Toggle navigation
วันอังคาร ที่ 10 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
ประกัน
ดีลเทกโอเวอร์ปะทุ! บิ๊กตลาดยา..ฮุบ‘ชับบ์ประกัน’
ดีลเทกโอเวอร์ปะทุ! บิ๊กตลาดยา..ฮุบ‘ชับบ์ประกัน’
วันอังคารที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
Tweet
บริษัทประกันวินาศภัยในไทยเปลี่ยนเจ้าของใหม่อีกรายเมื่อบริษัท ชับบ์ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในเครือ “ชับบ์ กรุ๊ป” บิ๊กประกันภัยในกลุ่ม “ท็อปเทน” ของสหรัฐอเมริกาและผู้ผลิตตู้นิรภัยชั้นนำของโลกได้ขายกิจการให้กับ “ซิลลิก กรุ๊ป” (Zuellig ) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาชื่อดังแบบเงียบๆ ช็อกวงการประกันวินาศภัยไทยและถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองเพราะเป็นการขายทิ้ง ของทุนต่างชาติสวนกระแสกับที่ผ่านมาซึ่งมักจะเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นคน ไทยที่ขายกิจการให้กับต่างชาติที่เข้ามากว้านซื้อบริษัทประกันไทย...
รายงานข่าวจากบริษัท ชับบ์ประกันภัย (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ชับบ์ กรุ๊ป ในสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจขายหุ้นในบริษัท ชับบ์ประกันภัย (ประเทศไทย) ให้กับบริษัท เฟดเดอรัล ฟินิกซ์ โฮลดิ้งส์ บริษัทประกันภัยในเครือซิลลิก กรุ๊ป แล้วคาดว่ากระบวนการซื้อขายน่าจะแล้วเสร็จและเจ้าของใหม่เริ่มเข้ามาบริหารได้ภายในไตรมาสสามปีนี้ ขณะที่สัดส่วนหุ้นที่ขายออกไปไม่ได้ระบุ
+ ยันลูกค้าไม่กระทบ {lt}br{gt} + ปิดตำนาน “ชับบ์เมืองไทย”
ตามรายงานข่าวบอกว่าการซื้อขายครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อผู้เอาประกันทุกรายโดยกรมธรรม์ทุกฉบับยังได้รับความคุ้มครองเหมือนเดิม แม้จะมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ก็ตาม และแม้จะขายบริษัทประกันภัยออกไปแล้วชับบ์จะยังทำธุรกิจในไทยต่อไปในฐานะหุ้นส่วนประกันภัยต่อของเฟอ เดอรัล ฟินิกซ์และจะสนับสนุนเฟดเดอรัล ฟินิกซ์ในการขยายตลาดประกันภัยทางทะเลและขนส่ง(มารีน) และประกันความรับผิดที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาทิ ประกันความรับผิด ผู้บริหารและกรรมการ (D{amp}O) ซึ่งเป็นงานที่ชับบ์ถนัดและเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโต
ชับบ์เริ่มเข้ามาทำธุรกิจประกันภัยในไทยเมื่อปี 2534 โดยเข้ามาเทกโอเวอร์บริษัท น่านฟ้าประกันภัย ซึ่งเป็นของตระกูล “มหาคุณ” เจ้าของสุราแม่โขง (ก่อนที่จะขายให้กับนายเจริญ สิริวัฒนภักดี) ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นชับบ์ประกันภัยโดยชับบ์ กรุ๊ปที่สหรัฐฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ รองลงมาคือตระกูลมหาคุณ โดยชับบ์ ประกันภัย ดำเนินธุรกิจเฉพาะประกันภัยไม่ใช่รถยนต์ (นอน มอเตอร์) เท่า นั้นไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์
สำหรับซิลลิก กรุ๊ป เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาชื่อดังของโลกมีต้นกำเนิดอยู่ในฟิลิปปินส์ปัจจุบันย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่ฮ่องกง นอกจากผลิตภัณฑ์ยาแล้วยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเฮลธ์แคร์และธุรกิจในเครืออีกหลายอย่างในเอเชีย อาทิ บริษัทการค้า (Trading Firm), บริษัทโลจิสติกส์รวมถึงธุรกิจประกันภัยผ่านบริษัทเฟดเดอรัล ฟินิกซ์ ซึ่งปัจจุบันเปิดธุรกิจอยู่ใน 2 ประเทศคือฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียส่วนบริษัทโบรกเกอร์ขายออกไปแล้ว
+ แฉขายเพราะไซส์เล็ก-ต้นทุนสูง {lt}br{gt} + คาดอาจฟันค่าหุ้นได้ถึง 300 ล้าน
แหล่งข่าวจากวงการประกันภัยกล่าวกับ “สยามธุรกิจ” ถึงสาเหตุที่ชับบ์ขายธุรกิจในไทยทั้งที่ทำธุรกิจมาถึง 23 ปี ว่า แม้ชับบ์จะเป็นบริษัทประกันภัยที่มีขนาดใหญ่มากอยู่ในกลุ่มผู้นำ 10 อันดับของสหรัฐฯ และเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่มีขนาดใหญ่รายหนึ่งของโลกมีออฟฟิศ 120 แห่ง ใน 27 ประเทศ แต่ในไทยมีขนาดเล็กมากโดยในปี 2555 มีเบี้ยรับตรงแค่ 202.868 ล้านบาท มาร์เก็ตแชร์ 0.11% อยู่อันดับ 53 ของอุตสาหกรรมจากทั้งหมด 64 บริษัท ขณะที่ในปี 2556 มีเบี้ยรับตรงลดลง 10.49% เหลือ 181.605 ล้านบาท อยู่อันดับ 54 เป็นเบี้ยประกันนอน มอเตอร์ทั้งหมด ซึ่งเบี้ยประกันส่วนใหญ่มาจากประกันขนส่งสินค้าทางทะเล ประกันอุบัติเหตุและประกันอื่นๆ อาทิ ประกันความรับผิดต่างๆ ประกัน D{amp}O ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้มีเบี้ยรับ 52.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24%
นอกจากจะมีขนาดเล็กแล้ว ยังมีค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการสูงมากโดยในปี 2555 มีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 20.34% แต่ค่าใช้จ่ายสุทธิกลับสูงถึง 521.45% คอมไบน์ เรโช 108.17% อยู่ในภาวะขาดทุนจากการรับประกันสาเหตุที่ค่าใช้ จ่ายสุทธิสูงเนื่องจากเก็บประกันไว้เองน้อยมากไม่ถึง 5% ที่เหลือประกันต่อออกไปหมดเท่ากับเบี้ยที่รับมาส่งประกันต่อออกไปเกลี้ยงทำตัวเหมือนเป็นโบรกเกอร์ไม่ใช่บริษัทประกันภัยอาจจะเพราะไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงภัยมาก ไม่ต้องใช้เงินกองทุนเยอะ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานสูงโดยมีพนักงาน 21 คน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,489 ล้านบาท เทียบกับค่าใช้จ่ายในตลาดต่อพนักงานอยู่ที่ 1,334 ล้านบาท
“ในเอเชีย ชับบ์มีธุรกิจอยู่แค่ 2 ประเทศ คือ ไทย และอินโดนีเซีย ไม่แน่ใจว่าเขาขายทั้งในไทยและอินโดนีเซียให้กับซิลลิกด้วยหรือเปล่า ในไทยไม่รู้ขายไปเท่าไหร่ ตอนนี้เขามีทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท ถ้าคิดจากราคาซื้อขายบริษัททั่วไปผู้ซื้อจะซื้อไม่เกิน 1.2-1.5 เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ก็น่าจะขายได้เกือบ 300 ล้านบาท ถามว่าเขาซื้อหุ้นทั้ง 100% มั้ย ตามกฎคปภ.ทำไม่ได้เพราะชับบ์ไม่ได้มีปัญหาทางการเงิน”
+ วงการเซอร์ไพรส์ {lt}br{gt} + สวนกระแสฝรั่งแห่ซื้อประกันไทย
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวกล่าวว่า การที่ชับบ์ขายธุรกิจประกันภัยในไทยออกไปอาจจะสร้างความประหลาดใจให้กับวงการพอสมควร เพราะไม่มีวี่แววมาก่อนว่าทุนจากอเมริกาจะขายทิ้งประกันภัยไทยตรงข้ามกลับจะขยายธุรกิจมากขึ้น อาทิ เอซ กรุ๊ปจากอเมริกาที่เพิ่งซื้อบริษัทไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัยหรือบริษัทจูน อินชัวรันส์ในเครือแอร์เอเชียจากมาเลเซีย ที่เพิ่งซื้อบริษัทโอสถสภาประกันภัยแต่หากดูจากงบการเงินของชับบ์ประกันภัยข้างต้นไม่น่าจะรอด ซึ่งหลังจากนี้มีความเป็นไปได้ที่บริษัทประกันต่างชาติโดยเฉพาะรายที่ใหญ่ๆ ในตลาดโลกแต่เล็กในไทยอาจจะขายธุรกิจออกไป
แหล่งข่าวยังกล่าวถึงซิลลิกว่า น่าจับตามองถึงการรองรับเออีซีของซิลลิกเพราะขณะนี้มีบริษัทประกันภัยใน 3 ประเทศแล้วคือฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและไทย โดยซิลลิกถือว่ามีความแข็งแกร่งมากในฐานธุรกิจเดิมที่มีอยู่แต่ละปีทั้งกลุ่มมียอดขายเยอะมาก การมีบริษัทประกันภัยในไทยจะช่วยรองรับการประกันภัยธุรกิจในเครือได้จากเดิมที่ต้องทำกับบริษัทอื่น อาทิ บริษัท เอ็มเอสไอจี เป็นต้น อย่างไรก็ดี ธุรกิจประกันภัยของ ซิลลิกทั้งในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียไม่ใหญ่มากแต่ละประเทศเบี้ยไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ตลาดหลักเป็นประกันรถยนต์และประกันทรัพย์สินจึงไม่น่ากลัวสำหรับการเปิดบริษัทประกันในไทย
“สยามธุรกิจ” สอบถามไปยังคปภ.ถึงกรณีที่ชับบ์ขายบริษัทประกันภัยในไทยโดยคปภ.ให้ข้อมูลว่าการซื้อขายเป็นเรื่องของธุรกิจโดยจะมีการรายงานมาที่คปภ.ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนกรรมการซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งเข้ามา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
คปภ. ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันชีวิต...
...
กลุ่มบริษัท เอไอเอ ประกาศเปลี่ยนแปลงประธ...
...
สำนักงาน คปภ. ชูบทบาทตัวแทนประกันชีวิต ใ...
...
"ไทยประกันชีวิต" ชี้ ประเทศไทยเข้าสู่สัง...
...
สำนักงาน คปภ. เผยเบี้ยประกันภัยที่ขายผ่า...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ