บริษัทประกันวินาศภัยเปลี่ยน เจ้าของใหม่อีกค่าย ภายหลังนาย ทุนเก่า "ถอดใจ" ตัดสินใจขายหุ้น ที่ถืออยู่มาหลายสิบปีให้กับกลุ่มใหม่ที่เข้ามาขอซื้อต่อ โดยค่ายประกันภัยที่ว่าคือบริษัท พระนคร ธนบุรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่มีเบี้ยประกันภัยปีละแค่ 30 ล้านบาท เล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดของธุรกิจประกันวินาศภัยทั้งระบบ ที่มีเบี้ยรับรวมเกือบ 1.8 แสนล้านบาทและปีนี้จะพุ่งทะลุหลัก 2 แสนล้านบาท บริษัทประกันภัยที่แทบจะไม่เป็นที่รู้จักทั้งที่ก่อตั้งมากว่า 60 ปี
+ "เป๊ปซี่" ขาย "พระนครธนบุรี" {lt}br{gt} + ตระกูล "บัณฑิตกฤษดา" ทุ่มซื้อ
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ให้ข้อมูล "สยามธุรกิจ" ว่า พระนครธนบุรีประกันภัยได้ผู้ถือหุ้นรายใหม่แล้วเป็นกลุ่มธุรกิจตระกูล "บัณฑิตกฤษดา" นำโดยนายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดาที่เข้าซื้อหุ้นใหญ่สัดส่วน 78% ต่อจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม 3 กลุ่มคือ "บุลสุข" อดีตเจ้าของเครื่องดื่ม "เป๊ปซี่" กลุ่ม "ตัน ธุวนิตย์" และกลุ่ม "หวั่งหลี" ที่ขายหุ้นทั้งหมดให้
สาเหตุที่ผู้ถือหุ้นเดิมขายกิจการเพราะหลังจาก "บุลสุข" ขายธุรกิจเครื่อง ดื่ม "เป๊ปซี่" ให้กับนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ เจ้าของ "เบียร์ช้าง" เมื่อปีที่ผ่านมาได้โยกงานประกันภัย ทั้งหมดของเป๊ปซี่ที่เคยส่งให้กับพระนครธนบุรีประกันภัยไปให้บริษัท อาคเนย์ประกันภัยของนายเจริญแทนทำให้เบี้ยประกัน ของพระนครธนบุรีหายไปมาก ทางบุลสุข จึงคิดจะขายกิจการออกไป ซึ่งผู้ถือหุ้นอีก 2 กลุ่มที่เหลือเมื่อเห็นบุลสุขจะขายกิจการ จึงคิดจะขายด้วย
"ที่ผ่านมาพระนครธนบุรีอยู่ได้เพราะ ได้งานจากผู้ถือหุ้นคือเป๊ปซี่ที่ส่งประกันภัย มาให้เขามีกำไรมาตลอด ไม่มีปัญหาเรื่องเงินกองทุน แต่พอบุลสุขขายธุรกิจเป๊ปซี่ออกไปงานหลักที่เคยได้ก็หายไป พอมีคน มาขอซื้อกิจการให้ราคาดีเขาก็ขายเท่าที่ทราบเจ้าของใหม่เขาทำธุรกิจหลายอย่าง เห็นว่ามีธุรกิจขายรถนำเข้าด้วย ตอนนี้เขา ถือหุ้นพระนครธนบุรีประกันภัยอยู่ 78% เป็นสัดส่วนของ 3 ตระกูลที่ขายให้แม้จะกุมอำนาจบริหารแล้วแต่กำลังขอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือจากผู้ถือหุ้นรายย่อยๆ อยู่"
+ เล็งพะยี่ห้อใหม่ "สัญญาประกันภัย" {lt}br{gt} + พร้อมตั้งบอร์ดใหม่คุมทันควัน
แหล่งข่าวกล่าวว่า ทางผู้ถือหุ้นใหม่ ได้เปลี่ยนกรรมการบริหาร (บอร์ด) ชุดใหม่ เข้ามาบริหารบริษัทซึ่งได้รับการอนุมัติจาก คปภ.แล้วมีผลตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่าน มา ซึ่งในบอร์ดชุดใหม่ได้แต่งตั้งกรรมการ ใหม่เพิ่มอีก 3 คนประกอบด้วย นางสาวธิตาพร บัณฑิตกฤษดา, นายศุภชาติ ชาสมบัติ, นายพิศิษฐ์ โพธิเสถียร แทนกรรมการชุด เดิมที่ลาออกไป 3 คนคือ นายไพฑูรย์ ตันธุวนิตย์ ที่ควบตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ, นายสุวัฒน์ ตันธุวนิตย์และนางสาวชลินธร ตันธุวนิตย์
ส่วนกรรมการชุดเดิมที่เหลืออีก 5 คน ประกอบด้วยนายชาคร ลี้ภาวร, นายนำ ตันธุวนิตย์, นายภีม บุลสุข, นายจักรกฤษณ์ บุลสุข และนายฐิติวุฒิ บุลสุข
ยิ่งกว่านั้น เจ้าของใหม่เตรียมจะเปลี่ยน ชื่อบริษัทใหม่เป็น "บริษัท สัญญาประกันภัย" ด้วย ซึ่งทางคปภ.ยังไม่อนุมัติเพราะเกรงจะทำให้ประชาชนทั่วไปสับสนนึกว่าเป็นสัญญาประกันภัยที่เป็นกรมธรรม์ประกันภัยทั่วไป
"ในเรื่องบอร์ดบริหารเชื่อว่าเขาอาจ จะเปลี่ยนกรรมการชุดใหม่เข้ามาอีก เขาขายกันไปเท่าไหร่คปภ.ไม่รู้เป็นเรื่องของธุรกิจ สิ่งที่เราสนใจคือบริษัทต้องมีความแข็งแกร่งและธุรกิจจะเดินไปข้างหน้าอย่างไรมากกว่า เท่าที่ทราบนโยบายของเจ้า ของใหม่จะบุกประกันพ.ร.บ."
+ "หวั่งหลี" ชี้ไม่ได้บริหาร {lt}br{gt} + ราคาขาย 260 ล้าน/กำไร 100 ล้าน
ด้าน "สุจินต์ หวั่งหลี" ประธานบริหาร บมจ.นวกิจประกันภัย กล่าวกับ "สยามธุรกิจ" ว่า ตระกูลหวั่งหลีถือหุ้นพระนครธนบุรีประกันภัยประมาณ 10% นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทร่วมกับตระกูลเก่าอื่นๆ นอกจาก บุลสุขและตันธุวนิตย์แล้วยังมีล่ำซำด้วยที่ผ่านมาทางหวั่งหลีถือหุ้นอย่างเดียวไม่ได้ร่วมบริหาร วันหนึ่งทางบุลสุขแจ้งว่ามีคนมาขอซื้อบริษัทจึงต้องการจะขายหุ้นออกไปตนเห็นว่าในเมื่อไม่ได้บริหารแล้วมีคนมาขอซื้อจึงตัดสินใจขายด้วยเท่าที่ทราบน่าจะขายไประมาณ 260 ล้านบาท กำไรประมาณ 100 ล้านบาทเทียบจากมูลค่าทางบัญชีของ บริษัท 160 ล้านบาท
"จริงๆ พระนครธนบุรีมีกำไร มีปันผลทุกปี ปีละ 10-15% แต่ช่วงหลังเมื่อไม่มีงานจากเป๊ปซี่เบี้ยหายไปมากเหลือ ประมาณ 30-40 ล้านบาท เรามองว่าอาจจะอยู่ยาก เมื่อมีคนมาขอซื้อเลยขาย ออกไป การที่มีคนมาซื้อแสดงว่าเขาคงมอง เห็นบางอย่างในบริษัท"
+ เผยทุนใหม่ทำธุรกิจเกรย์มาร์เก็ต {lt}br{gt} + วงการแฉ! เหล้าเก่าในขวดใหม่
"สยามธุรกิจ" ตรวจสอบพบว่านาย สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา เป็นกลุ่มทุนไทยที่ ไปทำธุรกิจในฮ่องกงหนึ่งในธุรกิจหลักคือการเป็นผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ (เกรย์ มาร์ เก็ต) เป็นกลุ่มที่มีเงินทุนแต่ไม่มีมือทำธุรกิจประกันภัยรถยนต์ที่บริษัทวางไว้เป็นธุรกิจหลัก โดยล่าสุดได้ดึงตัวมือเก่าที่คุมประกันภัยรถยนต์ที่เคยอยู่บริษัทธนสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่มีปัญหาในอดีต ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) มาดูแลซึ่งก็คือนายไชยศักดิ์ เกียรติกำจรยศ (ชื่อเดิมสุรศักดิ์) ซึ่งในช่วง 1-2 วันนี้ประชุมตัวแทนนายหน้าชี้แจงเรื่องนี้อยู่
แหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัยแห่ง หนึ่งให้ความเห็น "สยามธุรกิจ" ว่า การประกอบธุรกิจประกันภัยในช่วงหลังยากกว่าในอดีตต้องใช้เงินทุนเพิ่มขึ้นทั้งจาก กฎหมายและระเบียบใหม่ๆ ของภาครัฐ อาทิ RBC, การบังคับเป็นบริษัทมหาชน, มาตรฐานบัญชีใหม่ เป็นต้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้น อาทิ เงินเดือนพนักงาน การแข่งขันในตลาด อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของภัยธรรมชาติต่างๆ ที่มีแนวโน้มเกิดมากขึ้นโดยเฉพาะหลังน้ำท่วมปี 2554