Toggle navigation
วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
ชำแหละมะเร็งสังคมฉายแสงเยียวยาประเทศ
ชำแหละมะเร็งสังคมฉายแสงเยียวยาประเทศ
วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ปัญหาคอร์รัปชั่นเปรียบเสมือนเชื้อโรคร้ายที่เกาะกินสังคมไทยอย่างยากจะเยียวยาและน่าสมเพช การป้องปรามและปราบปรามเป็นไปได้ยากหากภาครัฐยังขาดความจริงใจ จนยากที่ภาคประชาสังคมจะเชื่อถือและไว้วางใจแต่ถึงกระนั้นการผ่าตัดมะเร็งก้อนนี้ก็ยังต้องดำเนินต่อไปหากไม่อยากเห็นประเทศนี้ล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา ในงานเสวนาเรื่อง "บทบาทภาคประชาสังคมกับการต่อต้านคอร์รัปชั่น" ภายใต้โครงการวิจัย "คู่มือประชาชนรู้ทันคอร์รัปชั่น" ให้แง่คิดกับเราได้เป็นอย่างดี..
ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผอ. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า คอร์รัปชั่นเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมไทย ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ ที่มากไปกว่านั้นคือ การสูญเสียโอกาสของ ประเทศ อันสืบเนื่องมาจากปัญหาความไม่ไว้วางใจกันระหว่างรัฐบาล กับภาคประชาสังคม ส่งผลให้โครงการลงทุนดีๆ ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะสังคมต่อต้าน รัฐบาลเนื่องจากเกรงว่าโครงการเหล่านั้นจะเป็นช่องทางให้รัฐบาลทุจริต
ศ.นพ.สุทธิพันธ์ กล่าวว่า "มะเร็ง" ไม่ต้องมีคำว่า "ร้าย" ก็แย่มากแล้ว เมื่อเทียบเคียงกับการคอร์รัปชั่นเป็นมะเร็งที่มีมูลความจริง เพราะเป็นโรคที่คนเป็นไม่รู้ตัว รู้ตัวก็ใกล้จะตายแล้ว รักษา ไม่ได้ หรือรักษาก็จะแพงมาก และการฉาย แสงหรือเคมีบำบัดล้วนทำลายคนไข้ และ อยู่ได้ไม่นานก็ตาย และถ้าคอร์รัปชั่นเป็นมะเร็งของสังคม ประเทศไทยกำลังจะตาย จากมะเร็งหรือไม่
ในมุมของแพทย์ การรักษามะเร็งถ้ารู้เร็วก็รักษาได้ แต่ดีที่สุดคือต้อง "ป้องกัน" เช่นเดียวกับคอร์รัปชั่นป้องกันได้ ประ- เทศไทยมีหน่วยงานปราบปรามคอร์รัปชั่นหลายหน่วยงาน ทั้ง ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ) แต่คอร์รัปชั่นไม่ได้ลดลง
"เพราะฉะนั้นเชื่อว่าการดึงภาคประชาสังคมเข้ามาแก้ไขปัญหาคอร์รัป ชั่นจะเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาระยะยาวได้" ศ.นพ.สุทธิพันธ์ กล่าว
พันตำรวจเอกดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม มองว่า ข้าราชการ ที่ดีตั้งใจทำงานเพื่อแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น มักถูกโยกย้ายให้ไปรับผิดชอบในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นแบบนี้คงไม่มีทางสำเร็จ รัฐบาล ทำได้เพียงการต่อสู้คอร์รัปชั่น โดย "จัดอีเวนต์" แล้วประกาศเจตนารมณ์ว่าจะไม่ทุจริต มีการตั้ง call center เพื่อเป็นตัวชี้วัดว่า ถ้าประชาชนมีความเดือดร้อนก็โทร. มา คือ ทุกปัญหาจะต้องโทร.มาที่ call center
"จะแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นทำอย่างไรให้สำเร็จตอบไม่ได้ รู้แต่ว่าที่เคยทำมาไม่สำเร็จ แต่เชื่อว่าประเทศไทยยังมีหวังจาก ภาคประชาสังคม และข้าราชการดีๆ ที่ยังมีอยู่จำนวนมาก" รองปลัดยธ.กล่าว
ดร.มานะ นิมิตรมงคล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นกล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นตั้งเป้ายุทธศาสตร์ 5 กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มนักการเมือง ข้าราชการ ประชาชน นักธุรกิจ โดยช่วง 2 ปีตั้งแต่ตั้งองค์กรฯ พบว่า การต่อสู้กับคอร์รัปชั่น ถ้าไม่มี "political will" หรือ (เจตนารมณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน) ถ้าไม่มีการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นทำได้ยาก
องค์กรฯ พยายามเคลื่อนไหวทำเรื่อง "ข้อตกลงด้านคุณธรรม" ซึ่งรัฐบาลได้ให้ "ยาหอม" โดยมีรัฐมนตรีประกาศจะใช้ข้อตกลงคุณธรรมในการดำเนินโครงการของภาครัฐ คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งตกลงว่าจะนำ ข้อตกลงคุณธรรมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อนำไปปฏิบัติกับกระทรวงอื่นๆ และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่า การกระทรวงคมนาคม ซึ่งบอกว่า จะนำใช้ข้อตกลงคุณธรรมนำร่องกับโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพ มหานคร
รัฐมนตรี 2 ท่านแรก ประกาศร่วมมือกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ส่วน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไม่ได้แถลงข่าวแต่มาทำข้อตกลงร่วมกับองค์กรฯ จนถึงขณะนี้เรื่องยังนิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้นายกิตติรัตน์บอกว่าจะนำเรื่องเสนอเข้า ครม. แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีความคืบหน้า หรือรัฐมนตรีชัชชาติระยะหลังก็บอกว่าต้องรอดูระเบียบก่อน แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ประกาศต่อต้านคอร์รัปชั่นหลังปรับ ครม. ครั้งล่าสุด แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ เลย จึงเกรงว่าจะเป็นเพียงพิธีกรรม
อย่างไรก็ตาม ผลงานที่ถือว่าประสบ ความสำเร็จขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นที่ดำเนินการมา 2 ปีคือ 1.การแก้ปัญหา สินบนนำจับจากกรมศุลกากร ซึ่งผลักดันจนมีการแก้กฎระเบียบของกรมศุลกากร ทำให้ปัญหาสินบนนำจับลดน้อยลง 2. เรื่องรถยนต์ เกรย์มาร์เก็ต ปัจจุบันได้รับการแก้ไขจากรัฐบาล 3.เรื่องการออกใบอนุญาตโรงงาน 4 ซึ่งมีการพิจารณาแล้ว โดยความต้องการคือไม่ใช่ให้ปล่อยผีใบอนุญาตโรงงาน 4 แต่ต้องการให้พิจารณา ตามหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง ถ้าใครทำไม่ถูกต้องก็ไม่ต้องออกใบอนุญาต และ 4. การเปิดเผยราคากลางและที่มาของราคากลางต่อกรมบัญชีกลาง ซึ่งจะมีผลวันที่ 11 ส.ค. นี้
ส่วนกรณีบริษัทไร่ส้ม หลังจากมีการ เคลื่อนไหวได้มีการต่อยอดสร้างกระแส การเคลื่อนไหวเรื่องนี้ โดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นได้เชิญคณบดี คณะนิเทศศาสตร์ 6 มหาวิทยาลัย มาคุยเรื่องปัญหาจรรยาบรรณ ปัญหาสื่อมวลชนที่ถูกครอบงำจาก ธุรกิจ และตลาดหลักทรัพย์กับ ก.ล.ต. ได้ออกหนังสือเวียนแจ้งไปยังบริษัทจดทะเบียนทุกแห่งให้ระมัดระวังการทำธุรกิจ กับบริษัทไร่ส้ม
จากนั้นมี 5 บริษัทใหญ่ในตลาด หลักทรัพย์ออกมาประกาศว่าจะไม่ลงทุนในธุรกิจใดๆ ก็ตามที่มีการทุจริต จนล่าสุด มีความพยายามเพิ่มเติมที่จะกำหนดเป็นมาตรฐานบังคับในตลาดหลักทรัพย์ คือเป็นมาตรการต่อต้านคอร์รัปชั่นในตลาด หลักทรัพย์
"เราต้องการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ เพราะการต่อสู้กับคอร์รัปชั่นเป็นการทำงานระยะยาว ถ้าต้องขอให้ได้มาทีละนิด ทีละคืบเราก็เอา เราจึงมีความ จำเป็นต้องอดทนกับเรื่องเหล่านี้และก็เงียบ" ดร.มานะ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ