ทิสโก้ชี้ตลาดหุ้นโลก ปี 66 เสี่ยงถูกเทขายอีกรอบ แนะทางรอดซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ หรือหุ้นเฮลธ์ฯ และเทคฯ

วันพฤหัสบดีที่ 01 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ทิสโก้ชี้ตลาดหุ้นโลก ปี 66 เสี่ยงถูกเทขายอีกรอบ แนะทางรอดซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ หรือหุ้นเฮลธ์ฯ และเทคฯ


ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้ ตลาดหุ้นพุ่งรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ ชะลอขึ้นดอกเบี้ยไปมากแล้ว ชี้ ปี 2566 นักลงทุนอาจเทขายหุ้นอีกรอบ เพราะอัตราเงินเฟ้อน่าจะยังคงตัวในระดับสูง หนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยไปให้ถึงระดับ 5% หรือมากกว่า และคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปตลอดทั้งปีเป็นอย่างน้อย แถมราคาหุ้นยังไม่ได้ถูก แนะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รับผลตอบแทนดีกว่าหุ้น หรือซื้อหุ้นเฮลธ์แคร์และเทคโนโลยี ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนเด่น    

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU)  เปิดเผยว่า ในปี 2566 ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) มองว่า ตลาดตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐฯ จะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดหุ้น และมีความเสี่ยงยังต่ำกว่ามาก โดยมองว่า Bond Yield สหรัฐฯ ที่ระดับราว 4% ในปัจจุบันนั้น ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจและได้สะท้อนแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ไปมากแล้ว โดยหาก Fed ขึ้นดอกเบี้ยไปหยุดที่ 5% ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 ตามที่คาดไว้  Bond Yield ในปีหน้าอาจจะทรงตัวอยู่ระดับใกล้เคียง 4% ในช่วงปลายปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลดลงในปีหน้าตามการทยอยลดลงของอัตราเงินเฟ้อและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จึงแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐฯ 

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้น สามารถรอจังหวะเข้าทยอยสะสมอีกครั้งเมื่อดัชนี S&P 500 ลงมาต่ำกว่า 3600 จุด โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่กำไรไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจและโตได้ในระยะยาว และหุ้นเทคโนโลยีที่ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก และมีแนวโน้มฟื้นตัวในภาวะที่ Bond Yield เป็นขาลงในปี 2566 

นายคมศรกล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยสนับสนุนมุมมองการลงทุนข้างต้น มาจากที่ในเดือนพฤศจิกายนดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่าง S&P 500 ฟื้นตัวขึ้นมาราว 12% จากจุดต่ำสุดของปีนี้ที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม โดยตลาดหุ้นปรับขึ้นมารับข่าวตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาส่งสัญญาณว่า ในการประชุมเดือนธันวาคม 2565 นี้จะเริ่มชะลอความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ยลงจาก 75 bps ต่อการประชุม ลงเหลือ 50 bps  

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ประเมินว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนได้สะท้อนข่าวดีจากการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ไปมากแล้ว เพราะในอดีตตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P 500) จะฟื้นตัวขึ้นเฉลี่ย 12% ในช่วง 6 เดือนหลัง Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2565 ดังนั้น จึงมองว่าตลาดหุ้นในปัจจุบันได้สะท้อนข่าวดีเรื่องการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม 2565  และการหยุดขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าไปมากแล้ว 

นอกจากนี้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้คาดว่า ในปีหน้าอาจเห็นการเทขายหุ้นได้อีกระลอก เพราะคาดว่า ในปี 2566 อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะยังค้างสูงเกินกว่าระดับ 4% ห่างไกลจากเป้าหมายของ Fed ที่ 2% อยู่มาก นอกจากนั้น การเปิดประเทศของจีนในปีหน้าอาจทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทำให้ Fed จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยไปให้ถึงระดับ 5% หรือมากกว่าและคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปตลอดทั้งปีเป็นอย่างน้อย จึงอาจเป็นปัจจัยลบที่ทำให้นักลงทุนที่คาดว่าจะได้เห็น Fed กลับมาลดดอกเบี้ยในได้ในช่วงปลายปีหน้าผิดหวังและเกิดการเทขายหุ้นได้อีกระลอก

“ที่ผ่านมา จะพบว่า Fed เองก็ยังย้ำถึงความเสี่ยงจากการกลับมาลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป โดยกรรมการ Fed หลายคนได้อ้างถึงบทเรียนในทศวรรษที่ 1970 ที่ Fed ดำเนินนโยบายผิดพลาด โดยขึ้นดอกเบี้ยน้อยเกินไปและกลับมาลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป ซึ่งทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นจาก 5% ในปี 2513 ไปสูงสุดถึง 15% ในปี 2523 ในขณะที่เศรษฐกิจก็เติบโตอย่างกระท่อนกระแท่นและประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอยถึง 4 ครั้งในช่วงระยะเวลาเพียง 10 ปี” นายคมศรกล่าว   

นายคมศรกล่าวอีกว่า หากจะพิจารณาในแง่ของมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นยังนับว่าไม่ได้ถูก โดยค่าอัตราปิดต่อราคาหุ้น (P/E) ของดัชนี S&P 500 ในปัจจุบันอยู่ที่ราว 17 เท่า ซึ่งนับว่ายังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดในช่วงปี 2546 – 2557 ที่ 14 เท่า ก่อนที่ภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยต่ำจะดันให้ตลาดขึ้นมาเทรดที่ค่าเฉลี่ย P/E 18 เท่าในช่วงปี 2558 – 2564 ดังนั้น ตลาดหุ้นก็อาจมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานลงได้อีกหากมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามากระทบ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตรที่ยังคงร้อนแรงและคาดเดาได้ยาก 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ