เสียงครวญจากชาวนา พ้อรัฐบาลกลับลำจำนำข้าว

วันพุธที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เสียงครวญจากชาวนา พ้อรัฐบาลกลับลำจำนำข้าว


จากกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะมีการปรับ ลดราคารับจำนำจากตันละ 15,000 บาท มาลดลงเหลือเพียง 12,000 บาทต่อตันนั้น ส่งผลสะท้อนให้ชาวนาเกิดความวิตกถึงรายได้จากพืชผลที่ต้องหักค่าประกันความชื้น รวมไปถึงค่าปุ๋ยเคมีที่มีราคาแสนแพง

ด้านนายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยได้ออกมาเปิดเผยถึงการเคลื่อนไหวตอบโต้นโยบายนี้ว่า ชาวนาไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งอยากให้รัฐบาลทบทวนมติดังกล่าวและกลับไปใช้ราคารับจำนำเดิมที่ตันละ 15,000 บาท แต่หากรัฐบาลยังนิ่งเฉยไม่ทำตามข้อเรียกร้อง ทางชาวนาก็จะนำรถอีแต๋น รถไถบุกไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันต่อไป

สำหรับหนังสือพิมพ์สยามธุรกิจได้ส่งผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์เข้าไปสำรวจความคิดเห็นของชาวบ้าน ในพื้นที่อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ในกรณีดังกล่าว ทำให้ทราบว่าชาวนาในพื้นที่เขตตำบลกุดหวาย และตำบลผักไหมเดือดร้อน จากการสำรวจ 2 ตำบลในเขตพื้นที่เกษตรกรที่กำลังลงไถหว่านและลงมือซื้อปุ๋ยเคมีภัณฑ์ต่างๆ ถึงกับไม่พอใจที่จะมีการลดโครงการ รับจำนำข้าว ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้มา หาเสียงกับชาวบ้านที่ จ.สุรินทร์ ก่อนที่ จะมีการเลือกตั้งที่ผ่านมา

"พุทธชัย พรหมมา" อายุ 40 ปีบ้านเลขที่ 6/1 บ้านทุ่งบัว ม.2 ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้กล่าวว่า ตนเอง ได้ลงมือไถหว่านโดยค่าจ้างวันละ 200 บาทต่อคน/วัน ค่าไถไร่ละ 250 บาทต่อไร่ ค่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลงนับวันยิ่งจะแพง ขึ้นทุกวันอยากจะฝากถามนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าทำไมราคาสินค้าเหล่านี้ไม่มีลดลง แต่ชาวเกษตรที่ทำไร่ ทำนาราคาข้าวกลับลดลงผมไม่เข้าใจว่า ราคาตามที่โครงการรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาทนั้น สมควรแล้วและน่าจะ ขึ้นไปเป็นตันละ 20,000 บาทด้วยซ้ำเวลาหาเสียงกับชาวบ้านทำไมถึงมี นโยบายออกมาอย่างชัดเจน พอได้เป็น รัฐบาลแล้วยังไม่ถึง 2 ขวบปีก็เป็นอื่นผมไม่เข้าใจว่ารัฐบาลเขาเล่นเกมอะไรกัน ทำไมต้องเอาผลประโยชน์ของชาว บ้านเข้าไปเล่นในเรื่องนี้ ผมขอฝากท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เลยว่าถ้าหากมีการปรับตัวลดลงเหลือ 13,000 บาทหรือ 12,000 บาท ผมว่าสมัยหน้าจะกลับมาเป็นฝ่ายรัฐบาลคงจะลำบาก

ทางด้าน "แจ่ม นิสัยกล้า" บ้านรำเนง ตำบลกุดหวาย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีนาจำนวน 16 ไร่ในระหว่างการลงมือทำนานั้นเราลำบาก ขนาดไหน คราดและไถ ต้องใช้ลงมือถึง 2 ครั้งและหว่านแต่ละครั้งต้องใช้แรงงาน นาปีทำได้เพียงครั้งเดียวไม่เหมือนกับชาวนาที่ภาคกลางทำได้ปีหนึ่ง 2 ครั้ง และนี่ถ้าหากฝนไม่ตกฟ้าไม่ร้องก็ไม่ต้อง พูดถึงเพราะกระดูกสันหลังของชาวนาทุกวันนี้ย่ำแย่อยู่แล้วพอจะมีโครงการรับจำนำข้าวเพียง 2 หมื่นบาท ก็มีปัญหา ผมไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลไม่ห่วงใยกับ พี่น้องประชาชนบ้างเวลาหาเสียงเอาแต่ เรื่องชาวนาไปพูด แต่พอพูดแล้วมาถึงป่านนี้แล้วกลับมาหักหลังชาวนา ผมไม่เข้าใจจริงๆ แล้วผมอยากจะฝากบอก อีกเลยว่า โครงการดังกล่าวนั้น คนที่รวยคือพ่อค้าคนกลางไม่ใช่ชาวนา ตัวจริงหรอกครับบอกตรงๆ ถ้าหากมีการปรับลดลงเหลือตันละ 12,000- 13,000 บาท รับรองชาวนาได้แบกภาระ หนี้เพิ่มอีกอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจยังได้สอบถามถึงบรรยากาศและมาตรการต่อไปยังองค์การคลังสินค้า จังหวัดร้อยเอ็ดทราบว่า ในเบื้องต้นหลังมีการรับสนองนโยบายจากส่วนกลางมีคำสั่งด่วนให้ อคส.หยุดรับจำนำ ข้าวไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 20-30 มิถุนายน และได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในเวลาต่อมา โดยคำสั่งใหม่นี้ให้ทาง อคส.เปิดรับจำนำข้าวพร้อมทั้งออกใบประทวนได้ตามปกติภายใต้เงื่อนไขว่า จะจำนำ ได้ในวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาทต่อครอบครัว และโรงสีสามารถรับข้าวได้เพียง 40 ตันต่อวันซึ่งน้อยมาก ตอนนี้ อคส.ต้องรีบออกใบประทวนให้เร็วที่สุด เพื่อให้เกษตรกรได้ไปยื่นที่ ธ.ก.ส.เพราะ วงเงินใกล้เต็มแล้ว ทั้งนี้ยังอยู่ในเงื่อนไข 15,000 บาท/ตัน

สำหรับเงื่อนไขต่อไปภายใต้นโยบายการปรับราคารับจำนำข้าวของรัฐบาลยังเป็นเรื่องที่ชาวนาจับตาดูอย่างคาดหวังเพราะงานนี้กระเทือนถึงปากท้องคนระดับรากหญ้า ก็แน่นอนว่าต้องกระเทือนถึงฐานเสียง รัฐบาลแน่นอน


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ