แม่ปู...เอาอยู่ ปชป.เกาไม่ถูกที่คัน?!

วันพุธที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แม่ปู...เอาอยู่ ปชป.เกาไม่ถูกที่คัน?!


เป้าหมายหลักของการรื้อแผงคณะรัฐมนตรี "ยิ่งลักษณ์ 1/5" มันย่อมเป็นไปเพื่อกอบกู้สถานการณ์ "ขาลง" ทางการเมืองของรัฐบาลให้กลับมาทรงตัว หรือพุ่งทะยานขึ้นสู่แดนบวก เหมือนในช่วงแรกที่ "พรรคเพื่อไทย" เข้ามาเกาะกุมอำนาจรัฐ

นับแต่รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เข้ามาบริหารประเทศตลอด 2 ขวบปีในครึ่งเทอมแรก ดูเหมือนต้องเผชิญแรงเสียดทานรอบด้าน โดยเฉพาะวิกฤติ ศรัทธาของประชาชน ที่นับวันรัฐบาลยิ่งจะเสื่อมถอย! จนความน่าเชื่อถือลดลงไปทุกที

ที่เป็นสิ่งสำคัญและทำให้รัฐบาลต้องดิ้นเป็นลิงแก้แหอยู่เช่นทุกวันนี้ ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องความล้มเหลวในเชิง การบริหารนโยบายแห่งรัฐ

กลายเป็นจุดตายที่บั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาล จนแทบล้มคว่ำกลางกระดานอยู่หลายครั้งหลายหน โดยเฉพาะพิษรับจำนำข้าว ที่ถูกเปิดโปงและมีกระแสโจมตีอย่างหนักหน่วง ทั้งเรื่องสต็อกลม..ข้าวสวมสิทธิ์..วนใบประทวน..รวมไปถึงสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีที่ยังล่องลอย ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อครหาที่ "รัฐบาลปู" โดนกระทุ้งแรงๆ จากพรรคฝ่ายค้านมาโดย ตลอด

จนสุดท้ายแผลแตกรัฐบาลต้องออกมายอมรับเองว่า โครงการรับจำนำ ข้าวผ่านไป 1 ปี ทำรัฐเจ๊งไปแล้วกว่า 1.36 แสนล้านบาท

อันเป็นเหตุแห่งอาการชักเข้า ชักออกในการเคาะราคาจำนำข้าวจาก 15,000 บาทต่อตัน มาเป็น 12,000 บาท ต่อตัน ก่อนจะขยับใหม่ให้นาปรังปี 2556 กลับมาอยู่ที่ 15,000 บาทต่อตัน แต่ชาวนายังไม่ทราบว่ารัฐบาลจะสามารถ ยืนราคานี้ในนาปี 56-57 และฤดูกาลถัดไปได้หรือไม่...

"สัญญาประชานิยม" เริ่มเกิดอาการแกว่ง!! เหตุเพราะปัญหาสีเทาๆ ของนักการเมือง จึงนำไปสู่การตั้งแท่น เชือดการระบายข้าวของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ที่เริ่มรุกคืบมาหายใจ รดต้นคอ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์"

จากปัญหาการบริหารโครงการรับจำนำข้าวที่ผิดพลาดของรัฐบาล แม้แต่คนกันเองอย่าง "ดร.โกร่ง" วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ก็ยังออกมาท้วงติงตั้งแต่ต้นว่า โครงการรับจำนำข้าวจะทำรัฐบาลพัง...

จากวันนั้นถึงวันนี้ น้ำเสียงในการท้วงติงของ "ดร.โกร่ง" ยังไม่เปลี่ยน ในทางกลับกัน ได้ยกระดับการท้วงติงว่าหากดึงดันเดินหน้าโครงการรับจำนำ ข้าวตันละ 15,000 บาทต่อไป มันจะก่อ เกิดความเสียหายถึงขั้นทำให้ชาติพัง

สำทับด้วย "ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" อดีต รมว.กระทรวงคลัง ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ได้เฟซบุ๊กตอกฝาโลงโครงการรับจำนำข้าวว่า...จะส่งผลร้ายต่อหนี้สาธารณะที่จะถีบตัวสูงขึ้น รวมไปถึงมีผลกระทบไปถึงการลงทุนของภาคเอกชน

ทั้งหมดทั้งปวง จึงเป็นเหตุรีบด่วน ที่นำไปสู่การปรับ ครม.ชุดใหม่ เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยแห่งความล้มเหลว หวัง ลุยฝ่าวิกฤติไปให้ได้จนครบเทอม!!!

แต่ถึงกระนั้น "รัฐบาลปู" ก็คงมีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญทั้งศึกนอกและศึกภายในรัฐบาล ที่พร้อมจะปะทุกลาย เป็นระเบิดเวลาทางการเมืองลูกใหญ่ ที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง...

ศึกนอกที่กำลังสั่นคลอนเสถียร- ภาพของรัฐบาลอย่างหนักหน่วง คือ พิษจากโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายมหาศาล พร้อมกับเงื่อนงำการทุจริตมโหฬาร เช่นเดียวกับ "เงินกู้ป้องกันน้ำท่วม" มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ที่ส่อเค้าถึงความไม่โปร่งใส ซึ่งล่าสุด "ภาคประชาชน" ได้ยื่นร้องเรียนต่อศาลปกครอง จนศาลมีคำสั่ง ให้รัฐบาลชะลอโครงการและจัดทำประชาพิจารณ์ก่อนลงนามในสัญญาประมูลโครงการ รวมทั้งยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใส ของโครงการนี้

ขณะที่ "ฝ่ายค้าน" ก็ได้ยื่นเรื่องถอดถอน "ครม.ยิ่งลักษณ์" ทั้งคณะ โดยซัดข้อหาใส่รัฐบาลว่า ดันทุรังเดินหน้าโครงการ ทั้งๆ ที่ทำผิดกฎหมายถึง 5 ฉบับ

นี่ยังไม่รวมถึง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นการก่อภาระ หนี้มูลค่ามหาศาลท่ามกลางความไม่โปร่งใสของโครงการที่ส่อไปในทางไม่ชอบมาพากล โดยพรรคเพื่อไทยเองก็พยายามเร่งรัดเลื่อนการพิจารณา กฎหมายร้อนฉบับนี้เป็นวาระแรกทันทีเมื่อเปิดประชุมสภาสมัยสามัญเดือนสิงหาคมนี้

อีกด้านหนึ่งคือ "ศึกใน" ที่ล้วนแต่เป็นปัญหาสุมอกภายในป้อมค่ายเพื่อไทยเอง ก็ย่อมส่งผลให้รัฐบาล ต้องตุปัดตุเป๋..เป็นปูนาขาเก

โดยศึกภายในที่ว่านี้ มันก็มาจากผลพวงของการปรับ "ครม.ยิ่งลักษณ์ 1/5" สะท้อนให้เห็นจากความไม่พอใจของเหล่า ส.ส.ภาคอีสาน และมุ้งภาคเหนือ อันเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรค เพื่อไทย จากการที่มีการดึงคนนอกพรรคมาเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่ควรจะแต่งตั้ง รัฐมนตรีที่มาจากโควตา ส.ส.ภาคอีสาน และภาคเหนือ

ที่สำคัญคือ 2 ตัวละครสำคัญอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ อันดับ 1 ที่คุมงานด้านความมั่นคง ก็ยังถูกลดชั้นไปเป็น รมว. กระทรวงแรงงาน สร้างความไม่พอใจแก่ "สิงห์เหลิม" เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับ "เดอะตู่" จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่พลาดหวังเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 3 ทั้งที่เคยมีการรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ..จากผู้กุมอำนาจตัวจริงในรัฐบาล ถึงขั้นให้คนหอบ กระเช้าใบโตมาปลอบใจ แต่ก็มิอาจกลบเกลื่อนอารมณ์น้อยใจของ "จตุพร" ลงได้

เป็นผลให้บรรดาคอการเมือง ต่างเดากันไปว่า "เฉลิม-จตุพร" อาจแตกหักกับ "เจ้าของรีโมตทางไกล" ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ถ้าวิเคราะห์จากสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักของ "รัฐบาลปู" ตลอด 2 ขวบปีที่ผ่านมาก็จะปรากฏว่า ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้รัฐบาลอยู่ได้ นอกจากเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร หรือกองเชียร์ ในฝั่งคนเสื้อแดงแล้ว ส่วนหนึ่งมันก็มาจาก "ความอ่อนแอ-อ่อนด้อย" ของพรรคฝ่ายค้านอาชีพอย่าง "ประชาธิปัตย์"

ที่แม้แต่คนกันเองอย่าง "เดอะจ้อน" อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมากระทุ้งแรงๆ ว่า..ต้องปฏิรูปป้อมค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม ก่อนที่เรื่องราวเหล่านี้ จะเงียบหายไปในที่สุด

ขณะที่ "ประชาธิปัตย์" ก็มีโอกาสตั้งมากมาย ที่จะสามารถปล่อยหมัดเสย ปลายคางรัฐบาลปูได้ แต่สุดท้ายทีมงานหล่อขั้นเทพ ก็ต้องจั่วลมเป็นว่าเล่น...ด้วยสถานะและคะแนนสงสาร ที่เทมาอุ้มสตรีหมายเลขหนึ่ง ที่ชื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"

ยิ่งหากลงลึกไปยังความล้มเหลวของสถาบันการเมืองเก่าแก่แล้ว ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า ภาพลักษณ์การเป็น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ "หล่อดีเลย์" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่แข่งกับ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ยังเป็นปัญหาในเรื่อง "ทางเลือกของประชาชน" ที่ค่อนข้างจำกัดจำเขี่ยในปริมณฑลการเมืองไทย

ถ้าแคนดิเดต "นายกรัฐมนตรี" ของประชาธิปัตย์เป็น "ศุภชัย พานิชภักดิ์" หรือเป็น "สุรินทร์ พิศสุวรรณ" รวมถึงบุคคลประเภทดี-เด่น-ดัง เข้ามา ขึ้นโพเดี้ยมแทนที่ "อภิสิทธิ์" แล้วพอเชื่อมโยงกับสภาวะขาลงของ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" หากหัวขบวนไม่ใช่ "อภิสิทธิ์" ป่านนี้ "ปูแดง" คงดิ้นสำลักน้ำไปตั้งนานแล้ว

แต่หาก "ประชาธิปัตย์" ยังคงยึดมั่นถือมั่นในขุนพลหน้าหล่อหน้าเดิม คนนี้ ต่อให้ "นายกฯ ปู" พลาดท่า..ทำพังอีกสักกี่ครั้ง มันก็เป็นความโชคดีบน ความล้มเหลวที่คู่แคนดิเดต "ผู้นำประเทศไทย" ยังชื่อ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ...

มันจึงมีอานิสงส์ไปถึงการยุดยื้อ ในเกมแห่งอำนาจ..ที่ทำให้ "ผู้นำหญิง" ยังคงรักษารัฐบาลให้อยู่ได้และ...เอาอยู่กับสารพัดปมปัญหาที่ประเดประดังเข้ามา!!


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ