มูลเหตุการเสียชีวิตของอดีตเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์! "เอกยุทธ อัญชันบุตร" ได้กลายเป็น "ปริศนา" ในทางความคิดของคนที่มองไปคนละ มุม ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง และแรงจูงใจที่แท้จริง

นานวันเข้า กระแสข่าวเรื่องนี้ยิ่งดังกระหึ่มในโซเชียลมีเดีย โลกที่ข่าวสารไปเร็ว ยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง!

โดยคนส่วนใหญ่ต่างมีความเห็นแย้งไปคนละทางกับ "สำนวน" ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปคดีไป ทั้งยังมีความคาใจอยู่มาก ว่า..นี่คือ "ฆ่าชิงทรัพย์" หรือเป็นการ "ฆาตกรรมอำพราง" โดยมี "คนการเมือง" อยู่เบื้องหลังกันแน่?!

แม้ว่า "สันติภาพ เพ็งด้วง" ผู้ต้องหาที่เป็นคนขับรถของ "เอกยุทธ" ได้ยอมรับสารภาพแล้วว่า สังหารเจ้านายตัวเองเพื่อชิงทรัพย์ และล้างแค้นที่ไล่แฟนสาวออกจากงาน โดยวางแผนมานานกว่า 3 เดือน หลังฆ่าเสร็จก็นำศพไปฝังเพื่ออำพรางคดีที่เขาจิงโจ้ จังหวัดพัทลุง

ซึ่งตามรูปการณ์บวกแรงจูงใจ น่าจะปิดคดีกันได้ไม่ซับซ้อน...

ทว่าปมร้อนนี้ ไม่จบแค่การฆ่าชิงทรัพย์ เพราะมีการเชื่อมโยงคดี "อุ้มฆ่า..เอกยุทธ" ไปปลุกเร้ากระแสในทางการเมือง ตามที่ "สุวัตร อภัยภักดิ์" ทนายความตัวกลั่นของม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในฐานะทนายความส่วนตัวของ "เอกยุทธ" ออกมาตั้งธงไว้ว่า "..มีคนบงการฆ่าเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์! โดยเป็นทีมใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง และเป็นคนใหญ่คนโต ที่อยากให้เขาตาย"

แถมยังมีข่าวโยงไปถึง "เสธ.คนดัง" ที่เป็น "เพื่อนร่วมรุ่น" ของผู้มากบารมีในรัฐบาลชุดนี้

ปูมหลังของนักธุรกิจจอมแฉรายนี้ ถือว่ามีประวัติอันเอกอุ! นับตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมา "เอกยุทธ" ในวัย 25 ปี เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน" จากคดีแชร์ชาร์เตอร์ ถัดจากนั้นในปี 2528 ได้เข้าร่วมกับกลุ่มยังเติร์กของ "พ.อ.มนูญ รูปขจร" (ยศขณะนั้น) ก่อการกบฏ 9 กันยายน หวังล้มล้างรัฐบาล "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" แต่ก็ประสบความล้มเหลว! จนต้องหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศยาว นานกว่า 20 ปี จนคดีหมดอายุความ

การขีดวงเพื่อเชื่อมโยง "เหตุฆาตกรรมอำพราง" ไปสู่ประเด็นทางการเมืองนั้น อาจเป็นเพราะ "เอกยุทธ" ถือเป็นบุคคลที่มีจุดยืน "ล้มระบอบทักษิณ" มาโดยตลอด อีกทั้งเป้าระบายแค้นก็พุ่งตรงมาที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเขานี่เองเป็นผู้ทำให้ "ว.5 โฟร์ซีซั่น" กลายเป็นวรรคทองที่ลือลั่น สนั่นเมือง

"เอกยุทธ" ได้ชื่อว่ามีเส้นสายในฝั่ง "อำมาตย์แท้" มาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งเป็นปีแรกที่เขากลับเมืองไทย พร้อมประกาศ ศึก "ล้มทักษิณ" จนตกเป็นข่าวครึกโครมเมื่อ 9 ปีที่แล้ว "เอกยุทธ" เคลื่อนไหวในเชิงลึก เตรียมจัดตั้ง "พรรคการเมืองทางเลือก" โดยตัวเขาออกเดินสายพบปะผู้คนในยุทธจักรไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง ซึ่งในครั้ง แรกได้ร่วมวงกับกลุ่มเอ็นจีโอ นักวิชาการ สมาชิกวุฒิสภา กลุ่มนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย ที่ร้านอาหารศรแดงเมธาลัย อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย เพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองทางเลือก

จากนั้น "เอกยุทธ" ได้ร่วมกับกลุ่มที่ปรึกษาของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เอ็นจีโอ และนักวิชาการที่ร้านอาหารไดนาสตี้ ไฮแอทเซ็นทรัล จนได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า เตรียมจัดตั้งพรรคประชาธรรม ซึ่งขณะนั้น "เสธ.หนั่น" ยังไม่ได้ก่อตั้งพรรคมหาชน และอยู่ระหว่างการศึกษาหาทางตั้งพรรคใหม่

ต่อมาเขาได้นัดปรึกษากับคณะของ "เสธ.หนั่น" และ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ที่ภัตตาคารโฟร์ซีซั่นส์ และไปต่อที่ร้านกำทอง กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ข้อสรุปว่า จะจัดตั้งพรรคมหาชน แต่ไม่นานหลังจากนั้น "เอกยุทธ" ร่วมกับเอ็นจีโอและนักวิชาการอิสระ ไปทาบทามบุคคลสำคัญ 2 คนให้ลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อวัตถุประสงค์ในการเปิดตัวพรรคการเมือง ทางเลือก

หลังจาก "เอกยุทธ" ได้ปฏิเสธพรรคมหาชน ก็ไปปรึกษาหารือกับแกนนำยังเติร์ก รุ่น 7 นักวิชาการ และสมาชิกวุฒิสภาบางส่วน อย่างต่อเนื่องหลายครั้ง เพื่อเดินหน้า จัดตั้งพรรคประชาธรรม ซึ่งภายหลังก็ต้องพับแผนการทิ้ง เพราะ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ไม่เอาด้วย

จนที่สุด "เอกยุทธ" ก็ไปร่วมกับคณะของ "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" และ "อมรินทร์ คอมันตร์" เข้าพบคณะผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือและเสนอแนะเปลี่ยนเป็นนโยบายชาตินิยมทางเศรษฐกิจ

แต่หลังจากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปฏิเสธข่าว "เอกยุทธ" จะทุ่มเงินพันล้านช่วยสนับสนุนพรรค "อดีตเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์" ก็หันไปเดินเกมการเมืองนอกสภาร่วมกับ "ปีศาจคาบไปป์" น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ, ประชัย และอมรินทร์

โดยเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2547 กลุ่ม ของเอกยุทธได้ปลุกระดมมวลชนออกมาเคลื่อนไหวที่ท้องสนามหลวง ภายใต้ชื่อ "คณะประชาชนเพื่อชาติ และราชบัลลังก์" แต่ยุทธการในครั้งนั้น ไม่สามารถล้มทักษิณลงได้ จึงต้องม้วนเสื่อกลับบ้านในที่สุด

จากอดีตจนถึงวันที่ถูกอุ้มฆ่า! "เอกยุทธ" ไม่เคยหยุดความคิด "โค่นล้มทักษิณ" และยิ่งเขาเติบโตทางธุรกิจมาด้วย "คอนเน็กชั่นทหาร" จึงเชื่อในอำนาจพิเศษเหมือน ที่เขาเขียนคอลัมน์บทสุดท้ายในเว็บไซต์ "ไทยอินไซเดอร์" ด้วยหัวเรื่องที่ว่า "ฝ่ายอำมาตย์แท้ไม่ยอมแพ้ทักษิณ"

ฉะนั้นการตายของ "เอกยุทธ" จึงไม่อาจตัดประเด็นขัดแย้งในทางการเมืองลงไปได้?!!

ขณะเดียวกัน "เอกยุทธ" ก็มีประวัติ "ขัดแย้งรุนแรง" กับผู้มีอิทธิพลมากมาย มีโจทก์ตามล้างตามเช็ดไปทั่วบ้านทั่วเมือง จึงน่าแปลกใจที่ว่า..คนที่ระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลาอย่าง "เอกยุทธ" ต้องมาเป็น "ปลาตายน้ำตื้น" เพราะโดนคนขับรถลวงไปฆ่า

เมื่อถอดรหัส "สำนวนคดี" ของทีมสอบสวน ที่สรุปว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดา ก็มีเสียงสะท้อนในรายละเอียดที่ว่า จะเป็นฝีมือโจรวัยกระเตาะได้อย่างไร เพราะ มันมีการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และละเอียดถึงขั้นถอดฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดที่บ้านพัก

จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า..ปมฆาตกรรม อำพรางนี้ อาจมีเงื่อนงำซ่อนอยู่เบื้องหลัง!

ยิ่งไปกว่านั้น กุญแจสำคัญในคดีนี้อย่าง "สันติภาพ" ก็เหมือนกับให้การ "ไม่อยู่กับร่องกับรอย" ซึ่งที่สุดแล้ว "ผลการสืบสวน" จะสรุปออกมาในรูปใด และจะทำ ให้สังคมหายเคลือบแคลงได้อย่างแท้จริงหรือไม่...

ซึ่งนั่นก็เป็นไปตามธงที่ "สื่อข้างเหลือง" ออกมากลุ้มรุม เพื่อเชื่อมโยงให้ถึง "คนในรัฐบาล" !!!

มีการอ้างถึง "แหล่งข่าววงใน" ที่ระบุว่า "เอกยุทธ" ได้เชื่อมโยงข้อมูลกับพรรคประชาธิปัตย์ไว้ระดับหนึ่ง เพื่อเตรียม ให้ฝ่ายค้านเปิด "ข้อมูลลับ" ที่ได้มีการเจรจากันโดยลุล่วงที่เกาะมัลดีฟส์ โดยแสดงถึง "ความสัมพันธ์พิเศษ" ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนในทางธุรกิจ..จากนโยบายการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคของรัฐ!!

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวรายเดิมได้แฉข้อมูลว่า "เอกยุทธ" ถึงกับลงทุนจ้างปาปารัซซีตามเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้แล้ว ซึ่งบางส่วนได้เขียนไว้ใน เฟซบุ๊ก @Akeyuth Anchanbutr และลงข้อมูลในเว็บไซต์ "ไทยอินไซเดอร์" โดยระบุว่ามีหลักฐานมัดตัวแน่น ทั้งวีไอพีในรัฐบาลและนักธุรกิจบิ๊กเนม รายหนึ่ง ที่ได้รับ ข่าววงใน" จนสามารถกะเก็ง "จุดสำคัญ" ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผ่านเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลอย่างรถไฟฟ้าความเร็วสูง "เฟสแรก" พร้อมทั้งได้กว้านซื้อที่ดินบางส่วนเอาไว้ล่วงหน้า

ถ้าหากว่านี่เป็น "ข้อมูลจริง" ที่ไม่ผ่านการปั้นเติมเสริมแต่งขึ้นมา นั่นย่อมส่งผลอันเลวร้ายต่อรัฐบาลเป็นอย่างยิ่ง

แต่สิ่งที่ปรากฏกลับเป็นเพียง "ลายแทง" ที่ยังไม่อาจทราบว่าหลักฐานเด็ด นี้ "มันมีอยู่จริงหรือไม่.." เพราะ "แหล่งข่าว" ระดับที่บอกว่ารู้ลึกรู้จริงนั้น ตอบอย่างไม่เต็มเสียงว่า "..ไม่รู้เอกยุทธเก็บหลักฐานไว้ที่ใดบ้าง หรือฝากกับใครไว้"

เช่นที่ว่านี้ จึงน่าสนใจอยู่ที่ "จุดประสงค์" ของคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามหา "เป้ากระสุนตก" โดยเชื่อมโยง "มูลเหตุการฆ่าเอกยุทธ.." ไปสู่ประเด็นทางการเมือง แบบมี "นัยยะ" เพื่อสร้างหลักฐาน "มัดปู" หรือไม่...

คดีปริศนานี้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร...ย่อมส่งผลสั่นสะเทือนไปถึง "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" อย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ได้?!!