“อีอีซีแฟร์ 2024” โชว์ศักยภาพเมืองไทย ดันอุตสาหกรรม S-Curve กระจายรายได้ท่องเที่ยวคุณภาพ คาดผลักดันเศรษฐกิจขยายตัว 10% ภายใน 5 ปี

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2565

“อีอีซีแฟร์ 2024” โชว์ศักยภาพเมืองไทย ดันอุตสาหกรรม S-Curve กระจายรายได้ท่องเที่ยวคุณภาพ คาดผลักดันเศรษฐกิจขยายตัว 10% ภายใน 5 ปี


เปิดเวทีประชุมสัมมนาบูรณาการการภาครัฐและเอกชน “Re-design Thailand's sustainable future together” เตรียมจัดงาน “EEC FAIR 2024” โชว์ศักยภาพและความพร้อมของอุตสาหกรรม S-Curve  หวังผลักดันเศรษฐกิจขยายตัว 10% ภายใน 5 ปี ด้าน TCEB เดินหน้าหนุนงานอีเวนต์ในพื้นที่อีอีซี ฟื้นรายได้จากนักท่องเที่ยวคุณภาพ

ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Re-design Thailand's sustainable future together: อีอีซี โอกาส การเติบโต และศักยภาพของประเทศไทย” ว่า ภาครัฐและเอกชน นำโดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการนานาชาติ (องค์การมหาชน) เตรียมจัดงานอีอีซี แฟร์ ในปี 2024 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน การแบ่งขั้นทางการเมืองของโลก และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้มีการย้ายฐานผลิตของภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก

ท่ามกลางวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก การแบ่งขั้วทางการเมือง สงครามที่เกิดขึ้น กระทบต่อราคาพลังงานโลก ทำให้เกิดวิกฤตไปทั่วโลก เป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดการย้ายฐานผลิต ซึ่งไทยมีศักยภาพไม่แพ้เพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเป้าหมายของรัฐบาลในการดึงการลงทุน ภายใต้ยุทธศาสตร์ Better and Green Thailand 2030 และการจัดงานอีอีซี แฟร์จะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ 10% ภายใน 3 - 5 ปี”

ม.ล.ชโยทิต กล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์ Better and Green Thailand 2030 มีเป้าหมายเพิ่มจีดีพีประเทศไทยอีก 1.7 ล้านล้านบาท ดึงการลงทุนจากต่างประเทศ 2 ล้านล้านบาท เพิ่มทักษะแรงงาน 625,000 คน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 13% โดยให้ความสำคัญกับ  12 กลุ่มอุตสาหกรรมที่สร้างการเติบโตใหม่ให้กับประเทศ (S-Curve) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ ท่องเที่ยว และดิจิทัล

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีแผนขยายความร่วมมือด้านยานยนต์ไฟฟ้า กับซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะการเป็นฐานพลังงานสะอาด เพื่อรองรับไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้กระตุ้นกำลังซื้อยานยนต์ไฟฟ้ามีจำนวน 1.8 หมื่นคัน ซาอุฯเห็นโอกาสในการลงทุนด้านพลังงานสะอาด ในการเป็นทวินฮับระหว่างไทยกับซาอุฯ เป็นแหล่งสำรองน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งญี่ปุ่นจะมีความร่วมมือกับไทยในการเป็นศูนย์กลางผลิตไฮโดรเจนในภูมิภาค

นอกจากนี้ ซาอุฯ ยังสนใจลงทุนด้านดิจิทัล โดยเฉพาะอีสปอร์ต ซึ่งไทยถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกด้านอีสปอร์ต โดยมีผู้เล่นกว่า 30 ล้านคน รวมถึงมีผู้สนใจลงทุนดาต้า เซ็นเตอร์ และคลาวด์ เซอร์วิสในประเทศไทย ซึ่งพื้นที่อีอีซีจะสนับสนุนให้ไทยก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ได้ตามเป้าหมาย

นายคณิศ แสงสุพรรณ ที่ปรึกษาพิเศษ ด้านการพัฒนาขับเคลื่อนอีอีซี กล่าวว่า ปัจจุบันอีอีซีมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง ซึ่งคาดว่ารัฐจะสามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนได้ภายในสิ้นปีนี้ และเริ่มก่อสร้างได้ในต้นปี 2566 และเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2569 ขณะที่สนามบินพร้อมเปิดให้บริการรับนักท่องเที่ยว รองรับนักท่องเที่ยวได้ 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งที่ผ่านมา เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ปีละ 10 ล้านคน และนักท่องเที่ยวไทยอีก 10 ล้านคน

แนวคิดในการจัดงานอีอีซี แฟร์ จะคล้ายบีโอไอ แฟร์ ที่มีการโชว์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน เพื่อที่บอกว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกันในการพัฒนาประเทศ เหมือนตอนจัดงานบีโอไอ แฟร์ เศรษฐกิจประเทศขยายตัว 10% ซึ่งอีอีซีน่าจะดีกว่า เพราะอีอีซีจะมีความต่อเนื่อง มีกฎหมาย ทำงานครบวงจร ดึงกลไกการทำงานกับทุกภาคส่วน ร่วมกับสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม โชว์วิสัยทัศน์ระยะยาว 10 ปี การพัฒนาเทคโนโลยีและการพัฒนาคน” นายคณิศกล่าว

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวว่า ภายในปี 2570 จะมีการจัดงานในพื้นที่อีอีซีไม่ต่ำกว่า 27 งาน ซึ่งจะสร้างผลทางเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่า 7,020 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคืองานอีอีซี แฟร์ ในปี 2567 ที่คาดว่าจะประสบความสำเร็จเหมือนการจัดงานบีโอไอ แฟร์ เมื่อปี 2538 โดยปี 2570 จะมีการจัดงานอินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ โชว์ ซึ่งเป็นงานใหญ่ในพื้นที่อีอีซี ที่ใช้เงินลงทุนเกือบ 2,599 ล้านบาท สร้างเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ 4,777 ล้านบาท

สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ (MICE : Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ถือเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ที่นอกเหนือจากการเข้าร่วมงานประชุมหรืออีเวนต์ต่าง ๆ แล้ว ยังกระจายรายได้ไปสู่การท่องเที่ยวของประเทศ ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2566 คาดว่ารายได้จากธุรกิจไมซ์ในประเทศไทยจะมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าพร้อมจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการจัดงานอีอีซี แฟร์ โดยเฉพาะการขยายการรับรู้และโอกาสของอีอีซีไปสู่ประชาชนในวงกว้าง ให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนได้ และอีอีซีจะช่วยเพิ่มโอกาสของประเทศไทยท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว

สำหรับงาน “Re-design Thailand's sustainable future together : ศักยภาพของไทยบนพื้นที่ EEC สู่การจัดงาน EEC FAIR 2024” จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-23 กันยายน 2565 ณ โรงแรมเคป ดารา รีสอร์ท พัทยา โดยกิจกรรมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ โดยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรม Workshop ของ 6 กลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve ประกอบด้วย อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร, อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ, อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร, อุตสาหกรรมการพัฒนาบุคลากรและการศึกษา และอุตสาหกรรมดิจิตอล อาทิ หัวข้อ ความพร้อมของพื้นที่ EEC กับดิจิตอล, เสวนา EEC Update: ความพร้อมของประเทศไทยสู่การจัดงาน EEC FAIR 2024, เสวนา Tourism Mega Trend กับการปรับตัวของพื้นที่ EEC, Workshop ระดมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการเชื่อมโยงความร่วมมือ EEC กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน, Workshop ออกแบบ Route โปรแกรมท่องเที่ยวรองรับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงในพื้นที่ EEC



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ