อำนาจจากไปในที่ที่อำนาจจากมา

อำนาจในกำมือของอดีตประธานาธิบดีมูบารัคจากไป แล้วเลื่อนไหลมาสู่กำมือของผู้มาใหม่ โมฮัมหมัด มอร์ซี่

มอร์ซี่ ประกาศว่า ตำแหน่งของเขามาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทั้งประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญ ทุกคนทุกฝ่ายจะต้องเชื่อฟัง

แต่มอร์ซี่ลืมไปว่า ฮอสนี มูบารัค ประธานาธิบดีคนก่อนก็มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน ตั้งแต่ปี 1981 จนถึง 2012 ยิ่งใหญ่อย่างยาวนานขนาดนั้น ก็ยังอยู่ไม่ได้ ประสาอะไรกับอำนาจไม่กี่เดือนในมือของมอร์ซี่

โดยเฉพาะฝ่ายตรงกันข้ามในทางการเมือง ที่กุมเสียงประชาชนในระบอบเลือกตั้งได้เกือบครึ่งของผู้สนับสนุนมอร์ซี่ อันได้แก่ นายอาร์เหม็ด ซาร์ฟิค คนเก่าแก่ของประธานาธิบดีมูบารัค

หากว่า มอร์ซี่ในตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ จะใช้อำนาจนั้นอย่าง ใสสะอาดเพื่อฟื้นฟูประเทศจากความวุ่นวายของการเมือง ฝ่ายตรงกันข้าม ก็คงไม่สามารถจะชักจูงประชาชนออกมาต่อต้านเขาได้มากมายขนาดนี้

แต่เพราะมอร์ซี่ถูกกล่าวหาว่า ใช้อำนาจหน้าที่แบ่งปันผลประโยชน์ของชาติให้กับวงศาคณาญาติและพลพรรคของเขา คำกล่าวหานั้นฟังขึ้นและสมจริงกับความเชื่อของประชาชน

ประชาชนที่นำเขาขึ้นมาสู่อำนาจกำลังทวงคืนอำนาจจากเขา

หากมอร์ซี่ยุบรัฐบาล ยุบรัฐสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยการ เลือกตั้งครั้งใหม่ หากเขาแพ้การเลือกตั้งเขาก็จะจากไปอย่างสงบและรอเวลา กลับมาสู่อำนาจได้อีก และหากเขาชนะในการเลือกตั้ง ฝ่ายตรงกันข้ามก็คง หมดข้ออ้างที่จะมาขับไล่เขา

แต่มอร์ซี่ใช้วิธีการเดียวกับมูบารัค

วันนี้เขาจึงถูกกองทัพยึดอำนาจ ด้วยเหตุผลที่คงเส้นคงวาที่สุดในการแอบอ้าง คือเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบแห่งแผ่นดินเขาถูกยึดอำนาจท่ามกลางเสียงหัวเราะของฝ่ายประชาชนที่ไม่นิยมในตัวเขา

เขาอาจจะคิดว่า ผู้ขับไล่เขาคือ ฝ่ายตรงกันข้าม แต่เขาลืมมองเข้าไป ที่ตัวเองว่า คำกล่าวหาที่ประชาชนอียิปต์ได้ยินได้ฟังนั้น มันเป็นเรื่องจริง

และความเป็นจริงนั่นแหละ ที่ทำลายเขา