Toggle navigation
วันศุกร์ ที่ 20 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
ตกเขียว "กองทัพ" "นิรโทษกรรม" สุดซอย!!
ตกเขียว "กองทัพ" "นิรโทษกรรม" สุดซอย!!
วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ในรหัสการเมืองที่ว่าด้วย "นิรโทษกรรม-ปรองดอง" ถือเป็นโจทย์ ใหญ่ที่รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" พยายามจะเดินหน้าไปจนสุดซอย ขณะที่ในหลายปมปัญหา ทั้งพิษจำนำข้าว แคมเปญประชานิยม ตลอดจนไฟการเมืองที่โหมมาเป็นระลอก ก็ยิ่งทำให้ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" และทีมวอร์รูมแห่งไทยคู่ฟ้า ต้องรีบแก้แห! มือเป็นระวิง เพราะยังไม่สามารถ "แก้ไขสถานการณ์" ให้กลับมาสู่แดนบวกได้
เมื่อผ่านมาไกลเกือบครึ่งเทอมแรก "รัฐบาล" ยังคงมี "วาระเร่งด่วน" ในคิวผลักดันกฎหมาย 2 ฉบับคือร่างนิรโทษ กรรมและปรองดอง ที่เตรียมเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรช่วงเดือนสิงหาคมนี้
แต่ล่าสุดได้มีประเด็น "คลิปฉาว" ที่อาจเป็นผลให้กฎหมายร้อนทั้ง 2 ฉบับ.. เดินเข้าสู่ทางตัน?!
ในคลิปเสียงที่ว่านี้ มีการอ้างถึง "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่เพิ่งจะคัมแบ็กสู่เก้าอี้ "รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม" โดยมีการสนทนาข้ามประเทศกับ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ในประเด็นที่ว่าด้วย "แผนกลับประเทศ" รวมถึงเกม กระชับอำนาจท็อปบูตของ "คนไกล"
บทสนทนาของ "บุคคลทั้ง 2" ถือว่ามีเนื้อหาที่ส่งผลสะเทือนไปถึง "อำนาจรัฐบาล" โดยมีอยู่หลายประเด็นที่พาดพิง "บุคคลที่ 3" ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญทางการเมือง ทั้งนายกรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพและประธานองคมนตรี เพราะมีการ ระบุถึงการโยกย้ายทหาร การปูทาง..อุ้ม "ทักษิณ" กลับบ้าน! และพาดพิงถึง "ป๋า" กับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
เช่นเดียวกับบทสนทนาที่ "ชายสูงวัยคนหนึ่ง" หลุดปากว่า "อยากเป็นหนูเพื่อช่วยราชสีห์กลับบ้าน" แต่ยังไม่ทันไร "หนู" ที่คิดจะช่วย "ราชสีห์" ก็เริ่มดิ้นพล่านเป็น "หนูติดจั่น" ไปเสียแล้วเมื่อถูก กระแสทางการเมืองกลุ้มรุมอย่างหนัก โดย เฉพาะประเด็นการวิพากษ์ถึงความเหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่ง "บิ๊กกลาโหม"
ถึงแม้ "บิ๊กอ๊อด" จะออกมาปฏิเสธ ว่าไม่ใช่ตัวเอง และคนในรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย ต่างพากันสยายปีก "ช่วยปกป้อง" ในทำนองว่า..เป็นคลิปตัดต่อจากผู้ไม่หวังดี ที่มีเป้าประสงค์ทางการเมือง
ขณะที่ "โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร" ก็ออกมายอมรับว่า เป็นเสียงของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" จริงๆ เพียงแต่เนื้อหา ที่พูดกัน ยังเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ว่า มีการตัดต่อเพื่อบิดเบือนสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารหรือไม่..??
ทั้งหมดทั้งปวง ได้สร้างความสั่นสะเทือนต่อ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ในช่วง 2 ขวบปีสุดท้ายก่อนครบเทอม เพราะเนื้อหาในคลิป ล้วนแต่เป็นประเด็นร้อน ฉ่า ที่จะเพิ่ม "เงื่อนไขใหม่" สู่การนับถอยหลัง "อายุขัยรัฐนาวา" ว่าจะไปได้ไกลจนสุดทางหรือไม่..
เหนืออื่นใด ไฮไลต์ในคลิปฉาว..ยัง คงมีอยู่ที่บทสนทนาว่าด้วยการ "ซื้อใจบิ๊กทหาร" ยึดโยงไปสู่ปมร้อน "นิรโทษ กรรม" และ "ปรองดอง" เพราะมีการ พูดถึงแนวทาง "นิรโทษกรรม" ด้วยการเสนอให้ "สภากลาโหม" และ "สภา ความมั่นคง" ผลักดันการออกกฎหมายนิรโทษกรรมในรูปแบบ "ร่างพระราชบัญญัติ" ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หรือใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รัฐบาลใช้อำนาจตราเป็น "พระราชกำหนด"
"รศ.ปณิธาน วัฒนายากร" นักวิชาการรัฐศาสตร์ ในฐานะที่เคยมีส่วน ร่วมในการร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่น คงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การออกกฎหมายลักษณะนี้บ้านเราไม่เคยทำมาก่อน จึงไม่แน่ใจว่าในทางกฎหมายมีผล อะไรตามมา เพราะก็ทราบกันดีว่า อำนาจ คณะรัฐมนตรีออกกฎหมายเป็น "พ.ร.ก." ส่วน "พ.ร.บ." ออกโดยสภา
"ในทางการเมือง หากมีแนวทาง ตามข่าวที่ออกมา ฝ่ายที่ผลักดันเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์คือ ต้องการให้ทหารทราบอย่างเป็นระบบโดยทั่วกัน เพราะ ผ่านกระบวนการของสภากลาโหมเป็น การไม่ให้ทหารแตกแถว อีกทั้งสภากลาโหม และสภาความมั่นคง ซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงทั้งระบบของประเทศให้การสนับสนุนทางการเมือง เพราะสามารถควบคุม และได้รับการสนับสนุนฝ่ายกลไกความมั่นคงทั้งหมด ยิ่งผ่านเรื่องไปให้ ครม.จะทำให้เรื่องที่ส่งมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น"
อย่างไรก็ตาม ต้องดูรายละเอียด ของกฎหมายหรือ พ.ร.บ.ที่จะผ่านกระบวนการทั้งหมดก่อน เพราะการที่ พ.ร.บ. ผ่านความเห็นชอบจากสภามาแล้ว ถือว่ามีความชอบธรรม เนื่องจากมีกลไกตรวจสอบฝ่ายค้านได้อภิปรายคัดค้านและเสนอแนะมาแล้ว ส่วน พ.ร.ก. ที่ออกมาต้องเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน การ ที่ให้อำนาจฝ่ายบริหารเป็นคนออก เพราะ เห็นถึงความจำเป็นฉุกเฉิน แต่มีความชอบธรรมน้อย
"รศ.ปณิธาน" ให้ข้อคิดเห็นว่า กฎหมายที่ออกเป็น พ.ร.บ.ได้รับความชอบธรรมเป็นไปตามระบบดีอยู่แล้ว แต่จะนำมาออกเป็น พ.ร.ก.อาจจะเกิดปัญหาตามมาเป็นการสร้างระบบใหม่ เพียงเพื่อตอบสนองการเมืองเท่านั้น!!
ที่ว่านี้ ถ้ายึดโยงในแนวทางการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นั่นเท่า กับว่าเป็นการ "ลัดขั้นตอน" โดยอาศัยแค่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็น ชอบ..ก็สามารถตราเป็นกฎหมายได้ทันที
เพียงแต่ "เงื่อนไข" ที่ว่านี้ จะสำเร็จได้ต้องขึ้นอยู่กับว่า "ผู้นำเหล่าทัพ" จะเอาด้วยหรือไม่..
แรงกระเพื่อมจึงไหลไปสู่ "องค์กรอำนาจ" ในประเทศ โดยเฉพาะ "กองทัพ" ในสถานการณ์ที่พลิกผันในแดนอำนาจ?!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ