"ออมสิน" ตีปี๊บประกันชีวิตขยายทุนคุ้มครอง/ดึงลูกค้าซื้อเพิ่ม เป้าอีก 5 ปี เบี้ยเพิ่ม 100% แตะ 1.8 แสนล้าน

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556



หลังจาก "ธนาคารออมสิน" รีแบรนด์สินค้าสงเคราะห์ชีวิตใหม่ มาเป็น "GSBLIFE" ในปี2549 ด้วยยอดเงินฝากสงเคราะห์ชีวิต 40,000 ล้านบาท ผ่านมา 7 ปี ยอดเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตโตขึ้น 100% เป็น 90,000 ล้านบาท ดังนั้นเป้าหมายการเติบโตของเงินฝาก สงเคราะห์ชีวิตของธนาคารออมสินจะแตะ 100% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ก็ไม่น่าจะเกินความคาดหมายนัก
+ ตั้งเป้าโต 20% ต่อเนื่อง {lt}br{gt} + 5 ปีเบี้ยเพิ่ม 100%แตะ 1.8 แสนล้าน
"วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี" ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ยอดเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2556) คิดเป็นเบี้ย รับรวม 22,174 ล้านบาท เทียบกับธุรกิจประกันชีวิตในส่วนของการประกันชีวิตประเภทสามัญ (Ordinary) ถือว่าเทียบเท่ากับอันดับ 6 ของตลาด ขณะที่เบี้ยปีแรก (FYP) ทำได้แล้ว 7,000 ล้านบาท เทียบเท่าอันดับ 5 ของตลาด โดยปีนี้มีเป้า หมายเบี้ยรับรวมที่ 24,500 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา
"จริงๆ ธนาคารออมสินเราตั้งเป้าต้องเติบโตสูงกว่าการเติบโตของตลาดประกันชีวิตประเภทสามัญ เนื่องจากสินค้า ของเราเน้นแบบสะสมทรัพย์ อย่างขณะนี้ประกันชีวิตเขาเติบโตที่ 17% เราก็คาดว่าของเราน่าจะเติบโตได้ 20% ซึ่งหากเรายังเติบโตได้เฉลี่ย 20% ต่อปี คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้านับจากปี 2557 เบี้ยรวมจะเติบโตอีกเท่าตัวจาก 90,000 ล้านบาทแน่นอน"
+ ขยายคุ้มครองสูงสุด 20 ล้าน {lt}br{gt} + ทำ CRM ดึงลูกค้าซื้อประกันเพิ่ม
ทั้งนี้ กลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้เบี้ยเพิ่มเท่าตัว หรือเพิ่มเป็น 180,000 ล้าน บาท คือ การเพิ่มเพดานความคุ้มครอง หรือ ทุนประกัน จากปัจจุบันจำกัดวงเงินสูงสุดที่ 10 ล้านบาท เนื่องจากเน้นทำตลาดลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก อนาคตจะปรับเพิ่มเป็น 20 ล้านบาท เพื่อขยายทุนประกันให้สูงขึ้น ทำให้ลูกค้าซื้อในวงเงินสูงขึ้นได้ ทำให้ เบี้ยเพิ่มขึ้น
อีกด้านหลังจากที่ธนาคารได้ปรับระบบไอทีใหม่ ก็จะเริ่มทำลูกค้าสัมพันธ์ (CRM : Customer Relationship Mana gement) นำฐานลูกค้าทั้งหมดของธนาคารที่ปัจจุบันมีบัญชีเงินฝากอยู่ 35 ล้านบัญชี มาจัดเซ็กเมนต์ดูว่าแต่ละรายใช้ บริการอะไรของแบงก์บ้าง จากเดิมที่แต่ละ ส่วนจะไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ โดยมีนโยบายว่าจะให้ลูกค้าแต่ละรายอย่างน้อยต้องใช้บริการของแบงก์ 2 ประเภท
"เรามีฐานลูกค้าเงินฝากอยู่ แล้ว 35 ล้านบัญชี แต่ซื้อผลิต ภัณฑ์เงินฝากสงเคราะห์ชีวิตเพียงแค่ 1.47 ล้านกรมธรรม์เท่านั้น ยังน้อยมาก จึงจะพยายาม ดึงลูกค้าให้มาใช้บริการเพิ่มให้มากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งคือการเพิ่ม วงเงินคุ้มครองเป็น 20 ล้านบาท จะทำให้ซื้อเพิ่มได้ทางหนึ่ง อีกทาง คือ การ Cross Sell จากเดิมแต่ละฝ่าย เช่น สินเชื่อ สงเคราะห์ชีวิต ก็จะต่างคนต่างขายไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกัน แต่ต่อไปเราจะจัดเซ็กเมนต์ลูกค้าดูว่าที่เรามีอยู่ใครที่ยังไม่มีบริการไหน ก็จะเสนอบริการนั้นเพิ่มให้ลูกค้า และจะพยายามขยายไปยังกลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มีเงินเดือนประจำให้มากขึ้น"
ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารออมสินมี 982 สาขาทั่วประเทศ และคาดว่าจะมีถึง 1,010 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ โดยลูกค้าประกันชีวิต ส่วนใหญ่ 80% เป็นลูกค้าต่างจังหวัด
+ สิ้นปีแข่งลดหย่อนภาษี {lt}br{gt} + ดันเบี้ยรวมเกินเป้าทะลุ 25,000 ล้าน
"วรวิทย์" กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารออมสินมีสินค้าสงเคราะห์ถึง 19 แบบ โดยในจำนวนนี้มี 12 แบบที่ลูกค้าสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ และเตรียมจะจัดงานมหกรรมลดหย่อนภาษีขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าเมกะบางนา 1 พฤศจิกายน 2556 นี้ เพื่อให้คำแนะนำลูกค้าในการซื้อผลิตภัณฑ์สงเคราะห์ชีวิตเพื่อช่วยในการลดหย่อนภาษี
ทั้งนี้ ทางธนาคารได้จัดทีมที่ปรึกษา การเงินช่วยให้คำแนะนำลูกค้าในการวาง แผนลดหย่อนภาษีโดยเฉพาะ ซึ่งปีนี้มีสินค้าใหม่ คือ เงินฝากสงเคราะห์ชีวิต "ออมสินเพิ่มพูน 10/1" ออกมาเป็นตัวเด่น โดยแบบนี้ไม่จำกัดวงเงินคุ้มครอง โดยส่งเงินฝากครั้งเดียว คุ้มครอง 10 ปี เหมือน กับแบบประกันซิงเกิล พรีเมี่ยม (Single Premium) ของประกันชีวิต ตัวอย่างเช่น วงเงินสงเคราะห์ชีวิต 100,000 บาท เงินฝาก หรือเบี้ย 99,000 บาท มีเงินคืน 4% ของวงเงินคุ้มครองทุกปี ซึ่งเทียบผลตอบแทนเฉลี่ย (IRR) อยู่ที่ 3.79%
"เราเปิดขายแค่ 2 เดือน พฤศจิกายน- ธันวาคม 2556 นี้เท่านั้น โดยตั้งเป้ายอดขายแบบนี้ไว้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่างานมหกรรมลดหย่อนภาษีจะช่วยเสริมให้ยอดขายสงเคราะห์ชีวิตเราทะลุเป้า 24,500 ล้านบาท ที่ตั้งไว้ โดยน่าจะทำได้ถึง 25,000 ล้านบาท"
อย่างไรก็ดี การหาผลตอบแทนเพื่อ คืนให้ลูกค้าตามกรมธรรม์ของธนาคารออมสินจะมาจากการปล่อยสินเชื่อเป็นหลัก โดย 55% เป็นสินเชื่อบุคคล, 13% เป็นสินเชื่อเคหะ, 20% เป็นสินเชื่อภาครัฐ และที่เหลือไม่ถึง 10% เป็นสินเชื่อเอสเอ็มอี และรายใหญ่ ซึ่งให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5.5% จึงสามารถให้ผลตอบแทนเงินคืนกับลูกค้าได้สูง
"สินเชื่อบางตัวให้ผลตอบแทนสูงถึง 7-8% บางตัวให้ 4-4.5% เมื่อมาถัวเฉลี่ยกันจึงทำให้อยู่ที่ 5.5% และเราไม่ได้ลงทุนในหุ้น อีกทั้งเน้นปล่อยสินเชื่อความเสี่ยงต่ำ เพราะลูกค้าเรา 80% เป็นข้าราชการ และวงเงินสินเชื่อก็ไม่ได้สูง เช่น สินเชื่อบ้านเฉลี่ยไม่ถึง 1 ล้านบาทต่อราย เหมือนกับวงเงินคุ้มครองสงเคราะห์ ชีวิตก็ไม่เกิน 10 ล้านบาท ในปัจจุบันถือว่าเรา มีการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) อยู่ในตัว"


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ