร เย็น ยืนตรงเคารพธงชาติก่อนเลิกงาน
อันนี้ก็ทำทุกวันเป็นหลักปฏิบัติเลยเพราะว่าถ้าเกิดธรรมะแล้วไม่ได้น้อมนำ เข้ามาสู่ชีวิตก็ไม่มีประโยชน์ แล้วถ้ายังแยกส่วนธรรมะก็ไม่มีประโยชน์ จริงๆ แล้วชีวิตจะแยกออกจากธรรมะไม่ได้นะ เป็นหน้าที่ที่เราจะต้องนำธรรมะเข้ามาสู่ทุกจังหวะชีวิต เพราะฉะนั้นการทำงาน เราก็ต้องทำด้วย แล้วถ้าผมมีเวลา อย่าง ทุกปีในช่วงปีใหม่ก็จะไปปฏิบัติธรรมข้ามปีประมาณ 12-15 วัน อย่างปีที่ผ่าน มาก็ 15 วัน ช่วงที่เขาจะไปเคาต์ดาวน์กันเราก็ไปนั่งสมาธิแบบเข้มหรือแบบอุกฤติ และถ้ามีเวลาก็จะไปตลอด
ได้ยินได้ฟังถึงการปฏิบัติต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าชมเชยยิ่งนัก ดังที่ได้เกริ่นมาตั้งแต่ต้นแล้วว่ามีไม่บ่อยนักที่จะได้พบได้ เห็นคนไทยแถมเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง ประการสำคัญยังมีบางสิ่งบางอย่างที่เชื่อ ว่าหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินได้ฟังที่ไหนมาก่อนในเรื่องของปูมหลังเมื่อครั้งเรียนอยู่ชั้นมัธยมฯ มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา เราไปตามกันต่อ
"ผมอาจจะเป็นคนที่มีพื้นฐานมาแต่ เดิมก็ได้เพราะตั้งแต่สมัยที่เรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมฯที่โรงเรียนหอวัง จำได้ว่าจะนั่งสมาธิก่อนนอนตลอด นั่งแบบที่ไม่รู้อะไร เลย แถมขณะที่นั่งก็เจ็บปวดทรมาน ขานี่ เป็นเหน็บชา แต่ก็นั่งเป็นชั่วโมง ไม่รู้สิผมว่ามันอาจจะเป็นของเก่าหรือเปล่าไม่แน่ ใจ ก็คือเราอาจจะเคยทำมาแล้ว"
เรื่องราวของ คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ยังไม่จบนี่เป็นแค่การเริ่มต้นของเรื่อง ทั้งหมด ที่เราเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ตอนหน้าต้องมาติดตามกันต่อ รับประกันว่ามีสาระอย่างแน่นอน


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ