สสว. โชว์ผลงานการช่วยเหลือ SME ผ่านมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน”

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2565

สสว. โชว์ผลงานการช่วยเหลือ SME ผ่านมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน”


สสว. แถลงผลงานช่วยเหลือ SME ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS ตามมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน” มียอดสมัครกว่า 2,000 ราย เดินหน้าเปิดเฟส 2 ตั้งเป้าช่วย SME ให้ได้กว่า 6,000 ราย พร้อมเพิ่มหน่วยผู้ให้บริการทางธุรกิจ และปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ประกอบการมากขึ้น

รศ.ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “จากการที่ สสว. เปิดตัวมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือ Business Development Service ปี 2565  ภายใต้แนวคิดที่ต้องการช่วยผลักดันให้ SME ได้มีโอกาสเข้าถึงการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนายกระดับศักยภาพในด้านต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์  ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับธุรกิจ รวมถึงสามารถเปรียบเทียบราคาบริการ และต่อรองราคาจากหน่วยงานต่าง ๆ บนระบบ BDS ได้ด้วยตนเอง และ สสว. จะช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายแบบร่วมด้วยช่วยจ่าย (Co-Payment) ในสัดส่วนร้อยละ 50 – 80 ตามขนาดของธุรกิจ สูงสุดถึงรายละ 200,000 บาท

จากการเปิดตัวในเฟสแรก สสว. ได้เปิดบริการใน 3 หมวด คือ การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ  พบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  มีผู้ประกอบการ SME สมัครเข้าใช้งานบนระบบแล้วกว่า 2,000 ราย ได้รับอนุมัติยืนยันตัวตน จัดกลุ่มการอุดหนุน และเตรียมยื่นการพัฒนาแล้วกว่า 600 ราย และมีผู้ประกอบการได้รับอนุมัติข้อเสนอการพัฒนาและอยู่ระหว่างการพัฒนากว่า 300 ราย ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มการค้าส่งและค้าปลีก กลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ยาและสมุนไพร และกลุ่มท่องเที่ยว  นอกจากนี้พบว่าผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติยืนยันตัวตน และจัดกลุ่มการอุดหนุนจำนวน 600 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดย่อม (SE) มากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจรายย่อย (Micro SME) และกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง (SE+/ME) ตามลำดับ

ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติข้อเสนอการพัฒนาและเริ่มดำเนินการพัฒนาแล้วกว่า 300 ราย ส่วนใหญ่เลือกบริการด้านการยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการ เช่น

  • บริการการจัดทำฉลากโภชนาการ และบริการประเมินอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ (Shelf Life Evaluation) โดย สถาบันอาหาร 
  • บริการตรวจวิเคราะห์ความปลอดภัยของอาหาร โดย บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด 
  • บริการทดสอบผลิตภัณฑ์ เพื่อขอรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) โดย สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 
  • บริการเตรียมความพร้อมเพื่อขอการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 ระบบบริหาร คุณภาพ (Quality Management System : QMS) โดย สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย

สำหรับบริการในด้านการตลาดมีผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอการพัฒนาโดยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและจำหน่ายสินค้า CARE ASIA “Total Solutions for Health & Wellness” เมื่อ 1 - 4 กันยายน 2565 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยใช้บริการผ่านสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ  ซึ่งจากการสรุปวงเงินที่ได้รับอนุมัติไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ สสว. ให้การอุดหนุนประมาณร้อยละ 80 คิดเป็นวงเงินงบประมาณ 15 ล้านบาท โดยคาดว่าผู้ประกอบการ SME จะได้ประโยชน์จากการใช้บริการและเกิดผลลัพธ์เป็นมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 30 ล้านบาท 

ทั้งนี้ นอกจากผลลัพธ์ในเชิงเศรษฐกิจแล้ว มาตรการ SME ปัง ตังได้คืน จะสร้างให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานผู้ให้บริการทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันในการสร้างโอกาส และร่วมขับเคลื่อนสร้างการเติบโตให้ผู้ประกอบการ SME  โดยปัจจุบันมีผู้ให้บริการทางธุรกิจซึ่งเป็นส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ที่ขึ้นทะเบียนบนระบบ BDS แล้วกว่า 90 หน่วยงาน และขึ้นบริการขึ้นบนระบบแล้วกว่า 120 บริการ”

นายวีระพงศ์ กล่าวเสริมว่า “สสว. ยังคงเดินหน้าในเฟสที่ 2 โดยนำข้อคิดเห็นจากผู้ประกอบการและมาปรับปรุง โดยทราบว่ามีผู้ประกอบการต้องการเข้าร่วมมาตรการอีกจำนวนมาก ดังนั้น สสว. จึงขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการไปจนถึงกันยายน 2566 และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME สามารถยื่นข้อเสนอการพัฒนาได้จนถึง 31 สิงหาคม 2566  รวมทั้งจะเร่งสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการธุรกิจ และเพิ่มบริการใหม่ ๆ ให้มากขึ้น เช่น บริการของโรงงานต้นแบบ หรือ Prototype Plant จากอุทยานวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ  เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสในการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ กลุ่ม Micro SME ที่จะสามารถเข้าไปใช้ในการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานในราคาต้นทุนการดำเนินงานไม่สูงและสามารถทำเป็นครั้ง ๆ ได้  หรือ กลุ่ม SE และ SE+ สามารถใช้บริการทดลองเพื่อผลิตสินค้าหรือใช้บริการเครื่องจักร หรือเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อทดสอบการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าและมาตรฐานสูงได้

สสว. จะปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ให้เข้าถึงผู้ประกอบการมากขึ้น เช่น จะเปิดให้ SME ที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2564 สามารถขอรับบริการได้  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีรายได้ไม่เกิน 1,800,000 บาท สามารถขอรับบริการได้โดยแนบเอกสารรายรับ รายจ่าย และเอกสารการยืนยันสถานะการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ รวมไปถึงการเพิ่มผู้ประกอบการกลุ่ม ME ที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท ให้สามารถรับบริการได้ และจะได้รับวงเงินช่วยเหลืออุดหนุนเท่ากับกลุ่ม SE+ คือ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณ ร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

นอกจากนี้ สสว. จะปรับปรุงการใช้งานในระบบ BDS ให้ง่ายมากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงคู่มือ และคลิปสอนการใช้งานเพื่อสะดวกต่อการขอรับบริการของผู้ประกอบการ SME  ซึ่งคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เข้าถึงความต้องการของผู้ประกอบการ SME ได้มากขึ้น”

ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน  ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS (https://bds.sme.go.th/) โดยมาตรการ  SME ปัง ตังได้คืน จะเปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการสามารถยื่นข้อเสนอการพัฒนาได้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://bds.sme.go.th/ หรือ โทร. 1301 หรือโทร. 0-2038-5858 หรือ ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร หรือ OSS สสว. ในทุกจังหวัด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ