นายวรเศรษฐ์ ตันติศิริวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.กริม แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของตลอดเครื่องปรับอากาศของประเทศไทยในช่วง 9 เดือน ของปี 2565 ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวน มีลมมรสุม พายุ ตลอดจนฝนตกเป็นระยะ ซึ่งทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และสงครามยูเครน ส่งผลให้ตลาดเครื่องปรับอากาศโดยรวมเติบโตน้อยลง อยู่ที่ราว 5% จากมูลค่าตลาดราม 3.9 หมื่นล้านบาทในปี 2564 แบ่งเป็นแอร์บ้านราว 2.5 หมื่นล้าน และแอร์พาณิชย์ราว 1.4 หมื่นล้านบาท เนื่องมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงและการขาดแคลนชิ้นส่วนในภาคการผลิต
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่าในปี 2566 ภาพรวมตลาดจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวกลับสู่สภาวะปกติ จากการที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก และการกลับมาจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชน ขณะที่ตัวเลขผลประกอบการของแอร์แคเรียร์ ปี 2564 เติบโตสวนทางตลาดอยู่ที่ 14% หรือประมาณ 900 ล้านบาท สำหรับในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2565 ทางแบรนด์ทำการเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ไว้อย่างครอบคลุม จึงไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการหดตัวของสภาพเศรษฐกิจ โดยสามารถทำยอดขายเฉพาะสินค้าในกลุ่มติดผนัง เติบโตขึ้น 21% และตั้งเป้ายอดขายปี 2565 โตขึ้น 10% หรือมียอดขายประมาณ 8 พันล้านบาท จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ในรุ่นเรือธงเพิ่มเติม อีกทั้ง ในปีหน้า 2566 บริษัทก็ได้วางแผนเตรียมจะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 1-2 รายการ รวมถึงเตรียมโปรโมชั่นธีมเซฟค่าไฟอีกครั้งเพื่อกระตุ้นการขายในช่วงหน้าร้อนที่นอกจากจะเป็นจังหวะขายสำคัญแล้ว ยังเป็นช่วงที่ผู้บริโภคจะรู้สึกถึงค่าไฟที่เพิ่มขึ้นได้มากที่สุด ทำให้แคมเปญธีมเกี่ยวกับค่าไฟได้ผลดีเป็นพิเศษ เชื่อว่าจะช่วยให้สร้างยอดขายให้เติบโตและเสริมแกร่งให้กับตำแหน่งเบอร์ 2 ของตลาดแอร์ด้วยส่วนแบ่งประมาณ 20% ได้อย่างแน่นอน
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปหลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 ผนวกกับการปรับอัตราค่าไฟฟ้าที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคในวงกว้าง ดังนั้นแคเรียร์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องปรับอากาศชั้นนำระดับโลก และผู้นำด้านนวัตกรรมประหยัดพลังงานของเครื่องปรับอากาศ โดยในปีนี้เราได้วางแผนปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีสินค้าที่คุ้มค่า สมราคา มีคุณภาพ และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายตามความต้องการที่แตกต่างกัน ทั้งกลุ่มที่เน้นความเย็นแบบสะอาด ประหยัดพลังงาน ดีไซน์ และเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังสถานการณ์โควิด-19
ล่าสุด ได้เปิดตัวสินค้ารุ่นเรือธงอย่างเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ 2 ซีรีส์ใหม่ล่าสุด คือ Carrier Color Smart และ Carrier XInverter Plus ซึ่งตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ปรับโฉมได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน พร้อมโดดเด่นในเรื่องการประหยัดพลังงาน และมีนวัตกรรมความเย็นที่แตกต่างสำหรับทุกคนในครอบครัว พร้อมเดินหน้ารุกตลาดด้วยแคมเปญใหญ่แห่งปี ‘เซฟค่าไฟ แค่ใช้แอร์แคเรียร์’ ที่ให้คุณกล้าเปิดแอร์ได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟฟ้า เพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 120 ปีอย่างยิ่งใหญ่ และตอกย้ำปณิธานของแคเรียร์ที่ว่า ‘เครื่องปรับอากาศแคเรียร์ นวัตกรรมความเย็นเพื่อความสุข’ เพื่อให้ทุกคนเดินหน้ายุคสมาร์ทไลฟ์ด้วยนวัตกรรมจากแคเรียร์ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ นอกจากแคมเปญ “เซฟค่าไฟ แค่ใช้แอร์แคเรียร์” ทางแคเรียร์ยังได้ทำการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 120 ปี ได้แก่ Carrier Color Smart และ Carrier XInverter Plus ซึ่งทำการปรับโฉมใหม่ และเพิ่มสีสันใหม่ให้เลือกอีก 3 สี ได้แก่ ชมพู เขียว ส้ม โดยเน้นรูปลักษณ์สวยงาม ทันสมัย พร้อมดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกการออกแบบ เข้ากับทุกสไตล์การแต่งบ้านอย่างลงตัว ตลอดจนมีฟีเจอร์ที่ครบครันและมากที่สุด เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน เป็นเสมือนส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของคุณ ได้แก่ ความประหยัดพลังงานเบอร์ 5 สูงสุด 3 ดาว, การฟอกอากาศและลดการเกิด P.M. 2.5 เทคโนโลยีแรงลมเย็นแบบไม่ปะทะตัว รวมถึงมีระบบล้างตัวเองอัตโนมัติ โดยในปีนี้มีการเพิ่มฟังก์ชั่น Wi-Fi build in ในรุ่น XInverter Plus เพื่อใช้สั่งการด้วยเสียงผ่าน Wi-Fi ได้อย่างแม่นยำ รวมถึงสามารถเช็คค่าไฟแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน Carrier in the Air ได้อีกด้วย
“ตลอดระยะเวลากว่า 120 ปีที่ผ่านมา แคเรียร์คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศที่เน้นในเรื่องความประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่ดี คุ้มค่า คุ้มราคา ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้เกิดจากแนวคิดที่ต้องการให้ผู้บริโภคเข้าใจการใช้เครื่องปรับอากาศที่ถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภค พร้อมสร้างความแตกต่างให้เป็นสินค้าที่อยู่ในใจของทั้งตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคทั่วประเทศต่อไป” นายวรเศรษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย