กรมทางหลวงช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย พร้อมสรุปสถานการณ์บนทางหลวง ประจำวันที่ 5 ต.ค. 65 ผลกระทบ 18 จว. สัญจรไม่ได้ 20 แห่ง

วันพุธที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2565

กรมทางหลวงช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย พร้อมสรุปสถานการณ์บนทางหลวง ประจำวันที่  5 ต.ค. 65 ผลกระทบ 18 จว. สัญจรไม่ได้ 20 แห่ง


กรมทางหลวงร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลงพื้นที่ เพื่อให้กำลังใจประชาชน พร้อมเร่งระบายน้ำและบำรุงรักษาเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่มีความห่วงใย จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น “โนรู” พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยประชาชนอย่างทันท่วงที  พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดยสถานการณ์ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2565 เวลา 15.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ในพื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์, จ.เลย, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์, จ.บุรีรัมย์, จ.นครราชสีมา, จ.ขอนแก่น, จ.มหาสารคาม, จ.ชัยภูมิ, จ.อุบลราชธานี, จ.หนองบัวลำภู, จ.ร้อยเอ็ด, จ.ลพบุรี, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.ลำปาง, จ.ปราจีนบุรี, และ จ.นครสวรรค์  จำนวน 55 สายทาง จำนวน 74 แห่ง ทางหลวงที่การจราจรผ่านได้ 54 แห่ง  การจราจรผ่านไม่ได้ 20 แห่ง ในพื้นที่ 9 จังหวัด โดยทุกจุดมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รายละเอียดดังนี้

1. จังหวัดขอนแก่น จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 229 ตอน บ้านไผ่ – มัญจาคีรี ในพื้นที่ อ.มัญจาคีรี ช่วง กม.ที่ 23+800 – 24+595 ระดับน้ำ 50 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

2. จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่

    - ทางหลวงหมายเลข 201 ตอน บ้านลี่ – สี่แยกโรงต้ม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่115+100 – กม.119+000 ระดับน้ำ 60 ซม. 
    - ทางหลวงหมายเลข 2179 ตอน จตุรัส – บำเหน็จณรงค์ ในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ ช่วง กม.ที่ 13+500 – 13+600 น้ำกัดเซาะคันทางชำรุด ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าจะผ่านได้ 7 ต.ค. 65

3. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ 

    - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+900 – 313+384 ระดับน้ำ 60 – 70 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
    - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500 + 29+000 ระดับน้ำ 40 - 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
    - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 35 ซม.
    - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 103+500 – 107+125 ระดับน้ำ 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
    - ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 70 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

4. จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ลำน้ำชี – บ้านพม่า ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 162+750 – 164+600 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2485 และ ทล.293 แทน

5. จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2378 ตอน สะพานบุรีรินทร์ – ไทรงาม ในพื้นที่ อ.สตึก ช่วง กม.ที่ 20+00 – 20+650 ระดับน้ำ 50 ซม.

6. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 3 แห่ง 
    - ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 80 ซม. แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี
    - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400 – 314+200 ระดับน้ำ 50 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
    - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 320+200 ระดับน้ำ 90 ซม.

7. จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 228  ตอน ศรีบุญเรือง – วังหมื่น ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง ช่วง กม.ที่ 84+400 – 86+200 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

8. จังหวัดลพบุรี จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
    - ทางหลวงหมายเลข 205 ตอน คลองห้วยไผ่ – เทศบาลลำนารายณ์ ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 69+300 – 71+000 ระดับน้ำ 40 ซม. 
    - ทางหลวงหมายเลข 2243 ตอน บัวชุม – สี่แยกบัวชุม ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 1+100 – 3+050 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
    - ทางหลวงหมายเลข 2275 หนองบง – ซับลังกา ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 0+500 - 4+200 ระดับน้ำ 30 - 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

9. จังหวัดอ่างทอง จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
    - ทางหลวงหมายเลข 33 ตอน นาคู – ป่าโมก ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000 – 36+200 ระดับน้ำ 30 ซม. 
    - ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 9+900 – 10+400 ระดับน้ำ 30 ซม.
    - ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 10+400 – 11+000 ระดับน้ำ 30 ซม.

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  นอกจากนี้กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ