Toggle navigation
วันศุกร์ ที่ 20 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
กอบกู้ข้าวไทย
กอบกู้ข้าวไทย
วันพุธที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Tweet
สะบัดร้อนสะบัดหนาว : ณรงค์ ปานนอก
"ข้าวตราฉัตร" ได้นัดหมายกับสมาชิกชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย เพื่อไปเยี่ยมชมโครงการผลิตข้าวหอมมะลิด้วยกระบวนการเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในโลก ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในวันเสาร์ที่ 27 เดือนนี้ โดยนัดหมายล่วงหน้ามาก่อนตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว
เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 วัน "ข้าวตราฉัตร" ก็โดน "แจ็กพอต" จากข่าวสารทางโซเชียลมีเดีย ด้วยความผิดพลาดของเฟซบุ๊กส่วนตัวของคุณสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ พิธีกร สื่อรายการ "คน ค้น ฅน"
"ข้าวตราฉัตร" เอย "ข้าวเบญจรงค์" เอย โดนพายุโซเชียลมีเดียโหมข้อมูลที่ไม่กลั่นกรองอย่างดีพอ กระแทกยิ่งกว่าหมัดนักมวยรุ่นยักษ์เสยเข้าจน "คางเหลือง" ไปตามๆ กัน
คุณสุทธิพงษ์ หรือคุณเช็ค มีวุฒิภาวะและมีจิตสำนึกสูงต่อความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในชีวิต เขาจึงกล้าออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณชน และขออภัย อย่างแรงจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมารับผิดให้ดีที่สุด นอกจากประกาศให้ทุกคนรู้ว่า ตนเองผิดและควรรับผิดชอบอย่างไรก็สุดแท้แต่เจ้าทุกข์จะลงทัณฑ์
"ข้าวตราฉัตร" ในฐานะเจ้าของแบรนด์ใหญ่ เมื่อคู่กรณีกล้ารับผิดชอบ มีหรือที่ทุนใหญ่จะใจไม้ไส้ระกำ ตั้งหน้าราวีให้ตายกันไปข้าง
ผมเห็นคนผิด กล้ารับผิด และคู่กรณีให้อภัยกันแบบนี้ มันจึงเป็นภาพลักษณ์ที่สังคมไทยควรจะจรรโลงยึดเหนี่ยวไว้ให้ดีและยั่งยืนยาวนาน
เหตุครั้งนี้สามารถเป็นบทเรียนไปถึงสังคมการเมือง ว่าด้วยกิริยามารยาท และขนบธรรมเนียมประเพณีของการ "ให้อภัยซึ่งกันและกัน" นั้น มีแต่จะหลอมจิตใจมนุษย์ให้เข้าใจกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อร่วมกันเอาชนะเพทภัยต่างๆ ได้อย่างชะงัด... โดยเฉพาะภัยมืดและภัยกลางแจ้งที่มาจากต่างแดนอีกหลายร้อยพันระลอก
ยิ่งเป็น "ข้าวไทย" ไม่ว่ายี่ห้อไหน กำลังยกระดับให้เป็นข้าวที่ชาวโลกมีความต้องการสูงมาก เครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่จึงต้องการให้คนไทยด้วยกันได้รู้จัก และเข้าใจถึงวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐานโลก จนสามารถส่งออกไปขายได้ในราคาแพงมีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าข้าวพันธุ์อื่นของทุกชาติ
เมื่อมรสุมที่คนไทยด้วยกัน ทำท่าว่าจะทำลายคุณค่าของข้าวพันธุ์ไทยกันเองได้ผ่านไปแล้ว ก็ควรมาทำความเข้าใจเจตนารมณ์ของ "ข้าวตราฉัตร" ในมิติของการพัฒนาคุณภาพเพื่อส่งไปป้อนชาวโลกกันบ้าง
เครือซีพีลงทุนสร้างแบรนด์ "ตราฉัตร" ให้เป็นข้าวคุณภาพสูง เพื่อเตรียมต้อนรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มีกำลังผลิต 3,600 ตันต่อวัน หรือกว่า 1 ล้านตันต่อปี และส่งออกไปขายต่างประเทศ 80% ใน 120 ประเทศทั่วโลก... โดยใช้เทคโนโลยีทำข้าวสะอาด คัดแยกสิ่งเจือปนและแยกหิน ทั้งขัดมัน ใช้ตะแกรง คัดข้าวเต็มเมล็ด แยกสี แยกเศษแก้วหรือเม็ดพลาสติกที่เจือปนด้วยกล้องและเซ็น-เซอร์พิเศษ ซึ่งถือว่าใช้กระบวนการผลิตที่สุดยอดแล้ว
เมื่อเห็นตัวเลขลงทุนสูงถึง 3,000 ล้านบาท นี่ก็น่าจะบ่งบอกการทำงานที่หวังประสิทธิภาพสูงสุด
ไม่มีใครบ้าลงทุนเป็นพันๆ ล้านมาเพื่อจะผลิตข้าวที่ใส่สารเมทิลโบรไมด์เกินมาตรฐานความปลอดภัยของโลก เพื่อฆ่าตัวเองกันง่ายๆ เพียงเพราะการป้ายสีข้อมูลที่หาที่มาที่ไปด้วยความคึกคะนอง โดยไม่ได้พิจารณาให้รอบคอบ
ผลพลอยได้ของแหล่งผลิตข้าวคุณภาพสูง คือการสร้างท่าเรือขนส่งทางแม่น้ำ ที่อยุธยาออกสู่ทะเล ซึ่งเป็นการลดต้นทุนการขนส่ง ลดปริมาณการจราจรบนถนนและ คำนวณเป็นตัวเลขประหยัดค่าใช้จ่ายทางถนนได้อีกนับร้อยล้านบาทต่อแสนตู้คอน-เทนเนอร์
อะไรไม่สำคัญเท่า ข้าวไทยส่งไปญี่ปุ่นหลายแสนตันมายาวนานไม่เคยมีประวัติ ถูก Reject จากญี่ปุ่นแม้แต่ล็อตเดียว จึงเป็นเครื่องการันตีถึงความปลอดภัยระดับมาตรฐานโลก
มันเป็นไปได้หรือ ที่ข้าวไทยจะมาบรรลัยเพราะน้ำมือคนไทยกันเอง?
แต่ในความเป็นจริงอาจมีข้าวไทยบางล็อต บางเจ้า มีปัญหากับบางชาติได้ ซึ่งเป็นธรรมดาของทุกวงการ แต่ก็ควรมีหน่วยงานตรวจสอบป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา จนถึงขั้นไปทำลายข้าวส่วนใหญ่ที่รักษามาตรฐานดีให้ล่มสลายไปด้วย
ถ้าสถานการณ์วันนี้ มันคลุกฝุ่นจนไม่รู้ว่า กิจการของคนไทย และข้าวไทยเราควรจะสนับสนุนหรือสาปส่งให้ล่มจมกันแน่ ก็ควรตั้งสติมองตัวตนว่า เราเป็นใคร ควร รักและหวงแหนผลผลิตที่เป็นฝีมือของคนไทยด้วยกันหรือไม่
เราสร้าง "เครดิต" ข้าวไทยให้มีชื่อเสียงดังก้องไปทั้งโลกมาถึงขนาดนี้แล้วก็ควรจะรังสรรค์และกอบกู้ภาพลักษณ์ให้ข้าวไทยเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืนต่อไปให้นานเท่านาน
มัวแต่ล่อกันเอง...พอเงยหน้าดูอีกที มีแต่สินค้าแบรนด์ต่างชาติครอบงำเต็มบ้านเมืองเราหมด มันน่าภูมิใจตรงไหนหรือครับพี่น้อง?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ