ล้างป่าช้า "ครม.ปู" สะท้อนพิธีกรรม..เชิงอำนาจ?!

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ล้างป่าช้า


เป็นอารมณ์ที่ "แปลกแยก" กันสุดขั้วของ 2 รัฐมนตรีที่โดน "ยาแรง" ในโผเสนาบดีชุดล่าสุด ทั้งในรายของ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" และ "บุญทรง เตริยาภิรมย์"

โดยที่ฝ่ายแรกออกมาฟาดงวงฟาดงา ด้วยอารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอย เพราะถูก "ลดชั้น" มาเป็น "เจ้ากระทรวงจับกัง" แถมยังบ่นเปรยๆ ผ่านคนใกล้ชิดว่า..อาจมีคิวไขก๊อก! เพราะน้อยใจที่ถูกเด้งจากเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ

ขู่ถอนยวงในเชิงว่า "ขาดฉัน..แล้วเธอจะรู้สึก"

แต่หลังจาก "นายกฯ ปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนกรานว่า ไม่จำเป็นต้องเคลียร์ใจกับ "สารวัตรเหลิม" แต่อย่างใด

นั่นทำให้ "สิงห์เฒ่า" ยอมลงให้แต่โดยดี เพราะที่ผ่านมาก็เป็นแค่ลีลา "เทกแอ็กชั่น" ให้เห็นว่า..เขาไม่ใช่พวก "ไม่มีราคา" ที่คิดจับวางตรงไหนก็ได้

ขณะที่ฝ่ายหลังแม้ต้องอกหักดังเป๊าะ! แต่ยังอมพะนำ หายเข้ากลีบเมฆหลังถูกปรับออกจากตำแหน่ง รมว.กระทรวงพาณิชย์ แถมยังไร้ชื่อในโผรัฐมนตรีชุดใหม่

จากอาการ "กลืนไม่เข้าคายไม่ออก" ของทั้ง "เฉลิม" และ "บุญทรง" มันย่อมบ่งบอกได้ถึง "ที่มาที่ไป" ในอารมณ์กรุ่นๆ ของทั้ง 2 ฝ่ายว่า..มีเงื่อนงำอะไรแอบซ่อนไว้เบื้องหลัง?!

ในอารมณ์ "เขื่อนแตก" ของ "สิงห์เหลิม" คงเดาได้ไม่ยาก เพราะเคยออกฤทธิ์เดชมาแล้วในสมัยที่ปะทะกับ "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ" ก่อนท้ายที่สุด "ยิ่งลักษณ์" จะไปง้องอนกลับมาเป็นเสนาบดี แต่ในรายของ "บุญทรง" ที่มีแบ็กเป็นระดับ แถวหน้าในค่ายเพื่อไทยอย่าง "เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" มันย่อมเป็นประเด็นที่ต้องตีโจทย์ให้แตกว่า การเด้ง "บุญทรง" เป็นเพราะโดนฝ่ายค้านกลุ้มรุมหนัก จนต้องยอม "ตัดเนื้อร้าย เพื่อรักษาชีวิต" หรือเป็นเพียง "กลเกมอำนาจ" ของคนหัวแถวในรัฐนาวา

โฟกัสไปที่ตัวเลขชักเข้าชักออก ซึ่งมาจากปากของ "เดอะโต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง" รองนายกรัฐมนตรีและ "ขุนคลัง" ที่ในเบื้องแรกมีการเปิดประเด็นในวงเสวนาที่มีมือเศรษฐกิจระดับนำของประเทศ เข้าร่วมคับคั่ง ก่อนที่ "เดอะโต้ง" จะปล่อยของใส่ "บุญทรง" ว่าต้องมีการปรับลดราคาจำนำข้าวเพื่อรักษาวินัยการคลัง

นั่นจึงนำไปสู่การไขประเด็นร้อนที่เขย่าใส่ "บุญทรง" มาเป็นระลอก ในฐานะผู้ดูแลโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง

กระทั่ง "พิษจำนำข้าว" ลามไปถึงวงประชุมคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ที่มี 3 รัฐมนตรีอย่าง "บุญทรง" .. "เดอะโต้ง" และ "วราเทพ รัตนากร" เข้าร่วมไขปัญหา

ก่อนที่รัฐบาลจะมาแถลงแตก-ประเด็นตามที่ได้รับมอบหมาย เริ่มจาก "วราเทพ" แจกแจงตัวเลขการขาดทุนของโครงการจำนำข้าว โต้ข้อครหาที่ว่า "ทำรัฐเจ๊งไป 2.6 แสนล้านบาท" โดยเคาะตัวเลขใหม่อยู่ที่ 1.36 แสนล้านบาท แล้วส่งไม้ต่อให้ "เดอะโต้ง" จัดการทุบราคาจำนำข้าวจาก 15,000 บาทต่อตัน เหลือแค่ 12,000 บาทต่อตัน

"รัฐบาลต้องปรับเงื่อนไขการรับจำนำ ข้าวใหม่ เนื่องจากราคาที่กำหนดไว้ตันละ 1.5 หมื่นบาท มีความเหมาะสมกับช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่เหมาะกับภาวะปัจจุบันอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายยังปรับเปลี่ยนได้ ราคารับจำนำทำไมจะเปลี่ยนไม่ได้"

ย้ำหัวตะปู..ด้วยการการันตีการลดราคาจำนำข้าวโดย "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ...

"รัฐบาลจำเป็นต้องปรับลดราคา ให้เกิดความสมดุลบสอดคล้องกับราคาตลาดโลก รายได้ชาวนา และรักษาวินัยการเงินการคลัง"

เป็นการสอดประสานของ "เสนาบดีปู" ในดีลรับจำนำข้าว สกัดพิษร้ายที่จะลามมาถึง "ผู้นำหญิง"

หลังจากนั้นไม่นาน ได้มีพิธีกรรมล้างป่าช้าครั้งใหญ่...ในการปรับ ครม.ถึง 19 ตำแหน่งก็ตามาโดยพลัน

ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ผู้ดูแล โครงการจำนำข้าวก็ไม่มีพลิกโผ เพราะเป็น ไปตามคาดว่า "บุญทรง" ต้องถูกปรับออก โดยมี "นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล" ที่ข้ามห้วยจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มานั่งเป็น รมว.กระทรวงพาณิชย์ คนใหม่

และในพลันที่ "นิวัฒน์ธำรง" เข้ารับตำแหน่งเจ้ากระทรวงเพียงไม่นาน ที่ประชุม กขช.ก็มีการปรับเปลี่ยนราคาจำนำข้าวเปลือก โดยให้ดีดกลับจาก 12,000 บาทต่อตัน ไปอยู่ที่ราคาเดิม 15,000 บาทต่อตัน และจะคงราคานี้ไปจนกว่าจะหมดฤดูเก็บเกี่ยวข้าวปี 2556 ตามที่ "ม็อบชาวนา" ออกมาเรียกร้อง เพราะได้ลงทุนทำนาไปแล้ว

"ที่ประชุมให้ความเห็นชอบคงราคา รับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 100% ความชื้น 15% ที่ราคา 15,000 บาทต่อตัน และข้าว ชนิดอื่นๆ กลับมาที่ราคาเดิมเช่นกัน ทั้งนี้จะรับจำนำเฉพาะปริมาณที่ไม่เกินที่ได้ระบุไว้ในใบรับรองเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้วเท่านั้น และในวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ต่อครัวเรือน ตามมติ กขช.เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 สำหรับโครงการรับจำนำ ข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/56 จะสิ้นสุด วันที่ 15 กันยายน 2556 และเฉพาะภาคใต้ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556"

จากนโยบายรัฐที่พลิกกลับแบบ 360 องศา มันย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล

แต่ก็เป็นหนึ่งบทพิสูจน์ที่ว่า "ยิ่งลักษณ์" ..ไม่กลัวเสียหน้า โดยยอมผ่อนปรนนโยบายที่จะมารัดคอตัวเอง อีกทั้ง "รัฐบาลเพื่อไทย" ยังสามารถกระตุกแต้มคืนจากชาวนาได้โดยละม่อม

แต่ด้วยสถานการณ์ที่กลุ้มรุมรัฐบาล อยู่ตอนนี้ ทำให้ต้องมีการเซ่นสังเวย "เหยื่อจำนำข้าว" อย่างในรายของ "บุญทรง" เพื่อประคับประคองรัฐบาลที่อยู่ในภาวะ "ขาลง"

การปรับ "บุญทรง" พ้นเก้าอี้ "ว่าการพาณิชย์" ยังคงเป็นร่องรอยในทางการเมือง ที่ไม่ต่างอะไรจากการเขย่าขั้วการเมืองภายในมุ้งค่ายเพื่อไทยรอบใหม่ ที่ว่ากันว่า...มีสัญญาณจากปลายรีโมตคนไกลบ้านอย่าง "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"

ถอดรหัสได้จาก "เงื่อนเวลา" ในการปรับราคาข้าว ไล่เรียงเหตุการณ์มาตั้งแต่วันที่ "กิตติรัตน์" พูดในวงเสวนา ซึ่งตรงกับวันที่ 13 มิถุนายน อันนำไปสู่การประชุม กขช.ที่มีการปรับลดราคาลงเหลือ 1.2 หมื่นบาทต่อตันในวันที่ 18 มิถุนายน ก่อนที่ "ยิ่งลักษณ์" จะตอกย้ำการปรับลด ในวันที่ 20 มิถุนายน กระทั่งมีการปรับครม.ครั้งใหญ่และเปลี่ยนหัวโขนเจ้ากระทรวงพาณิชย์จาก "บุญทรง" เป็น "นิวัฒน์ธำรง" ในวันที่ 30 มิถุนายน และมีการประชุม กขช.เพื่อปรับขึ้นราคาจำนำ ข้าวให้ไปอยู่ที่เดิมคือ 1.5 หมื่นบาท ในวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ซึ่งมันก็กินเวลาไปเพียง 19 วันเท่านั้นในการปรับเปลี่ยนราคารับจำนำข้าว ก่อนจะพลิกมติใหม่หลังจากเปลี่ยนหัวโขน รมว.กระทรวงพาณิชย์ ดันราคาจำนำข้าวไปอยู่ที่เดิมคือ 1.5 หมื่นบาทต่อตัน

ในทางสังคมจึงมีคำถามว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับการบริหารงานใน "รัฐบาล ยิ่งลักษณ์" ยิ่งถ้ามองใน "รหัส" การทำคลอด "ครม.ปู 5" ที่ทั้ง "บุญทรง" .. "วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล" และ "ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย" คนสนิทของ "เจ๊แดง" ถูกปรับออกแทบจะเกลี้ยง ครม. ส่วนที่มาใหม่ก็เป็นสาย "นายใหญ่" กับ "บ้านจันทร์ส่องหล้า" ขณะที่สาย "ไทยคู่ฟ้า" ของ "นายกฯ ปู" ยังอยู่กันครบทีม

เมื่อกราฟราคาข้าวขยับขึ้นลงในเวลาอันรวดเร็ว สมการอำนาจใน ครม. ถูกปรับเปลี่ยนเกือบยกแผง ซึ่งถ้าจะถอด รหัสเป็นรายบุคคล "บุญทรง" ก็ชัดเจนว่าคนของ "เจ๊แดง" ส่วน "กิตติรัตน์" ก็สายตรง "นายกฯ ปู" ส่วนคนมาใหม่อย่าง "นิวัฒน์ธำรง" นี่ก็สายแข็งบ้านจันทร์ส่องหล้า

มันเริ่มชัดเจนแล้วว่า "ขั้วอำนาจ" อันยิ่งใหญ่ของ "เจ๊แดง" ภายในค่ายเพื่อไทยกำลังเคลื่อนมาสู่ "จุดเสื่อม" โดยฝีมือคนกันเอง ผ่านตัวละครที่ชัดเจนว่าเป็นคน ของใคร ทั้งในสายของ "นายใหญ่" .. "นายหญิง" หรือกระทั่ง "นายกฯ ปู"

จุดเสื่อมที่ว่านี้ ลำพังแค่เรื่องจำนำข้าวก็เป็นสมัยของ "บุญทรง" ที่ทุบราคาลงมาอยู่ที่ 12,000 บาทต่อตัน และเมื่อ "นิวัฒน์ธำรง" เริ่มทำงานได้แค่ข้ามวัน ราคาก็ดีดขึ้นไปที่ 15,000 บาทต่อตัน อาจ กล่าวได้ว่านี่เป็นความเสื่อม เพราะแค่ต้นทุน ระหว่าง "บุญทรง" กับ "นิวัฒน์ธำรง" มันก็ต่างกันถึง 3,000 บาทแล้ว..

ปรากฏการณ์เหล่านี้ ย่อมสะท้อน ให้เห็น "สนิมเนื้อใน" สำหรับกลเกม การเมืองของ "กลุ่มก๊วน-มุ้ง-วัง" ในพรรคเพี่อไทย ที่แม้แต่สายแข็งอย่าง "เด็กเจ๊แดง" ยังต้องกลายเป็น "เหยื่อ" บนกระดานแห่งอำนาจ ดูท่าบารมีของ "เจ๊แดง" ชักจะเสื่อมถอยลงทุกที?!!


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ