“เนสท์เล่” ประกาศครบรอบ 130 ปี ชู 2 กลยุทธ์หลัก “ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค และเพื่อโลกของเรา” ดำเนินธุรกิจเนสท์เล่ปี 2023

วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566

“เนสท์เล่” ประกาศครบรอบ 130 ปี ชู 2 กลยุทธ์หลัก “ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค และเพื่อโลกของเรา” ดำเนินธุรกิจเนสท์เล่ปี 2023


นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า เนสท์เล่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลา 130 ปี โดยได้สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับสังคมไทยตามหลักการ ESG ทุกมิติ ซึ่งได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยมุ่งเน้นการปกป้อง และฟื้นฟูดูแลสิ่งแวดล้อมภายใต้แผนงานด้านความยั่งยืน Net Zero 2050  เนสท์เล่สร้างคุณค่าให้กับสังคม ด้วยการนําเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและมีรสชาติที่อร่อย ปัจจุบัน เนสท์เล่มีผลิตภัณฑ์ 100 รายการที่ได้รับการรับรอง สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice Logo) ผลิตภัณฑ์โภชนาการสำหรับเด็กของเนสท์เล่ทั้งหมด 100% ยังมีการเสริมแร่ธาตุและวิตามิน เพื่อช่วยป้องกันการขาดสารอาหารในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็ก รวมทั้งยังได้ดำเนินโครงการให้ความรู้ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแก่ประชาชนคนไทยมาหลายทศวรรษ

อย่างไรก็ตาม เนสท์เล่มีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจไทยผ่านการสร้างงาน  โดยเนสท์เล่ประเทศไทยมีพนักงานราว 4,000 คน และทำให้เกิดการจ้างงานทางอ้อมอื่น ๆ อีกกว่า 10,000 ตำแหน่งจากพันธมิตรทางธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยกว่า 13,600 ล้านบาทในการเปิดโรงงานใหม่ 2 แห่งในไทยในช่วงปี 2018 -2022 อีกทั้ง ยังมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทยหลายชนิดไปนานาประเทศ  นอกจากนี้ ยังยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจมากว่า 130 ปีในประเทศไทย โดยมีแนวทางในการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับมาตรฐานสูงสุดตลอดห่วงโซ่คุณค่า

ผู้บริหาร กล่าวถึงแผนขับเคลื่อนทิศทางการดำเนินธุรกิจเนสท์เล่ปี 2023 ว่า เมื่อเราก้าวสู่โลกยุคหลังโควิด-19 ผู้บริโภคนอกจากจะมีการบริโภคนอกบ้านมากขึ้น และเกิดการบริโภคจากความอยากซื้อทันทีโดยไม่ได้วางแผนมาก่อนแล้ว ส่งผลให้เราพบเทรนด์ผู้บริโภคระยะกลางถึงระยะยาวจากการวิจัยล่าสุด ซึ่งพบว่า คนไทยหันมาใส่ใจกับการรับประทานอาหารอย่างสมดุล หรือ Balanced Diet และการมีไลฟ์สไตล์ที่รักษ์โลกมากขึ้นปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยการเติมเต็มชีวิตในด้านสังคมและจิตใจ ซึ่งหมายถึง การรับประทานอาหารอย่างสมดุล และทำให้สุขภาพดีขึ้น ซึ่งผู้บริโภคปรับสมดุลการบริโภคโดยเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น แต่ยังคงรับประทานของหวานหรือขนมที่สร้างความสุขสุนทรีย์เล็ก ๆ น้อยๆ ให้กับจิตใจ ที่สำคัญคือ ผู้บริโภคจะไม่ประนีประนอมเรื่องรสชาติ คือทุกอย่างต้องมีรสชาติอร่อยเท่านั้น

ดังนั้น ในปีนี้ เนสท์เล่ สานต่อปรัชญาการทำงาน Good food, Good life หรืออาหารที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เราจะเดินหน้าเปิดสองกลยุทธ์หลักคือการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค (Good for You) ที่จะสานต่อความมุ่งมั่นของเราในเรื่องโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมรสชาติที่อร่อย และขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา (Good for the Planet) เพื่อให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์และการดําเนินงานของเนสท์เล่มีความยั่งยืน ทั้ง 2 กลยุทธ์สำคัญนี้จะช่วยให้เราสามารถ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในการรับประทานอาหารอย่างสมดุล ด้วยทางเลือกที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อม ๆ กับการช่วยให้โลกเราน่าอยู่มากขึ้นด้วย”

สำหรับกลยุทธ์แรกการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค (Good for You) เนสท์เล่จะมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่อร่อยขึ้นและดีต่อสุขภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาพอร์ตผลิตภัณฑ์ให้มีรสชาติที่อร่อยและมีโภชนาการสูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม ผ่านเกณฑ์โภชนาการของบริษัทที่เข้มงวดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เราจะเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อให้เป็นตัวเลือกที่ "ดีต่อสุขภาพ" ให้กับผู้บริโภค เช่น การนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ลดน้ำตาล ลดโซเดียม การเสริมวิตามินและแร่ธาตุ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพืชให้เป็นตัวเลือกสําหรับผู้บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ ในรูปแบบขายปลีก

สำหรับกลยุทธ์ที่สองการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา (Good for the Planet) เพื่อให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์และการดําเนินงานของเนสท์เล่มีความยั่งยืนด้วยความมุ่งมั่นในการดูแลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เนสท์เล่ยังมีอีกหนึ่งกลยุทธ์หลักในขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา (Good for the Planet) เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ซึ่งจะเป็นสิ่งที่กําหนดทิศทาง และการดำเนินงานหลัก ๆ ของบริษัทจากการดำเนินงานตามแผนงานด้านความยั่งยืนของเนสท์เล่ ในประเทศไทย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในทุกด้าน อาทิ 95% ของบรรจุภัณฑ์เนสท์เล่ประเทศไทย ได้รับการออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ มีการใช้พลังงานทดแทนในกระบวนการผลิต และได้มีการใช้เมล็ดกาแฟที่มีการจัดหาอย่างยั่งยืน 100%

โดยในปีนี้ เนสท์เล่จะดำเนินสองโครงการใหม่เพื่อช่วยให้ก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ซึ่งโครงการแรกเป็นการต่อยอดความสําเร็จของโครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำที่อยุธยา โดยขยายไปสู่โครงการใหม่ในการพิทักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำหนองทุ่งทองในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำของโรงเรียนและชุมชนโดยรอบพื้นที่ชุ่มน้ำริมแม่น้ำตาปี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานสุราษฎร์ธานี ที่ใช้ผลิตน้ำดื่มของเนสท์เล่

นอกจากนี้ เนสท์เล่ในประเทศไทย ยังได้จับมือกับ PUR Projet ในการปลูกต้นไม้ 800,000 ต้นในไร่กาแฟที่จังหวัดระนองและชุมพร โดยมีเป้าหมายเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ประมาณ 200,000 ตันของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นของเนสท์เล่ระดับโลกในการลดคาร์บอนเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ